ขยายความเรื่อง

ขยายความเรื่อง "คันคาก" ในภาษาอีสาน

ขยายความเรื่อง "คันคาก" ในภาษาอีสานที่แปลว่า "คางคก" ที่วันก่อนเคยเขียนถึง ว่ามีนิทานพื้นบ้านเรื่อง "พญาคันคาก" อันเป็นต้นกำเนิดของประเพณีบุญบั้งไฟ ซึ่งเป็นบุญเดือนหกในฮีตสิบสองคองสิบสี่ของชาวอีสาน

ณ เมืองชมพู พระนางสีดา มเหสีของพญาเอกราชผู้ครองเมือง ได้ให้กำเนิดโอรสลักษณะแปลกประหลาด คือผิวกายเหลืองอร่ามดั่งทองคำ แต่เป็นตุ่มตอเหมือนผิวคางคก คนทั้งหลายจึงขนานนามพระกุมารว่า ท้าวคันคาก ซึ่งคันคาก แปลว่าคางคก

เมื่อเติบใหญ่ขึ้น พระกุมารประสงค์จะได้พระชายาที่มีสิริโฉมงดงาม แต่พญาเอกราชได้ห้ามปรามไว้ ด้วยทรงอับอายในรูปกายของท้าวคันคาก แต่ท้าวคันคากก็ไม่ย่อท้อ ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระอินทร์ ด้วยบุญบารมีแต่ชาติปางก่อนของท้าวคันคาก พระอินทร์จึงเนรมิตปราสาทพร้อมทั้งประทานนางอุดรกุรุทวีป ผู้เป็นเนื้อคู่ให้เป็นชายา ส่วนท้าวคันคากเอง ก็ถอดรูปกายคันคากออกให้ กลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม

พญาเอกราชยินดีกับพระโอรส จึงสละราชบัลลังก์ให้ครองเมืองต่อ ทรงพระนามว่า พญาคันคาก พญาคันคากตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม มีเดชานุภาพเป็นที่เลื่องลือ จนเมืองน้อยใหญ่ต่างมาสวามิภักดิ์ แต่ก็ทำให้มีผู้เดือดร้อน คือพญาแถนผู้อยู่บนฟากฟ้า เพราะมนุษย์หันไปส่งส่วยให้พญาคันคากจนลืมบูชาพญาแถน จึงแกล้งงดสั่งพญานาคให้ไปให้น้ำในฤดูทำนา ทำให้เกิดความแห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง ชาวเมืองจึงไปร้องขอพญาคันคากให้ช่วย

พญาคันคากจึงเกณฑ์กองทัพสัตว์มีพิษทั้งหลาย ได้แก่ มด ผึ้ง แตน ตะขาบ กบ เขียด เป็นอาทิ ทำทางและยกทัพขึ้นไปสู้กับพญาแถน โดยส่งมดปลวกไปกัดกินศัตราวุธของพญาแถนที่ตระเตรียมไว้ก่อน ทำให้เมื่อถึงเวลารบ พญาแถนไม่มีอาวุธ แม้จะร่ายมนต์ ก็ถูกเสียงกบ เขียด ไก่ กา กลบหมด เสกงูมากัดกินกบเขียด ก็โดนรุ้ง (แปลว่าเหยี่ยว) ของพญาคันคากจับกิน ทั้งสัตว์มีพิษก็ยังไปกัดต่อยพญาแถนจนต้องยอมแพ้ในที่สุด

พญาคันคากจึงเริ่มเจรจาต่อพญาแถน ขอให้เมตตาชาวเมือง ประทานฝนตามฤดูกาลทุกปี พญาแถนแสร้งว่าลืม พญาคันคากจึงทูลเสนอว่าจะให้ชาวบ้านจุดบั้งไฟขึ้นมาเตือน พญาแถนก็เห็นชอบด้วย

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกๆ เดือนหกซึ่งเป็นช่วงเริ่มฤดูทำนา ชาวอีสานจึงมีประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อบูชาพญาแถน เพื่อจะได้อำนวยความสะดวกตลอดฤดูเพาะปลูก และเมื่อพญาแถนประทานฝนลงมาถึงพื้นโลกแล้ว บรรดากบเขียดคางคกที่เป็นบริวารของพญาคันคาก ก็จะร้องประสานเพื่อแสดงความขอบคุณต่อพญาแถน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ขยายความเรื่อง "คันคาก" ในภาษาอีสานที่แปลว่า "คางคก" ที่วันก่อนเคยเขียนถึงว่ามีนิทานพื้นบ้านเรื่อง "พญาคันคาก" อันเป็นต้นกำเนิดของประเพณีบุญบั้งไฟซึ่งเป็นบุญเดือนหกในฮีตสิบสองคองสิบสี่ของชาวอีสาน

ณเมืองชมพูพระนางสีดามเหสีของพญาเอกราชผู้ครองเมืองได้ให้กำเนิดโอรสลักษณะแปลกประหลาดคือผิวกายเหลืองอร่ามดั่งทองคำแต่เป็นตุ่มตอเหมือนผิวคางคกคนทั้งหลายจึงขนานนามพระกุมารว่าท้าวคันคากซึ่งคันคาก
เมื่อเติบใหญ่ขึ้นพระกุมารประสงค์จะได้พระชายาที่มีสิริโฉมงดงามแต่พญาเอกราชได้ห้ามปรามไว้ด้วยทรงอับอายในรูปกายของท้าวคันคากแต่ท้าวคันคากก็ไม่ย่อท้อได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระอินทร์ พระอินทร์จึงเนรมิตปราสาทพร้อมทั้งประทานนางอุดรกุรุทวีปผู้เป็นเนื้อคู่ให้เป็นชายาส่วนท้าวคันคากเองก็ถอดรูปกายคันคากออกให้กลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม

พญาเอกราชยินดีกับพระโอรสจึงสละราชบัลลังก์ให้ครองเมืองต่อทรงพระนามว่าพญาคันคากพญาคันคากตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมมีเดชานุภาพเป็นที่เลื่องลือจนเมืองน้อยใหญ่ต่างมาสวามิภักดิ์แต่ก็ทำให้มีผู้เดือดร้อน เพราะมนุษย์หันไปส่งส่วยให้พญาคันคากจนลืมบูชาพญาแถนจึงแกล้งงดสั่งพญานาคให้ไปให้น้ำในฤดูทำนาทำให้เกิดความแห้งแล้งข้าวยากหมากแพงชาวเมืองจึงไปร้องขอพญาคันคากให้ช่วย

พญาคันคากจึงเกณฑ์กองทัพสัตว์มีพิษทั้งหลายได้แก่มดผึ้งแตนตะขาบกบเขียดเป็นอาทิทำทางและยกทัพขึ้นไปสู้กับพญาแถนโดยส่งมดปลวกไปกัดกินศัตราวุธของพญาแถนที่ตระเตรียมไว้ก่อนทำให้เมื่อถึงเวลารบ แม้จะร่ายมนต์ก็ถูกเสียงกบเขียดไก่กากลบหมดเสกงูมากัดกินกบเขียดก็โดนรุ้ง (แปลว่าเหยี่ยว) ของพญาคันคากจับกินทั้งสัตว์มีพิษก็ยังไปกัดต่อยพญาแถนจนต้องยอมแพ้ในที่สุด

พญาคันคากจึงเริ่มเจรจาต่อพญาแถนขอให้เมตตาชาวเมืองประทานฝนตามฤดูกาลทุกปีพญาแถนแสร้งว่าลืมพญาคันคากจึงทูลเสนอว่าจะให้ชาวบ้านจุดบั้งไฟขึ้นมาเตือนพญาแถนก็เห็นชอบด้วย

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุก ๆ เดือนหกซึ่งเป็นช่วงเริ่มฤดูทำนาชาวอีสานจึงมีประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อบูชาพญาแถนเพื่อจะได้อำนวยความสะดวกตลอดฤดูเพาะปลูกและเมื่อพญาแถนประทานฝนลงมาถึงพื้นโลกแล้ว ก็จะร้องประสานเพื่อแสดงความขอบคุณต่อพญาแถน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
"คันคาก" ในภาษาอีสานแปลที่ว่า "คางคก" ที่วันก่อนเคยเขียนถึงว่ามีนิทานพื้นบ้าน "พญาคันคาก" ขยายความเรื่องเรื่อง เมืองชมพูพระนางสีดามเหสีของพญาเอกราชผู้ครองเมืองได้ให้กำเนิดโอรสลักษณะแปลกประหลาดคือผิวกายเหลืองอร่ามดั่งทองคำ แต่เป็นตุ่มตอเหมือนผิวคางคกคนทั้งหลายจึงขนานนามพระกุมารว่าท้าวคันคากซึ่งคันคาก แปลว่าคางคกเมื่อเติบใหญ่ขึ้น แต่พญาเอกราชได้ห้ามปรามไว้ แต่ท้าวคันคากก็ไม่ย่อท้อได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระอินทร์ ผู้เป็นเนื้อคู่ให้เป็นชายาส่วนท้าวคันคากเองก็ถอดรูปกายคันคากออกให้ จึงสละราชบัลลังก์ให้ครองเมืองต่อทรงพระนามว่าพญาคันคากพญาคันคากตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมมีเดชานุภาพเป็นที่เลื่องลือจนเมืองน้อยใหญ่ต่างมาสวามิภักดิ์ แต่ก็ทำให้มีผู้เดือดร้อนคือพญาแถนผู้อยู่บนฟากฟ้า ทำให้เกิดความแห้งแล้งข้าวยากหมากแพง ได้แก่ มดผึ้งแตนตะขาบกบเขียดเป็นอาทิทำทางและยกทัพขึ้นไปสู้กับพญาแถน ทำให้เมื่อถึงเวลารบพญาแถนไม่มีอาวุธแม้จะร่ายมนต์ก็ถูกเสียงกบเขียดไก่กากลบหมดเสกงูมากัดกินกบเขียดก็โดนรุ้ง (แปลว่าเหยี่ยว) ของพญาคันคากจับกิน ขอให้เมตตาชาวเมืองประทานฝนตามฤดูกาลทุกปีพญาแถนแสร้งว่าลืม ทุกๆเดือนหกซึ่งเป็นช่วงเริ่มฤดูทำนา











การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ขยายความเรื่อง " คันคาก " ในภาษาอีสานที่แปลว่า " คางคก " ที่วันก่อนเคยเขียนถึงว่ามีนิทานพื้นบ้านเรื่อง " พญาคันคาก " อันเป็นต้นกำเนิดของประเพณีบุญบั้งไฟซึ่งเป็นบุญเดือนหกในฮีตสิบสองคองสิบสี่ของชาวอีสาน

ณเมืองชมพูพระนางสีดามเหสีของพญาเอกราชผู้ครองเมืองได้ให้กำเนิดโอรสลักษณะแปลกประหลาดคือผิวกายเหลืองอร่ามดั่งทองคำแต่เป็นตุ่มตอเหมือนผิวคางคกคนทั้งหลายจึงขนานนามพระกุมารว่าท้าวคันคากซึ่งคันคาก
เมื่อเติบใหญ่ขึ้นพระกุมารประสงค์จะได้พระชายาที่มีสิริโฉมงดงามแต่พญาเอกราชได้ห้ามปรามไว้ด้วยทรงอับอายในรูปกายของท้าวคันคากแต่ท้าวคันคากก็ไม่ย่อท้อได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระอินทร์พระอินทร์จึงเนรมิตปราสาทพร้อมทั้งประทานนางอุดรกุรุทวีปผู้เป็นเนื้อคู่ให้เป็นชายาส่วนท้าวคันคากเองก็ถอดรูปกายคันคากออกให้กลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม

พญาเอกราชยินดีกับพระโอรสจึงสละราชบัลลังก์ให้ครองเมืองต่อทรงพระนามว่าพญาคันคากพญาคันคากตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมมีเดชานุภาพเป็นที่เลื่องลือจนเมืองน้อยใหญ่ต่างมาสวามิภักดิ์แต่ก็ทำให้มีผู้เดือดร้อนเพราะมนุษย์หันไปส่งส่วยให้พญาคันคากจนลืมบูชาพญาแถนจึงแกล้งงดสั่งพญานาคให้ไปให้น้ำในฤดูทำนาทำให้เกิดความแห้งแล้งข้าวยากหมากแพงชาวเมืองจึงไปร้องขอพญาคันคากให้ช่วย

พญาคันคากจึงเกณฑ์กองทัพสัตว์มีพิษทั้งหลายได้แก่มดผึ้งแตนตะขาบกบเขียดเป็นอาทิทำทางและยกทัพขึ้นไปสู้กับพญาแถนโดยส่งมดปลวกไปกัดกินศัตราวุธของพญาแถนที่ตระเตรียมไว้ก่อนทำให้เมื่อถึงเวลารบแม้จะร่ายมนต์ก็ถูกเสียงกบเขียดไก่กากลบหมดเสกงูมากัดกินกบเขียดก็โดนรุ้ง ( แปลว่าเหยี่ยว ) ของพญาคันคากจับกินทั้งสัตว์มีพิษก็ยังไปกัดต่อยพญาแถนจนต้องยอมแพ้ในที่สุด

พญาคันคากจึงเริ่มเจรจาต่อพญาแถนขอให้เมตตาชาวเมืองประทานฝนตามฤดูกาลทุกปีพญาแถนแสร้งว่าลืมพญาคันคากจึงทูลเสนอว่าจะให้ชาวบ้านจุดบั้งไฟขึ้นมาเตือนพญาแถนก็เห็นชอบด้วย

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกๆเดือนหกซึ่งเป็นช่วงเริ่มฤดูทำนาชาวอีสานจึงมีประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อบูชาพญาแถนเพื่อจะได้อำนวยความสะดวกตลอดฤดูเพาะปลูกและเมื่อพญาแถนประทานฝนลงมาถึงพื้นโลกแล้วก็จะร้องประสานเพื่อแสดงความขอบคุณต่อพญาแถน
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: