A senior Indian businessman said We

A senior Indian businessman said Wednesday he was puzzled with reports that the government wanted him deported.
Sathit Segal, a former president of Thai-Indian Business Association, meanwhile, said he immediately stopped speaking from the rally stage after the state of emergency was invoked last month.

"I'm perplexed to learn from the media that the government wants me deported. I do not understand this because what I said on stage was about loyalty to the monarch and the country. I have never criticised the government or the prime minister," Sathit said.

He expressed confidence that he had done nothing wrong.

He was born in India and moved to Thailand when he was five years old. He did not change his nationality though his four siblings are Thais as they were born in Thailand.

He had served in many governments including that of exPM Thaksin Shinwatra and was appointed as adviser to ministries six times, Sathit said.

"It's true that I'm an alien but I have represented Thailand in many talks with India. I'm an alien who has worked and helped Thailand for long time. I wonder where all the good things I have done for the country have gone," he said, adding that he is most worried about his 90yearold mother.

Rally spokesman Akanat Promphan said the report about the deportation would negatively impact tourism and foreign investment in the country. He also wondered whether Centre for Maintaining Peace and Order was authorised to deport Sathit.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักธุรกิจอินเดียอาวุโสกล่าวว่าพุธเขาก็งงกับรายงานว่ารัฐบาลต้องการให้เขาถูกเนรเทศ.
sathit ซีกัลอดีตประธานของสมาคมธุรกิจไทยอินเดียขณะที่กล่าวว่าทันทีที่เขาหยุดพูดจากเวทีการชุมนุมหลังจากที่สถานการณ์ฉุกเฉินถูกเรียก เมื่อเดือนที่แล้ว.

"ผมงงที่จะเรียนรู้จากสื่อว่ารัฐบาลอยากให้ผมเนรเทศฉันไม่เข้าใจในเรื่องนี้เพราะสิ่งที่ฉันกล่าวว่าบนเวทีเป็นเรื่องของความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และประเทศ ฉันไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี "sathit กล่าว.

เขาแสดงความเชื่อมั่นว่าเขาได้ทำอะไรผิด.

เขาเกิดในอินเดียและย้ายไปอยู่ที่ประเทศไทยเมื่อเขาอายุได้ห้าขวบเขาไม่ได้เปลี่ยนสัญชาติของเขาแม้ว่าสี่พี่น้องของเขาเป็นคนไทยที่พวกเขาเกิดมาในประเทศไทย.

เขาได้ทำหน้าที่ในรัฐบาลจำนวนมากรวมทั้ง expm ทักษิณ shinwatra และได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับกระทรวงหกครั้ง sathit กล่าว.

"มัน ความจริงที่ว่าฉันเป็นคนต่างด้าว แต่ฉันได้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการเจรจากับหลายประเทศอินเดีย. ฉันคนต่างด้าวที่ไ​​ด้ทำงานและช่วยให้ประเทศไทยเป็นเวลานานผมแปลกใจที่ทุกสิ่งที่ดีที่ฉันได้ทำเพื่อประเทศได้ไป "เขากล่าวเพิ่มว่าเขาเป็นกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับแม่ของเขา 90yearold.

ชุมนุมโฆษก akanat พร้อมพันธุ์กล่าวว่ารายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมในทางลบจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศ ในประเทศ. เขายังสงสัยว่าศูนย์การรักษาความสงบสุขและความสงบเรียบร้อยได้รับอนุญาตให้ขับไล่ sathit.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พ่อค้าอินเดียอาวุโสกล่าวว่า วันพุธเขาพิศวงกับรายงานที่ว่า รัฐบาลต้องเขา deported.
สถิต Segal ประธานของสมาคมธุรกิจไทยอินเดีย ในขณะเดียวกัน กล่าวว่า เขาทันทีหยุดพูดจากเวทีชุมนุมหลังจากสภาวะฉุกเฉินถูกเรียกเดือน

"ฉันงงการเรียนจากสื่อที่รัฐบาลต้อง deported ฉันไม่เข้าใจนี้ เพราะสิ่งที่ผมพูดบนเวทีเกี่ยวกับสมาชิกพระมหากษัตริย์และประเทศ ฉันมีไม่เคย criticised รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี สถิตกล่าว

เขาแสดงความมั่นใจว่า เขาไม่ได้ทำอะไรไม่ถูกต้องการ

เขาเกิดในอินเดีย และย้ายประเทศไทยเมื่ออายุ 5 ปี เขาได้เปลี่ยนสัญชาติของเขาไม่ได้ว่าพี่น้องของเขาสี่เป็นคนไทยที่เกิดในประเทศไทย

เขามีให้บริการในหลายรัฐบาลรวมถึงที่ exPM Shinwatra ทักษิณ และถูกแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาให้ทบวงกรมครั้งที่ 6 สถิตกล่าวว่า

"มันเป็นความจริงว่า ฉันเป็นคนต่างด้าว แต่ฉันได้แสดงไทยในการเจรจากับอินเดียมาก ผมเป็นคนต่างด้าวที่ทำงาน และช่วยไทยนาน ไม่ทราบที่สิ่งดี ๆ ทั้งหมดที่ผมทำสำหรับประเทศได้หายไป เขากล่าวว่า เพิ่มว่า เป็นกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับแม่ 90yearold เขา

ชุมนุมโฆษกวาณิชย์กุล Akanat กล่าวว่า รายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่จะส่งผลกระทบการท่องเที่ยวและการลงทุนต่างประเทศ เขายังสงสัยว่า ว่า ศูนย์รักษาความสงบและสั่งเป็น authorised เนรเทศสถิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักธุรกิจชาวอินเดียว่าผู้บริหารระดับสูงเมื่อวันพุธเขาก็งงอยู่ด้วยรายงานว่ารัฐบาลอยากให้เขาถูกเนรเทศ.
เทพสถิต segal อดีตประธานาธิบดีของ thai-indian ธุรกิจการเชื่อมโยงในขณะที่เขาว่าหยุดพูดได้ทันทีจากเวทีชุมนุมที่ ภายหลัง จากที่รัฐเป็นการประกาศ ภาวะ ฉุกเฉินเป็นการปลุกเร้าขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว.

"ผมงงงวยในการเรียนรู้จากสื่อที่รัฐบาลอยากให้ผมถูกเนรเทศผมไม่เข้าใจเรื่องนี้เพราะสิ่งที่ผมได้พูดบนเวทีเป็นเรื่องความ จงรักภักดี ในสถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศ ฉันไม่เคยวิจารณ์รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีที่"เทพสถิตกล่าว.

เขาแสดงความมั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด.

เขาเกิดมาในอินเดียและย้ายไปยังประเทศไทยเมื่อเขาเป็นห้าปีเขาไม่ได้เปลี่ยนสัญชาติของเขาแม้พี่น้องสี่ของเขาเป็นคนไทยและพวกเขาก็เกิดในประเทศไทย.

เขาจัดให้บริการอยู่ในรัฐบาลทักษิณจำนวนมากรวมถึง shinwatra expm ที่และได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาในการกระทรวงต่างๆหกครั้งเทพสถิตกล่าว.

"มันเป็นความจริงที่ว่าผมเป็นคนต่างด้าวแต่ผมมีตัวแทนประเทศไทยในการเจรจากับอินเดียจำนวนมาก ผมเป็นคนต่างด้าวที่ได้ทำงานและช่วยให้ประเทศไทยเป็นเวลายาวนานผมสงสัยซึ่งสิ่งที่ดีที่ผมได้ทำให้ประเทศที่มีไปแล้ว"เขากล่าวว่าการเพิ่มที่เขาเป็นกังวลมากที่สุด 90 yearold แม่ของเขา. akanat พร้อมพันธุ์

Rally โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารายงานที่เกี่ยวกับการเนรเทศที่จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนจากต่างประเทศและการท่องเที่ยวในประเทศที่ส่งผลกระทบในทางลบ เขายังสงสัยว่าศูนย์กลางเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความสงบก็ได้รับอนุญาตให้เนรเทศเทพสถิต.