The effect of the conditioning proc

The effect of the conditioning process parameters on the properties of the pellets was
investigated. Maize residues were collected locally from the field and crushed into small
sizes, dried, and separated for compaction. The effects of the variation of the die temperature
(30e80
C), the compaction pressure (150e250 MPa), and the biomass type (cob,
husk, and stalk) on compact density, relaxed density, and durability index were investigated.
It was found that the compact density increased with pressure and temperature to
around 950e1100% higher than the residue density. The relaxed density was stable at 60
e80
C, but at 30
C, it was found to decrease from 800e1000 kg m3 to 660e700 kg m3
. The
durability index was observed to improve with increasing pressure and temperature by 30
e60% and 70e90%, respectively. This corresponded well with the lignin glass transition
temperatures being in the range of 60e80
C at moderate pressure values between 150 MPa
and 250 MPa. Pellet density was also found to increase with increasing compression
pressure and temperature. Pellet density was three times higher than bulk density and
similar to the particle density. Heating the feed materials during compression decreased
the compaction pressure from 250 MPa to 150 MPa, resulting in the formation of pellets
with a higher durability index and more stable relaxed density.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลของกระบวนการปรับ แก้ไขพารามิเตอร์บนคุณสมบัติของเม็ดการตรวจสอบ ข้าวโพดตกถูกรวบรวมไว้ภายในจากฟิลด์ และบดเป็นขนาดเล็กขนาด แห้ง และแยกสำหรับการบดอัด ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแม่พิมพ์(30e80 C), ความดันบดอัด (150e250 MPa), และชนิดของชีวมวล (ซังแกลบ และก้าน) ในขนาดกะทัดรัด และความหนาแน่น ผ่อนคลายความหนาแน่น ดัชนีความทนทานถูกตรวจสอบพบว่า ความหนาแน่นกระชับเพิ่มขึ้นกับความดันและอุณหภูมิรอบ 950e1100% สูงกว่าความหนาแน่นของสารตกค้าง ผ่อนคลายความหนาแน่นคือมีเสถียรภาพที่ 60e80 C แต่ที่ 30 C มันก็จะลดลงจาก 800e1000 kg m3 เพื่อ 660e700 kg m3. การพบว่า ดัชนีความทนทานการปรับปรุง ด้วยการเพิ่มความดันและอุณหภูมิ โดย 30e60% และ 70e90% ตามลำดับ นี้ผูกพันกับการเปลี่ยนแก้วลิกนิอุณหภูมิอยู่ในช่วงของ 60e80 C ที่ค่าแรงดันปานกลางระหว่าง 150 MPaและ 250 MPa ความหนาแน่นของเม็ดพบว่าการเพิ่มกับการบีบอัดที่เพิ่มขึ้นความดันและอุณหภูมิ ความหนาแน่นของเม็ดแก้ไขสามครั้งสูงกว่าความหนาแน่น และคล้ายกับความหนาแน่นของอนุภาค เครื่องทำความร้อนวัสดุอาหารในระหว่างการบีบอัดลดลงบดอัดจากแรงดัน 250 MPa กับ 150 MPa ส่งผลให้การก่อตัวของเม็ดดัชนีมีความทนทานสูงและมีเสถียรภาพมากขึ้นผ่อนคลายความหนาแน่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลของพารามิเตอร์กระบวนการเครื่องกับคุณสมบัติของเม็ดได้รับการ
ตรวจสอบ ตกค้างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ถูกเก็บไว้ในเครื่องจากสนามและบดเป็นขนาดเล็ก
ขนาดแห้งและแยกการบดอัด ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิตาย
(30e80? C) ความดันบดอัด (150e250 MPa) และประเภทชีวมวล (ซัง
แกลบและก้าน) ความหนาแน่นขนาดกะทัดรัดหนาแน่นผ่อนคลายและดัชนีความทนทานถูกตรวจสอบ.
มันเป็น พบว่ามีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นขนาดกะทัดรัดที่มีความดันและอุณหภูมิที่จะ
รอบ 950e1100% สูงกว่าความหนาแน่นของสารตกค้าง ความหนาแน่นผ่อนคลายมีเสถียรภาพที่ 60
E80? C แต่วันที่ 30 องศาเซลเซียสมันก็พบว่าลดลงจากกก. 800e1000 M3 เพื่อ 660e700 กก
M3
ดัชนีความทนทานเป็นข้อสังเกตในการปรับปรุงที่มีความดันที่เพิ่มขึ้นและอุณหภูมิ 30
E60% และ 70e90% ตามลำดับ ตรงนี้ได้ดีกับการเปลี่ยนแปลงแก้วลิกนิน
อุณหภูมิอยู่ในช่วงของการ 60e80? C ที่ค่าความดันปานกลางระหว่าง 150 MPa
และ 250 MPa ความหนาแน่นของเม็ดนอกจากนี้ยังพบว่าเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มการบีบอัด
ความดันและอุณหภูมิ ความหนาแน่นของเม็ดเป็นสามครั้งสูงกว่าความหนาแน่นและ
คล้ายกับความหนาแน่นของอนุภาค เครื่องทำความร้อนวัสดุฟีดในระหว่างการบีบอัดลดลง
ความดันจากการบดอัด 250 MPa ถึง 150 MPa ผลในการก่อตัวของเม็ด
ที่มีค่าดัชนีความทนทานสูงและความหนาแน่นที่ผ่อนคลายมีเสถียรภาพมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของตัวแปรในกระบวนการปรับคุณสมบัติของเพลสอบสวน ตกค้างในข้าวโพดเก็บจากสนามและบดลงในขนาดเล็กขนาด , แห้ง , และการแยก . ผลของการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแม่พิมพ์( 30e80 c ) , ความดันอัด ( 150e250 MPa ) และชีวมวลชนิด ( ซัง ,เปลือก และก้าน ) ความหนาแน่นความหนาแน่น ขนาดกะทัดรัด ผ่อนคลาย และดัชนีความทนทานได้พบว่า ความหนาแน่นเพิ่มขึ้นกับความดันและอุณหภูมิ เพื่อกระชับรอบ 950e1100 % สูงกว่ากากความหนาแน่น ผ่อนคลายและความหนาแน่นคงที่ที่ 60e80 C แต่ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส พบว่า ลดลงจาก กก. 800e1000 M3 จะ 660e700 กกลบ .. ที่ดัชนีความคงทนพบเพื่อปรับปรุงด้วยการเพิ่มความดันและอุณหภูมิ 30E60 % และ 70e90 ตามลำดับ นี้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของลิกนินแก้วอุณหภูมิอยู่ในช่วง 60e80 C ที่ความดันปานกลาง 150 MPa ค่าระหว่างและ 250 MPA ความหนาแน่นของเม็ด พบเพิ่มขึ้น อัดความดันและอุณหภูมิ ความหนาแน่นของเม็ดสามครั้งสูงกว่าความหนาแน่นและคล้ายกับอนุภาคความหนาแน่น เครื่องป้อนวัสดุในระหว่างการอัดลดลงอัดแรงดันจาก 250 MPA 150 MPa , ผลในการก่อตัวของเม็ดที่มีความทนทานสูงและมีเสถียรภาพมากขึ้นผ่อนคลายดัชนีความหนาแน่น