One traditional measure of intellig

One traditional measure of intelligence is a standardized intelligence quotient (IQ) test, which measures an individual's ability to reason and solve problems. Nearly all studies about the link between intelligence and genetics rely on results obtained from IQ tests, which generally provide an overall score along with measures of verbal ability and performance ability. Although there are several versions of IQ tests available, test takers generally perform comparably on all of them, presumably indicating that they all measure comparable aspects of cognitive ability. Critics of IQ tests as measures of intelligence contend that they do not measure all abilities in the complex realm of intelligence. They observe that the tests measure one small segment of the diverse abilities that comprise intelligence, evaluate only analytic abilities, fail to assess creative or practical abilities, and measure only a small sample of the skills that define the domain of intelligent human behavior.

Despite concern about whether IQ tests fully measure intelligence, nearly all scientific study of the contributions of genetics and environment to intelligence have focused on measuring IQ and examining individuals who differ in their familial relationships. For example, if genetics plays the predominant role in IQ, then identical twins should have IQs that compare more closely than the IQs of fraternal twins, and siblings' IQs should correlate more highly than those of cousins. In "Genetics of Childhood Disorders, II: Genetics and Intelligence" (Journal of the American Academy of Child and Adolescent Psychiatry, vol. 38, no. 5, May 1999), Alan Kaufman observed that scientists who argue in favor of genetic determination of IQ cite these data to support their assertion that:

Identical (monozygotic) twins' IQs are more similar than those of fraternal (dizygotic) twins.
IQs of siblings correlate more highly than IQs of half-siblings, which, in turn, correlate higher than IQs of cousins.
IQ correlations between a biological parent and child living together are higher than those between an adoptive parent and child living together.
Kaufman asserted that the following results support scientists who believe that environment more strongly determines IQ:

IQs of fraternal twins correlate more highly than IQs of siblings of different ages despite the same degree of genetic similarity.
Unrelated siblings reared together, such as biological and adopted children, have IQs that are more similar than biological siblings reared apart.
Correlations between IQs of an adoptive parent and a child living together are similar to correlations of a biological parent and a child living apart.
Siblings reared together have IQs that are more similar than siblings reared apart, and the same finding holds for parents and children, when they live together or apart.
The preponderance of evidence from twin, family, and adoption studies supports increasing heritability of intelligence over time, ranging from 20% in infancy to 60% in adulthood, along with environmental factors estimated to contribute about 30%. Kaufman suggested that heredity is important in determining a person's IQ, but environment is also crucial. Based on twin studies, the heritability percentage for IQ is approximately fifty, which is comparable with the heritability value for body weight. Kaufman believed that the genetic contribution to weight and intelligence are comparable. He observes that many overweight people have a genetic predisposition for a large frame and a metabolism that promotes weight gain, while naturally thin people have the opposite genetic predisposition. Nonetheless, for most people environmental factors such as diet and exercise have a substantial impact on weight. Similarly, genetics and environment interact to determine IQ, and people with genetic, familial relationships such as parents and siblings frequently share common environments.

In "Virtual Twins: New Findings on Within-Family Environmental Influences on Intelligence" (Journal of Educational Psychology, vol. 92, no. 3, September 2000), psychologist Nancy Segal examined "virtual twins"—genetically unrelated siblings (typically adopted) of the same age who were reared together from early infancy—to assess environmental influences on intelligence. The results of this study reveal that the IQ correlation of virtual twins fell considerably below correlations reported for identical twins, fraternal twins, and full siblings. Segal interpreted these results as a demonstration of the modest effects of environment on intellectual development and as supporting a predominantly genetic role in determining intelligence.

Robert Plomin detailed similar findings from adoption studies in "Genetics of Childhood Disorders, III: Genetics and Intelligence" (Journal of the American Academy of Child and Adolescent Psychiatry, vol. 38, no. 6, June 1999). He observed that adoption studies have a substantial estimated heritability, finding that identical twins reared apart are almost as similar for measures of intelligence as identical twins reared together. Plomin also looked at 245 children adopted in the first month of life from the Colorado Adoption Project to see if there is more of a parent-offspring or an adoptive parent–adopted children correlation of IQ scores. He found significant correlations between biological mothers and their adopted-away children and almost no parent-offspring correlations for adoptive parents and their adopted children, suggesting that family environment shared by parents and offspring does not contribute as strongly as genetic influences to parent-offspring resemblance for selected measures of intelligence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดแบบหนึ่งปัญญาเป็นแบบทดสอบมาตรฐานระดับเชาวน์ปัญญา (IQ) ที่วัดความสามารถของบุคคลให้เหตุผล และแก้ปัญหา การศึกษาเกือบทั้งหมดเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างศูนย์พันธุกรรมและสติปัญญาอาศัยผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบ IQ ซึ่งโดยทั่วไปให้เป็นคะแนนรวมกับวัดความด้วยวาจาและประสิทธิภาพความสามารถใน แม้ว่ามีหลายเวอร์ชันทดสอบ IQ ผู้ทำการทดสอบโดยทั่วไปทำปานทั้งหมด สันนิษฐานเพื่อระบุว่า พวกเขาวัดเทียบทุก ๆ อย่างสามารถรับรู้ นักวิจารณ์ของ IQ ทดสอบเป็นมาตรการของปัญญาขอยืนยันว่า พวกเขาได้วัดความสามารถทั้งหมดในขอบเขตของปัญญาซับซ้อน จะสังเกตว่า การทดสอบวัดส่วนหนึ่งเล็ก ๆ ของความหลากหลายที่มีปัญญา ประเมินความสามารถคู่เท่านั้น ไม่สามารถประเมินความสามารถในการสร้างสรรค์ หรือปฏิบัติ และวัดเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ ของทักษะที่กำหนดโดเมนของพฤติกรรมมนุษย์อัจฉริยะแม้ มีความกังวลเกี่ยวกับว่าทดสอบ IQ เต็มวัดปัญญา วิชาวิทยาศาสตร์เกือบทุกผลงานของพันธุศาสตร์และสิ่งแวดล้อมการข่าวกรองได้มุ่งเน้นในการวัด IQ และการตรวจสอบบุคคลที่แตกต่างกันในความสัมพันธ์ของภาวะ ตัวอย่าง พันธุศาสตร์บทบาทกันใน IQ แล้วฝาแฝดเหมือนควรได้ IQs ที่เปรียบเทียบได้ใกล้เคียงกว่า IQs ของแฝด fraternal และของพี่น้อง IQs ควรซึ่งสูงกว่าของลูกพี่ลูกน้อง ใน "พันธุศาสตร์ของโรคเด็ก II: พันธุศาสตร์และปัญญา" (สมุดรายวันของอเมริกันสถาบันเด็กจิตเวชและวัยรุ่น ปี 38 หมายเลข 5, 1999 พฤษภาคม), Alan Kaufman สังเกตว่า นักวิทยาศาสตร์ที่โต้แย้งสามารถกำหนดพันธุกรรมของ IQ อ้างอิงข้อมูลเหล่านี้เพื่อสนับสนุนยืนยันตนที่:(Monozygotic) เหมือนฝาแฝดของ IQs จะคล้ายกันมากขึ้นกว่าของแฝด fraternal (dizygotic)IQs ของพี่น้องซึ่งสูงกว่า IQs ครึ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง จะ เชื่อมโยงมากกว่า IQs ของลูกพี่ลูกน้องIQ ความสัมพันธ์ระหว่างหลักชีวภาพและเด็กที่อาศัยอยู่ร่วมกันสูงระหว่างการบุญธรรมและเด็กที่อาศัยอยู่ร่วมกันได้Kaufman คนให้ ผลสนับสนุนนักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่า สภาพแวดล้อมกำหนด IQ อย่างรุนแรง:IQs fraternal แฝดซึ่งสูงกว่า IQs ของพี่น้องต่างวัยแม้มีความคล้ายคลึงกันทางพันธุกรรมในระดับเดียวกันพี่น้องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ผลิตภัณฑ์เช่นชีวภาพ และนำเด็ก มี IQs ที่คล้ายกันมากกว่าพี่น้องชีวภาพผลิตภัณฑ์กันความสัมพันธ์ระหว่าง IQs เป็นบุญธรรมและเด็กที่อาศัยอยู่ร่วมกันเหมือนกับความสัมพันธ์ของหลักการทางชีวภาพและเด็กอยู่กันได้IQs ที่คล้ายกันมากกว่าพี่น้องแยกผลิตภัณฑ์มีผลิตภัณฑ์ด้วยกันพี่น้อง และค้นหาเหมือนมีพ่อแม่และเด็ก เมื่อพวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกัน หรือแยกกำกับหลักฐานจากคู่ ครอบครัว และการศึกษายอมรับสนับสนุน heritability เพิ่มขึ้นของปัญญาเวลา ตั้งแต่ 20% ในวัยเด็กถึง 60% ในวุฒิ รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมประเมินประมาณ 30% มีส่วนร่วม Kaufman แนะนำทางเลือกเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดบุคคล IQ แต่สภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ ตามศึกษาคู่ เปอร์เซ็นต์ heritability สำหรับ IQ ได้ประมาณห้าสิบ ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบกับค่า heritability สำหรับน้ำหนักตัว Kaufman เชื่อผันแปรทางพันธุกรรมน้ำหนักและปัญญาเทียบเคียง เขาพิจารณาว่า ภาวะหลายคนมี predisposition พันธุกรรมสำหรับเฟรมใหญ่และเมแทบอลิซึมซึ่งน้ำหนัก ในขณะที่ธรรมชาติบางคนมี predisposition พันธุกรรมตรงกันข้าม กระนั้น สำหรับคนส่วนใหญ่ ปัจจัยแวดล้อมเช่นอาหารและออกกำลังกายได้กระทบกับน้ำหนัก ในทำนองเดียวกัน พันธุศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่ทำงานเพื่อกำหนด IQ และคนที่ มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม ภาวะเช่นพ่อแม่และพี่น้องมักใช้ร่วมกันสภาพแวดล้อมทั่วไปใน "เสมือนฝาแฝด:ใหม่พบบนภายในครอบครัวด้านสิ่งแวดล้อมมีผลต่อในปัญญา" (สมุดรายวันของศึกษาจิตวิทยา ปี 92 หมายเลข 3, 2000 กันยายน), จิตวิทยา Nancy Segal ตรวจสอบ "เสมือนฝาแฝด" — แปลงพันธุกรรมเกี่ยวข้อง (โดยปกติจะนำมาใช้) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอายุเดียวกันที่มีผลิตภัณฑ์ด้วยกันจากต้นซึ่งจะมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมในระบบสารสนเทศ ผลการศึกษานี้แสดงว่า ความสัมพันธ์ของ IQ ของแฝดเสมือนตกมากด้านล่างสัมพันธ์รายงานเหมือนฝาแฝด แฝด fraternal และพี่น้องเต็ม Segal แปลผลลัพธ์เหล่านี้ เป็นการสาธิตผลเจียมเนื้อเจียมตัวของสภาพแวดล้อมในการพัฒนาทางปัญญา และ เป็นการสนับสนุนบทบาททางพันธุกรรมส่วนใหญ่ในการกำหนดระบบสารสนเทศโรเบิร์ต Plomin รายละเอียดคล้ายกันผลการวิจัยจากการศึกษาการยอมรับใน "พันธุศาสตร์ของโรคเด็ก III: พันธุศาสตร์และปัญญา" (สมุดรายวันอเมริกันสถาบันเด็กจิตเวชและวัยรุ่น ปี 38 หมายเลข 6, 1999 มิถุนายน) เขาสังเกตเห็นว่า การศึกษายอมรับมี heritability ประเมินที่พบ ค้นหาว่า ฝาแฝดเหมือนผลิตภัณฑ์กันเป็นเกือบคล้ายกันสำหรับมาตรการของปัญญาเป็นฝาแฝดเหมือนผลิตภัณฑ์กัน Plomin ยังดูเด็กที่นำมาใช้ในเดือนแรกของชีวิตจากโครงการยอมรับโคโลราโดเพื่อดูว่ามีแม่ลูกหลานมากขึ้นหรือความสัมพันธ์ของคะแนน IQ เด็ก – นำหลัก adoptive ที่ 245 เขาพบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างชีวภาพแม่ และเด็กนำเก็บ และแทบไม่สัมพันธ์แม่ลูกหลานในปกครอง adoptive และ ลูกบุญธรรม แนะนำสภาพแวดล้อมครอบครัว โดยพ่อแม่และลูกหลานที่ใช้ร่วมกันไม่สนับสนุนเป็นอิทธิพลขอเป็นทางพันธุกรรมให้ลูกหลานแม่รูปสำหรับวัดปัญญาเลือก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในมาตรการแบบดั้งเดิมของปัญญาเป็นมาตรฐานเชาวน์ปัญญา (IQ) การทดสอบซึ่งมาตรการความสามารถของแต่ละบุคคลที่จะให้เหตุผลและแก้ปัญหา เกือบทั้งหมดที่เกี่ยวกับการศึกษาการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยสืบราชการลับและพันธุศาสตร์พึ่งพาผลที่ได้จากการทดสอบไอคิวซึ่งโดยทั่วไปจะให้คะแนนโดยรวมพร้อมกับมาตรการของความสามารถในการพูดและความสามารถในการปฏิบัติงาน แม้ว่าจะมีหลายรุ่นของการทดสอบไอคิวที่มีผู้สอบทั่วไปดำเนินปานทั้งหมดของพวกเขาน่าจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาด้านวัดเทียบเคียงทั้งหมดของความสามารถทางปัญญา นักวิจารณ์ของการทดสอบไอคิวเป็นมาตรการของปัญญายืนยันว่าพวกเขาไม่ได้วัดความสามารถทั้งหมดในโลกที่ซับซ้อนของหน่วยสืบราชการลับ พวกเขาสังเกตว่าการทดสอบวัดส่วนหนึ่งเล็ก ๆ ของความสามารถที่หลากหลายที่ประกอบด้วยสติปัญญาประเมินความสามารถในการวิเคราะห์เพียงล้มเหลวในการประเมินความสามารถในการคิดสร้างสรรค์หรือการปฏิบัติและวัดเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ ของทักษะที่กำหนดโดเมนพฤติกรรมของมนุษย์ฉลาด. แม้จะมีความกังวล เกี่ยวกับว่าการทดสอบไอคิววัดปัญญาอย่างเต็มที่เกือบทั้งหมดศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของการมีส่วนร่วมของพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมในการหน่วยสืบราชการลับได้มุ่งเน้นการวัดไอคิวและตรวจสอบบุคคลที่แตกต่างกันในความสัมพันธ์ในครอบครัวของพวกเขา ตัวอย่างเช่นถ้าพันธุกรรมมีบทบาทเด่นใน IQ แล้วฝาแฝดเหมือนกันควรจะมีไอคิวที่เปรียบเทียบอย่างใกล้ชิดกว่าไอคิวของน้องฝาแฝดและไอคิวพี่น้อง 'ควรมีความสัมพันธ์มากขึ้นสูงกว่าของญาติ ใน "พันธุศาสตร์ของความผิดปกติในวัยเด็ก, II: พันธุศาสตร์และหน่วยสืบราชการลับ" (.. วารสาร American Academy of จิตเวชเด็กและวัยรุ่นฉบับ 38 ไม่มี 5 พฤษภาคม 1999), อลันลิตรตั้งข้อสังเกตว่านักวิทยาศาสตร์ที่โต้แย้งในความโปรดปรานของความมุ่งมั่นทางพันธุกรรมของ IQ อ้างข้อมูลเหล่านี้เพื่อสนับสนุนการยืนยันของพวกเขาว่า. เหมือนกัน (monozygotic) ไอคิวฝาแฝดมีมากขึ้นกว่าที่คล้ายกันของพี่น้อง (dizygotic) ฝาแฝดไอคิวของพี่น้องมีความสัมพันธ์มากขึ้นสูงกว่าไอคิวของครึ่งพี่น้องซึ่งในทางกลับกันมีความสัมพันธ์สูงกว่า . ไอคิวของญาติ. ความสัมพันธ์ระหว่าง IQ แม่ชีวภาพและเด็กอยู่ด้วยกันมีความสูงกว่าระหว่างพ่อแม่บุญธรรมและลูกอยู่ด้วยกันลิตรซึ่งถูกกล่าวหาว่าผลดังต่อไปนี้นักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่าการสนับสนุนสภาพแวดล้อมที่รุนแรงกำหนด IQ: ไอคิวของฝาแฝดพี่น้องกันมีความสัมพันธ์มากขึ้น สูงกว่าไอคิวของพี่น้องของทุกเพศทุกวัยที่แตกต่างกันแม้จะมีการศึกษาระดับปริญญาเดียวกันของความคล้ายคลึงกันทางพันธุกรรม. พี่น้องที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลี้ยงด้วยกันเช่นเด็กทางชีวภาพและนำมาใช้มีไอคิวที่มีมากขึ้นกว่าที่คล้ายกันพี่น้องชีวภาพเลี้ยงออกจากกัน. ความสัมพันธ์ระหว่างไอคิวของพ่อแม่บุญธรรมและเด็ก อยู่ด้วยกันมีความคล้ายคลึงกับความสัมพันธ์ของผู้ปกครองทางชีวภาพและเด็กที่มีชีวิตออกจากกัน. พี่น้องที่เลี้ยงด้วยกันมีไอคิวที่มีมากขึ้นกว่าที่คล้ายกันพี่น้องเลี้ยงกันและการค้นพบเดียวกันถือสำหรับผู้ปกครองและเด็กเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันหรือแยกออกจากกัน. ครอบงำของ หลักฐานจากคู่ครอบครัวและการศึกษานำไปใช้สนับสนุนการเพิ่มขึ้นของความฉลาดทางพันธุกรรมในช่วงเวลาตั้งแต่ 20% อยู่ในวัยเด็กถึง 60% ในวัยพร้อมกับปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าจะมีส่วนร่วมประมาณ 30% ลิตรชี้ให้เห็นว่าการถ่ายทอดทางพันธุกรรมเป็นสิ่งที่สำคัญในการกำหนดไอคิวของคน แต่สภาพแวดล้อมยังเป็นสิ่งสำคัญ จากการศึกษาคู่ร้อยละพันธุกรรมสำหรับไอคิวอยู่ที่ประมาณห้าสิบซึ่งก็เปรียบได้กับค่าพันธุกรรมสำหรับน้ำหนักของร่างกาย ลิตรเชื่อว่าการมีส่วนร่วมทางพันธุกรรมน้ำหนักและหน่วยสืบราชการลับที่มีการเทียบเคียง เขาตั้งข้อสังเกตว่าคนอ้วนหลายคนมีความบกพร่องทางพันธุกรรมสำหรับกรอบขนาดใหญ่และการเผาผลาญอาหารที่ส่งเสริมการเพิ่มน้ำหนักในขณะที่บางคนตามธรรมชาติมีความบกพร่องทางพันธุกรรมตรงข้าม อย่างไรก็ตามสำหรับคนส่วนใหญ่ปัจจัยสิ่งแวดล้อมเช่นการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายมีผลกระทบต่อน้ำหนัก ในทำนองเดียวกันพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมในการโต้ตอบเพื่อตรวจสอบไอคิวและคนที่มีพันธุกรรมความสัมพันธ์ในครอบครัวเช่นพ่อแม่และพี่น้องบ่อยแบ่งปันสภาพแวดล้อมทั่วไป. ใน "ฝาแฝดเสมือน: ค้นพบใหม่เกี่ยวกับอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายในครอบครัวในหน่วยสืบราชการลับ" (วารสารจิตวิทยาการศึกษาฉบับ . 92, ไม่มี. 3 กันยายน 2000) นักจิตวิทยาแนนซีกัลตรวจสอบ "ฝาแฝดเสมือน" พี่น้องที่ไม่เกี่ยวข้อง -genetically (นำมาใช้โดยทั่วไป) ในวัยเดียวกันที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยกันจากวัยเด็กไปในช่วงต้นประเมินอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมในหน่วยสืบราชการลับ ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ IQ ของฝาแฝดเสมือนลดลงต่ำกว่าความสัมพันธ์รายงานฝาแฝดเหมือนฝาแฝดพี่น้องและพี่น้องเต็ม ซีกัลตีความผลลัพธ์เหล่านี้เป็นสาธิตของผลกระทบที่เจียมเนื้อเจียมตัวของสภาพแวดล้อมในการพัฒนาทางปัญญาและสนับสนุนบทบาททางพันธุกรรมส่วนใหญ่ในการกำหนดหน่วยสืบราชการลับ. โรเบิร์ต Plomin รายละเอียดผลการวิจัยที่คล้ายกันจากการศึกษาการยอมรับใน "พันธุศาสตร์ของความผิดปกติในวัยเด็ก, iii: พันธุศาสตร์และหน่วยสืบราชการลับ" (วารสาร ของ American Academy of จิตเวชเด็กและวัยรุ่นฉบับ. 38, ไม่มี. 6 มิถุนายน 1999) เขาสังเกตเห็นว่าการศึกษาการยอมรับมีพันธุกรรมประมาณการที่สำคัญพบว่าฝาแฝดเลี้ยงออกจากกันเกือบจะเป็นที่คล้ายกันสำหรับมาตรการของปัญญาเป็นฝาแฝดเหมือนที่เลี้ยงด้วยกัน Plomin ยังมอง 245 ลูกบุญธรรมในเดือนแรกของชีวิตจากโครงการการยอมรับโคโลราโดเพื่อดูว่ามีมากขึ้นของพ่อแม่และลูกหลานหรือเด็กพ่อแม่บุญธรรมบุญธรรมความสัมพันธ์ของคะแนนไอคิว เขาพบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างมารดาชีวภาพและลูกบุญธรรมออกไปของพวกเขาและเกือบจะไม่มีความสัมพันธ์พ่อแม่ลูกสำหรับพ่อแม่บุญธรรมและเด็กเป็นลูกบุญธรรมของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมทางครอบครัวที่ใช้ร่วมกันโดยพ่อแม่และลูกหลานไม่ได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากขณะที่อิทธิพลทางพันธุกรรมคล้ายคลึงพ่อแม่ลูกหลาน สำหรับมาตรการที่เลือกของหน่วยสืบราชการลับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งวัดดั้งเดิมของปัญญาคือ สติปัญญา ( IQ ) มาตรฐานการทดสอบ ซึ่งวัดความสามารถของบุคคล เหตุผล และแก้ไขปัญหา เกือบทั้งหมดที่ศึกษาเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างสติปัญญาและพันธุศาสตร์พึ่งพาผลที่ได้จากการทดสอบไอคิว ซึ่งโดยทั่วไปจะให้คะแนนโดยรวมพร้อมกับการวัดความสามารถทางวาจาและความสามารถในการปฏิบัติงานแม้ว่าจะมีหลายรุ่นของการทดสอบไอคิวของผู้สอบโดยทั่วไปแสดงปานกันบนทั้งหมดของพวกเขา แต่ระบุว่า พวกเขาทั้งหมดวัดด้านเปรียบความสามารถด้านสติปัญญา นักวิจารณ์ของการทดสอบไอคิวเป็นมาตรการของข่าวกรองยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้วัดความสามารถในขอบเขตที่ซับซ้อนของความฉลาดพวกเขาสังเกตว่าการทดสอบวัดหนึ่งส่วนเล็ก ๆของความสามารถที่หลากหลายที่ประกอบด้วยสติปัญญา ประเมินเพียงความสามารถเชิงวิเคราะห์ , ล้มเหลวเพื่อประเมินความสามารถในการสร้างสรรค์ หรือปฏิบัติได้จริง และวัดได้เพียงตัวอย่างเล็ก ๆของทักษะที่กำหนดโดเมนของฉลาดพฤติกรรมมนุษย์

แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับว่าไอคิวการทดสอบอย่างเต็มที่การวัดสติปัญญาเกือบทั้งหมด ศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของเงินสมทบของพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมความฉลาดที่ได้มุ่งเน้นในการวัดไอคิว และตรวจสอบบุคคลที่แตกต่างกันในความสัมพันธ์ในครอบครัวของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ถ้าพันธุศาสตร์บทบาทเด่นในไอคิว แล้วฝาแฝดเหมือนกันน่าจะไอคิวเปรียบเทียบอย่างใกล้ชิดมากขึ้นกว่าไอคิวของพี่น้องฝาแฝดกันและพี่น้อง ' ไอคิวควรมีความสัมพันธ์สูงมากขึ้นกว่าญาติ ในพันธุศาสตร์ของความผิดปกติในวัยเด็ก II : พันธุศาสตร์และสติปัญญา " ( วารสารของ American Academy of จิตเวชเด็กและวัยรุ่น ปีที่ 38 ฉบับที่ 5 พฤษภาคม 2542 ) , อลัน คอฟแมน สังเกตว่า นักวิทยาศาสตร์ผู้โต้เถียงในความโปรดปรานของการกำหนดทางพันธุกรรมของไอคิวอ้างอิงข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนการยืนยันที่ :

เหมือนกัน ( โมโนไซโกติก ) ฝาแฝด ' ไอคิวกันยิ่งกว่าพี่น้องฝาแฝด ( ควบแน่น ) .
ไอคิวของพี่น้องสัมพันธ์สูงมากขึ้นกว่าไอคิวของพี่น้องครึ่งหนึ่ง ซึ่งในการเปิดความสัมพันธ์ที่สูงกว่าไอคิวของญาติ .
ไอคิว ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกอยู่ด้วยกันทางชีวภาพสูงกว่าระหว่างพ่อแม่บุญธรรม
เด็กอยู่ด้วยกันคอฟแมนอ้างว่าผลลัพธ์ต่อไปนี้สนับสนุนนักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่า สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขอกำหนดไอคิว : ไอคิวของฝาแฝดไข่คนละใบ

มีความสัมพันธ์สูงมากขึ้นกว่าไอคิวของพี่น้องอายุต่างๆ แม้ระดับเดียวกันของพันธุกรรมคล้ายคลึงกัน พี่น้องที่ไม่เกี่ยวข้อง
เลี้ยงดูด้วยกัน เช่น ชีวภาพ และเลี้ยงเด็กจะมีไอคิวที่คล้ายคลึงกันมากกว่าพี่น้องทางชีวภาพ ? ออกจากกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างไอคิวของผู้ปกครองและเด็กอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นคล้ายกับความสัมพันธ์ของผู้ปกครองทางชีวภาพและเด็กอยู่กัน เลี้ยงด้วยกันได้ไอคิว
พี่น้องที่คล้ายคลึงกันมากกว่าพี่น้องที่เลี้ยงกัน และหาเดียวกันถือสำหรับผู้ปกครองและเด็ก เมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันหรือแยกกัน .
ความเหนือกว่าของหลักฐาน จากแฝด , ครอบครัวการศึกษาการยอมรับและสนับสนุนการเพิ่มการข่าวกรองในช่วงเวลาตั้งแต่ 20 % ในวัยทารกถึง 60% ในวัยผู้ใหญ่ พร้อมกับปัจจัยสิ่งแวดล้อมประมาณร่วม 30 % คอฟแมน พบว่ากรรมพันธุ์ก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดไอคิวของคน แต่สภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ จากการศึกษาฝาแฝด เปอร์เซ็นต์การสำหรับไอคิวประมาณ ห้าสิบซึ่งก็เปรียบได้กับค่าอัตราพันธุกรรม สำหรับน้ำหนักตัว คอฟแมนเชื่อว่าผลงานทางพันธุกรรม น้ำหนักและความสามารถเทียบเท่า เขาสังเกตว่า คนอ้วนหลายคนจูงใจทางพันธุกรรมสำหรับกรอบขนาดใหญ่และการเผาผลาญอาหารที่ส่งเสริมการเพิ่มน้ำหนัก ในขณะที่บางเป็นธรรมชาติคนจูงใจทางพันธุกรรมที่ตรงข้าม อย่างไรก็ตามสำหรับคนส่วนใหญ่ ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น อาหารและการออกกำลังกายที่มีผลกระทบอย่างมากต่อน้ำหนัก ในทำนองเดียวกัน พันธุกรรมและสภาพแวดล้อมโต้ตอบการตรวจสอบไอคิว และผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม เช่น พ่อแม่และพี่น้องมักแบ่งปันสภาพแวดล้อมทั่วไป

" ฝาแฝดเสมือน :พบใหม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมภายในครอบครัวมีอิทธิพลทางปัญญา " ( วารสารจิตวิทยาการศึกษา ฉบับที่ 92 , ฉบับที่ 3 , กันยายน 2000 ) นักจิตวิทยาแนนซี่ ซีกัล ตรวจสอบ " เสมือน " พี่น้องฝาแฝดกัน ( มักใช้ในทางพันธุกรรม ) อายุเดียวกันที่ถูกเลี้ยงด้วยกันตั้งแต่วัยทารก เพื่อประเมินอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมต่อปัญญาผลการศึกษาพบว่า ไอคิว ความสัมพันธ์ของฝาแฝดเสมือนลดลงมาก ด้านล่าง มีรายงานสำหรับฝาแฝด เหมือนพี่น้องฝาแฝดกัน และพี่เต็ม ซีกัลตีความผลลัพธ์เหล่านี้เป็นการสาธิตผลเจียมเนื้อเจียมตัวของสภาพแวดล้อมในการพัฒนาปัญญา และสนับสนุนบทบาทเด่นทางพันธุกรรมในการข่าวกรอง .

โรเบิร์ต plomin รายละเอียดข้อมูลที่คล้ายกันจากการศึกษาการยอมรับใน " พันธุศาสตร์ของความผิดปกติในวัยเด็ก III : พันธุศาสตร์และสติปัญญา " ( วารสารของ American Academy of จิตเวชเด็กและวัยรุ่น ปีที่ 38 ฉบับที่ 6 มิถุนายน 2542 ) เขาสังเกตว่ามีการศึกษาการยอมรับอย่างมากประมาณอัตราพันธุกรรมพบว่าฝาแฝดเหมือนเลี้ยงกันเกือบจะคล้ายกัน สำหรับมาตรการ ปัญญาเป็นเหมือนฝาแฝดเลี้ยงดูด้วยกัน plomin ยังมองแต่เด็กบุญธรรม ในเดือนแรกของชีวิต จากโคโลราโดยอมรับโครงการ เพื่อดูว่ามีมากกว่าพ่อแม่ ลูกหลาน หรือเป็นผู้ปกครอง และลูกบุญธรรมความสัมพันธ์ของคะแนนไอคิวเขาพบความสัมพันธ์ ระหว่างแม่แท้ๆ และทอดทิ้งเด็กและเกือบจะไม่มีความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก สำหรับพ่อแม่บุญธรรมและอุปการะเด็กแนะนำว่า สภาพแวดล้อมทางครอบครัวที่พ่อแม่และลูกหลาน ไม่สนับสนุนอย่างเป็นทางพันธุกรรมจากพ่อแม่และลูกหลานเหมือนมาตรการที่เลือกของความฉลาด