By measuring student growth, using

By measuring student growth, using the pre-assessments and post-assessments from each unit, it was evident that the students experienced more growth in the unit taught with constructivist methods as compared to that taught with traditionalist methods. However, only with the sixth grade students‘ growth scores was there a statistical significant difference (p < .05) between the mean scores for the two instructional methods (seventh grade, p > .05) when running a dependent t-test. The growth was significantly larger with the sixth grade students than with the seventh grade students. The sixth grade students experienced almost 20% more growth in the inquiry-based unit compared to the traditional unit. This difference could have been impacted by the various types of content taught within the different units. Further research could be done to determine if the type of content effects student academic growth when using a variety of instructional methods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยการวัดการเจริญเติบโตของนักเรียน ใช้ประเมินก่อนและหลังการประเมินผลจากแต่ละหน่วย ได้ชัดว่า นักเรียนมีประสบการณ์การเติบโตเพิ่มเติมในหน่วยการสอน ด้วยวิธีการแบบสร้างสรรค์นิยมเมื่อเทียบกับที่สอน ด้วยวิธี traditionalist อย่างไรก็ตาม ด้วยคะแนนเจริญเติบโตของนักเรียนเกรด 6 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) ระหว่างคะแนนเฉลี่ยสำหรับวิธีการจัดการเรียนการสอนสองวิธี (เจ็ด ชั้นปี p > .05) เมื่อใช้ทดสอบ t ขึ้นอยู่ การเจริญเติบโตมีขนาดใหญ่อย่างมีนัยสำคัญกับนักเรียนเกรดหกกว่ากับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่เจ็ด นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประสบการณ์เติบโตเกือบ 20% ในหน่วยสอบถามตามที่เปรียบเทียบกับหน่วยเดิม ความแตกต่างนี้อาจมีได้รับผลกระทบจากชนิดต่าง ๆ เนื้อหาที่สอนภายในหน่วยต่าง ๆ สามารถทำวิจัยเพิ่มเติมเพื่อกำหนดชนิดของเนื้อหาถ้าผลเจริญเติบโตทางวิชาการของนักเรียนเมื่อใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยการวัดการเติบโตของนักเรียนโดยใช้การประเมินผลก่อนและการประเมินผลจากการโพสต์แต่ละหน่วยก็เห็นได้ชัดว่านักเรียนประสบการณ์การเจริญเติบโตมากขึ้นในหน่วยการสอนด้วยวิธีสตรัเมื่อเทียบกับที่สอนด้วยวิธีการอนุรักษนิยม แต่เฉพาะกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หกคะแนนการเจริญเติบโตก็มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p <0.05) ระหว่างค่าเฉลี่ยสำหรับทั้งสองวิธีการเรียนการสอน (เกรดเจ็ด p> 0.05) เมื่อทำงานขึ้นอยู่กับ t-test การเจริญเติบโตอย่างมีนัยสำคัญขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หกกว่ากับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่เจ็ด นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หกมีประสบการณ์เกือบ 20% การเจริญเติบโตมากขึ้นในหน่วยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ใช้เมื่อเทียบกับหน่วยดั้งเดิม ความแตกต่างนี้จะได้รับผลกระทบจากหลายประเภทของเนื้อหาการเรียนการสอนภายในหน่วยที่แตกต่าง นอกจากนี้การวิจัยสามารถทำได้เพื่อตรวจสอบว่าชนิดของผลกระทบที่เนื้อหาการเติบโตของนักเรียนวิชาการเมื่อใช้ความหลากหลายของวิธีการเรียนการสอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยการวัดการเจริญเติบโตของนักเรียน โดยใช้การประเมินและการประเมินผลก่อนการโพสต์จากแต่ละหน่วย มันเห็นได้ชัดว่านักศึกษาที่มีประสบการณ์การเจริญเติบโตมากขึ้นในหน่วยการสอนด้วยวิธีสอนตามแนวคิดเมื่อเทียบกับวิธีการที่พวกคร่ำครึ อย่างไรก็ตาม ด้วยคะแนนพัฒนาการของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ( p < .05 ) ระหว่างค่าเฉลี่ยสำหรับสองวิธีสอน ( เกรด 7 , p > . 05 ) เมื่อรันการทดสอบค่าที การเจริญเติบโตอย่างมีนัยสำคัญขนาดใหญ่กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กว่ากับนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสบการณ์การเจริญเติบโตเกือบ 20 % ในหน่วยการสอบถามจากหน่วย เมื่อเทียบกับแบบดั้งเดิมความแตกต่างนี้อาจได้รับผลกระทบจากประเภทต่างๆของเนื้อหาที่สอนภายในหน่วยต่าง ๆ ศึกษาเพิ่มเติม อาจจะทำเพื่อตรวจสอบว่าประเภทของเนื้อหาผลการเจริญเติบโต เมื่อนักเรียนใช้ความหลากหลายของวิธีสอน