The general principles to change th

The general principles to change the sentence into a sentence, Active Voice Passive Voice

1. To take the direct object of a sentence Active Voice to object in a sentence Passive Voice by preposition by "front."

2. To take the direct object of a sentence Active Voice became president in the sentence, Passive Voice

3 verb of the sentence. Active Voice. When used in a sentence Passive Voice must be a verb form channels that 3 (Past Participle) and after. Verb to be is is am are was, were be being been which is used Verb to be any body have to see tense.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักการทั่วไปเพื่อเปลี่ยนประโยคในประโยค ใช้เสียง Passive เสียง1. การรับวัตถุตรงประโยคกรรตุวาจกวัตถุในประโยคกรรมวาจกโดยวิเศษณ์ โดย "หน้า"2. การใช้วัตถุตรงประโยค กรรตุวาจกเป็น ประธานในประโยค วาจก3 กริยาของประโยค เสียงใช้ เมื่อใช้ในประโยค Passive เสียงต้องเป็น แบบกริยาช่องที่ 3 (รูปอดีตกาล) และหลังจากนั้น กริยาต้องเป็น:จะได้ ถูกถูกถูกถูกที่เป็นกริยาใช้เป็น ร่างกายใด ๆ ต้องดูกาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักการทั่วไปที่จะเปลี่ยนประโยคลงในประโยคที่ใช้งานเสียงแบบ Passive เสียง1 เพื่อที่จะใช้วัตถุโดยตรงของประโยคที่ใช้งานด้วยเสียงที่จะคัดค้านในประโยค Passive เสียงโดยคำบุพบทโดย "ด้านหน้า." 2 เพื่อที่จะใช้วัตถุของประโยคเสียงที่ใช้งานกลายเป็นประธานาธิบดีในประโยคที่เป็น Passive เสียง3 คำกริยาของประโยค กรรตุวาจก เมื่อนำมาใช้ในประโยค Passive เสียงจะต้องเป็นช่องคำกริยารูปที่ 3 (อดีตกริยา) และหลังจากนั้น คำกริยาที่จะเป็นจะนถูกถูกถูกถูกรับซึ่งจะใช้คำกริยาจะเป็นตัวใดต้องดูเครียด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักการทั่วไปในการเปลี่ยนประโยค Active Voice ให้เป็นประโยคกรรมวาจก1 . เอากรรมของประโยค Active Voice กับวัตถุในประโยค Passive Voice โดยคำบุพบท " ด้านหน้า "2 . เอากรรมของประโยค Active Voice เป็นประธานในประโยคกรรมวาจก3 กริยาของประโยค ที่ใช้งานเสียง เมื่อใช้ในประโยค Passive Voice จะต้องเป็นกริยาช่องที่ 3 รูปแบบ ( past participle ) และหลังจาก กริยาจะต้องเป็น คือ ถูกเป็นถูกซึ่งจะใช้กริยาที่จะร่างกายใด ๆต้องดูตึงเครียด