This "New theory" was based on the

This "New theory" was based on the fact that an average farmer owns about 10-15 rai of farm land,
this total amount of land should be divided into 3 parts for the following functions:
Part 1:30% of the total farm area is reserved for water reservoir. The pond should be built at 4 meter deep with capacity to hold 19,000 m3 of rain water. This amount of water would be enough for agricultrual use all year.
part 2: 30%+30% of the total farm area are the agricultural land which is further divided into 2 sections.
The first half is paddy rice and the remaining is field crops or fruit trees depending on the condition of land and market
Part 3 : The remaining 10 % of the total farm area will be used as residential area, roads, dikes, draining canals as well as for family gardening and animal husbandry
The 30:30:30:10 formula suggested by His Majesty became the "New theory" of principle agricultural land management as follows:
1. It is practical to be used at small farm not larger than 15 rai
2. The land management of this type would result in self sufficiency of the farmers. Each family would be able to live comfortably while community co-operation and participation are the main element for success.
3. The main objective is to produce enough rice for the family to consume all year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"ทฤษฎีใหม่" เป็นตามในข้อเท็จจริงที่ว่าเกษตรกรเฉลี่ยการเป็นเจ้าของเกี่ยวกับ 10-15 ฟาร์มไร่ ยอดนี้รวมที่ดินควรแบ่งออกเป็น 3 ส่วนสำหรับฟังก์ชันต่อไปนี้:ส่วน 1:30%ของพื้นที่ฟาร์มทั้งหมดถูกสงวนไว้สำหรับน้ำอ่างเก็บน้ำ บ่อควรสร้างที่ลึก 4 เมตรกับทำ 19,000 m3 ของน้ำฝน น้ำจำนวนนี้จะเพียงพอสำหรับการใช้งาน agricultrual ทั้งปีส่วนที่ 2:30% + 30% ของพื้นที่ฟาร์มทั้งหมดมีที่ดินทางการเกษตรซึ่งมีการแบ่งเป็น 2 ส่วน ครึ่งแรกเป็นนาข้าว และที่เหลือเป็นพืชไร่หรือไม้ผลขึ้นอยู่กับสภาพของที่ดินและตลาด ส่วนที่ 3: ที่เหลือ 10% ของพื้นที่ฟาร์มทั้งหมดจะถูกใช้เป็นที่พักอาศัย ถนน กำแพง ระบายน้ำลำคลองเช่นครอบครัวทำสวนและเลี้ยงสัตว์ สูตร 30:30:30:10 ที่แนะนำ โดยพระกลายเป็น "ทฤษฎีใหม่" ของการบริหารจัดการที่ดินเกษตรกรรมหลักเป็นดังนี้: 1. จะใช้ที่ฟาร์มเล็กที่ไม่มีขนาดใหญ่กว่า 15 ไร่2. การจัดการที่ดินชนิดนี้จะส่งผลให้ความพอเพียงของเกษตรกร แต่จะไม่สามารถอยู่อย่างสะดวกสบายในขณะที่ชุมชนให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมมีองค์ประกอบหลักสำหรับความสำเร็จ3. วัตถุประสงค์หลักคือการ ผลิตข้าวเพียงพอสำหรับครอบครัวที่จะบริโภคตลอดปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี้ "ทฤษฎีใหม่" อยู่บนพื้นฐานของความจริงที่ว่าชาวนาเป็นเจ้าของโดยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ไร่ฟาร์ม
นี้จำนวนที่ดินควรจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนสำหรับการทำงานต่อไปนี้:
ส่วนที่ 1: 30% ของพื้นที่ทั้งหมดในฟาร์ม สงวนไว้สำหรับอ่างเก็บน้ำ บ่อควรจะสร้างขึ้นที่ 4 เมตรลึกที่มีความจุที่จะถือ 19,000 M3 ของน้ำฝน ปริมาณน้ำนี้จะเพียงพอสำหรับการใช้งาน agricultrual ตลอดทั้งปี.
ส่วนที่ 2: 30% + 30% ของพื้นที่ฟาร์มรวมเป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรมซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน.
ครึ่งแรกเป็นข้าวเปลือกและที่เหลือเป็นพืชไร่ หรือไม้ผลขึ้นอยู่กับสภาพของที่ดินและตลาด
ส่วนที่ 3: ส่วนที่เหลืออีก 10% ของพื้นที่ฟาร์มทั้งหมดจะถูกใช้เป็นพื้นที่อยู่อาศัย, ถนน, คูระบายน้ำคลองเช่นเดียวกับการปลูกต้นไม้ในครอบครัวและการเลี้ยงสัตว์
30:30: 30:10 สูตรที่แนะนำโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกลายเป็น "ทฤษฎีใหม่" ของการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรหลักการดังต่อไปนี้:
1 มันเป็นทางปฏิบัติที่จะใช้ในฟาร์มขนาดเล็กไม่ได้มีขนาดใหญ่กว่า 15 ไร่
2 การจัดการที่ดินประเภทนี้จะส่งผลให้พอเพียงด้วยตนเองของเกษตรกร แต่ละครอบครัวจะสามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายในขณะที่ชุมชนร่วมดำเนินการและการมีส่วนร่วมที่มีองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับความสำเร็จ.
3 วัตถุประสงค์หลักคือการผลิตข้าวเพียงพอสำหรับครอบครัวที่จะใช้ตลอดทั้งปี