benefits, the influence of friends,

benefits, the influence of friends, flavor and tastes, vogue
and fashion, effect of alertness and refreshment, sales and
advertisement, beauty benefits, religious beliefs, and atmosphere
and environment. Demographic data and items
concerning consuming frequency of tea and coffee are
also included.
The customers frequenting in teatime and coffee
shops in Kaohsiung and those shopping nearby were targeted
as the sample subject for the study. Twelve teatime
or coffee shops (see Table 6) that had more than two
branches where both tea and coffee beverages were available
were randomly chosen. The questionnaires reached to
a total of 322 sampled subjects. We obtained three hundred
sixteen valid questionnaires; however, six invalid
responses were discarded from the analysis.
4. Findings and Discussion
The presentation of the results and discussion proceeds
with the findings from the questionnaire survey for
evidence for the study’s research inquiries.
4.1 Do Most People in Taiwan Choose Coffee or Tea for
the Afternoon Teatime?
Does the demographic information influence significantly
the choice of the respondents in the decisionmaking?

The background information of the subject included:
gender, age, occupation, incomes and frequency of having
teatime (see Table 1).
The frequency of participants’ teatime habits was explored;
it was found that a majority of 50.9% had teatime
less than three times a week while 27.5% engaged in this
activity occasionally. Only a minority (7.6%) had teatime
every day, whereas approximately fourteen percent of the
participants had teatime more than three times a week.
Informal interviews also revealed that those questioned
might not have a habit of teatime every week, but that
they would if someone invited them, indicating that the
influence of friends would be strong.
To explore the relationships between the demographic
variables, correlation analyses (see Table 2) were
applied. The result showed that the male respondents were
older than the female respondents (p=.014). Males were
higher in their income earning than females (p=.002). It
was also males who were involved in teatime activity
more frequently (p=.002), and the respondents who were
older were at a higher level of income, instead of those
who were younger (p=.000).
In order to find the differences among respondent
subgroups based on occupation in relation to their age and
income level, chi-squared tests were pursued. As revealed
in Table 3, office workers across all age subgroups, except

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประโยชน์ อิทธิพลของเพื่อน รสชาติ และรสนิยม สมัยและแฟชั่น ผลของการตื่นตัวและสดชื่น ขาย และโฆษณา ด้านความงาม ความเชื่อทางศาสนา และบรรยากาศและสิ่งแวดล้อม ข้อมูลประชากรและรายการเกี่ยวกับความถี่ที่ใช้ชงชาและกาแฟได้รวมอยู่ด้วยลูกค้าที่เข้ามาใช้ในการจิบชาและกาแฟร้านค้าในเกาสงและที่ช๊อปได้กำหนดเป้าหมายเป็นแบบอย่างสำหรับการศึกษา จิบชาที่สิบสองหรือร้านกาแฟ (ดูตารางที่ 6) ที่มีมากกว่าสองสาขาที่ดื่มทั้งชาและกาแฟที่ได้ถูกสุ่มเลือก แบบสอบถามถึงจำนวนตัวอย่างวิชา 322 เรารับสามร้อยแบบสอบถามถูกต้องสิบหก อย่างไรก็ตาม ไม่ถูกต้อง 6ตอบถูกละทิ้งจากการวิเคราะห์การ4. ผลการวิจัยและการอภิปรายดำเนินการนำเสนอผลและอภิปรายค้นพบจากการสำรวจแบบสอบถามกับหลักฐานการสอบถามข้อมูลวิจัยการศึกษา4.1 คนส่วนใหญ่ในไต้หวันทำเลือกกาแฟหรือชาจิบชายามบ่ายข้อมูลประชากรไม่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ทางเลือกของผู้ตอบในการ decisionmakingข้อมูลพื้นหลังของตัวแบบที่รวมอยู่:เพศ อายุ อาชีพ รายได้ และความถี่ของการมีจิบชา (ดูตารางที่ 1)ความถี่ของพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมจิบชาถูกสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.9 มีจิบชาน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ในขณะที่ 27.5% ส่วนร่วมในการนี้กิจกรรมในบางครั้ง จิบชามีเพียงส่วนน้อย (7.6%)ทุกวัน ในขณะที่ประมาณสิบสี่เปอร์เซ็นต์ของการผู้เข้าร่วมได้จิบชามากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์สัมภาษณ์ไม่เป็นทางการยังเปิดเผยว่า ผู้สอบสวนอาจมีนิสัยชอบจิบชาทุกสัปดาห์ แต่ที่พวกเขาจะมีคนเชิญพวกเขา ระบุว่า การอิทธิพลของเพื่อนจะมีความแข็งแรงการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างประชากรที่ตัวแปร การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ (ดูตาราง 2) ถูกนำไปใช้ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบชายได้เก่ากว่าผู้ตอบหญิง (p =. 014) เพศชายได้ในการรับรายได้กว่าตัวเมีย (p =. 002) มันเป็นผู้ชายที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมจิบชาบ่อยมาก (p =. 002), และผู้ตอบที่ได้เก่าในระดับสูงขึ้นของรายได้ แทนที่ผู้มีอายุ (p =. 000)เพื่อหาความแตกต่างระหว่างผู้ตอบกลุ่มตามอาชีพที่สัมพันธ์กับอายุ และระดับรายได้ การทดสอบไคสแควร์ถูกติดตาม เป็นการเปิดเผยในตารางที่ 3 สำนักงานแรงงานข้ามกลุ่มอายุทั้งหมด ยกเว้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลประโยชน์อิทธิพลของเพื่อนรสชาติและรสนิยมสมัย
และแฟชั่น, ผลกระทบของการตื่นตัวและเครื่องดื่ม, การขายและการ
โฆษณาผลประโยชน์ความงาม, ความเชื่อทางศาสนาและบรรยากาศ
และสภาพแวดล้อม ข้อมูลประชากรและรายการ
เกี่ยวกับความถี่ของการชงชาและกาแฟบริโภคจะ
ยังรวมถึง.
ลูกค้าบ่อยในน้ำชาและกาแฟ
ร้านค้าในเกาสงและผู้ที่อยู่ใกล้ ๆ เป็นเป้าหมาย
เป็นเรื่องของกลุ่มตัวอย่างในการศึกษา สิบสองน้ำชา
หรือกาแฟร้านค้า (ดูตารางที่ 6) ที่มีมากกว่าสอง
สาขาที่ทั้งชาและกาแฟเครื่องดื่มที่มีอยู่
ได้รับการสุ่มเลือก แบบสอบถามถึง
รวม 322 ตัวอย่างวิชา เราได้รับร้อยสาม
สิบหกแบบสอบถามที่ถูกต้อง; แต่หกที่ไม่ถูกต้อง
คำตอบที่ถูกทิ้งจากการวิเคราะห์.
4 ผลการวิจัยและอภิปราย
การนำเสนอผลและดำเนินการอภิปราย
กับผลการวิจัยจากการสำรวจแบบสอบถามสำหรับ
หลักฐานเพื่อสอบถามข้อมูลการวิจัยของการศึกษา.
4.1 ไม่คนส่วนใหญ่ในไต้หวันเลือกชาหรือกาแฟสำหรับ
Teatime บ่าย?
ไม่อิทธิพลข้อมูลประชากรอย่างมีนัยสำคัญ
ทางเลือกของ ? ผู้ตอบแบบสอบถามในการตัดสินใจที่ข้อมูลพื้นหลังของเรื่องรวม: เพศอายุอาชีพรายได้และความถี่ของการมี. น้ำชา (ดูตารางที่ 1) ความถี่ในการเข้าร่วมนิสัย teatime การสำรวจ; มันก็พบว่าส่วนใหญ่ของ 50.9 % มีน้ำชาน้อยกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์ในขณะที่ 27.5% ส่วนร่วมในการนี้กิจกรรมเป็นครั้งคราว มีเพียงส่วนน้อย (7.6%) มีน้ำชาทุกวันในขณะที่ประมาณสิบสี่เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมมีน้ำชามากกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์. สัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการยังเผยให้เห็นว่าผู้ถามไม่อาจมีนิสัยของน้ำชาทุกสัปดาห์ แต่ที่พวกเขาหาก มีคนเชิญให้พวกเขาแสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของเพื่อนจะมีความแข็งแรง. เพื่อสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างประชากรตัวแปรความสัมพันธ์วิเคราะห์ (ดูตารางที่ 2) ถูกนำมาใช้ ผลการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเพศชายที่มีอายุมากกว่าผู้ตอบแบบสอบถามเพศหญิง (p = 0.014) เพศชายสูงกว่าในการหารายได้ของพวกเขามากกว่าเพศหญิง (p = 0.002) มันก็ยังเป็นผู้ชายที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางน้ำชาบ่อยครั้งมากขึ้น (p = 0.002) และผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นรุ่นเก่าอยู่ในระดับที่สูงขึ้นของรายได้แทนผู้ที่อายุน้อยกว่า (p = 0.000). เพื่อที่จะหา ความแตกต่างระหว่างผู้ถูกจับคู่อยู่บนพื้นฐานของการประกอบอาชีพในความสัมพันธ์กับอายุของพวกเขาและระดับรายได้การทดสอบไคสแควร์ถูกไล่ เท่าที่ปรากฏในตารางที่ 3, สำนักงานแรงงานในทุกกลุ่มย่อยอายุยกเว้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประโยชน์ อิทธิพลของเพื่อน กลิ่นและรสชาติ โว้คและแฟชั่น ผลของการตื่นตัว และเครื่องดื่ม การขาย และโฆษณา , ความงามประโยชน์ ความเชื่อทางศาสนา และบรรยากาศและสภาพแวดล้อม ข้อมูลรายการเกี่ยวกับการบริโภคความถี่ของชาและกาแฟรวมอยู่ด้วยลูกค้าบ่อย ล้างคราบกาแฟในร้านค้าใน เกาสง และช้อปปิ้งใกล้เคียงเป้าหมายเป็นประเด็นตัวอย่างสำหรับการศึกษา กระชับรูขุมขน สิบสองหรือร้านกาแฟ ( ตารางที่ 6 ) ซึ่งมีมากกว่าสองสาขาที่ทั้งชาและกาแฟเครื่องดื่มที่มีอยู่สุ่มเลือก แบบสอบถามถึง322 / วิชา เราได้สามร้อยสิบหกที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หกการตอบสนองที่ถูกทิ้งจากการวิเคราะห์4 . การค้นพบและการอภิปรายการนำเสนอและอภิปรายผล โซลูชั่น จำกัดกับผลที่ได้จากแบบสอบถามสำหรับหลักฐานสำหรับการสอบถามข้อมูลงานวิจัยการศึกษา4.1 ทำคนส่วนใหญ่ในไต้หวันเลือก ชา หรือ กาแฟสำหรับช่วงบ่าย ล้างคราบ ?ไม่มีผลต่อข้อมูลประชากรอย่างมากทางเลือกของประชาชนในการตัดสินใจ ?ข้อมูลพื้นฐานของวิชา ได้แก่ :เพศ อายุ อาชีพ รายได้ และมีความถี่ของกระชับรูขุมขน ( ดูตารางที่ 1 )ความถี่ของพฤติกรรม teatime เข้าร่วมสำรวจ ;พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 50.9 teatimeน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ในขณะที่ร้อยละ 27.5 หมั้นในนี้กิจกรรมเป็นครั้งคราว มีเพียงส่วนน้อย ( 7.6% ) กระชับรูขุมขนทุก ๆวัน และประมาณร้อยละ 14 ของเคยเข้าร่วมกิจกรรม กระชับรูขุมขนมากกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์การสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการ พบว่า ผู้ถามอาจจะไม่ได้มีนิสัย teatime ทุกสัปดาห์ แต่ว่าก็ถ้าใครเชิญมา แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของเพื่อนก็ต้องเข้มแข็งเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประชากรตัวแปร , การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ( ดูตารางที่ 2 ) คือประยุกต์ ผลการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเพศชายคือเก่ากว่าผู้ตอบแบบสอบถามเพศหญิง ( p = . 014 ) ผู้ชายสูงกว่ารายได้รายได้มากกว่าเพศหญิง ( p = . 002 ) มันก็ผู้ชายที่เกี่ยวข้องในกิจกรรมกระชับรูขุมขนบ่อย ( p = . 002 ) และกลุ่มตัวอย่างที่เก่าอยู่ในระดับที่สูงขึ้นของรายได้ แทนนั้นใครเป็นเด็ก ( p = . 000 )เพื่อค้นหาความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างกลุ่มย่อยตามอาชีพที่สัมพันธ์กับอายุของพวกเขาและระดับรายได้ ไคกำลังสองแบบไล่ตาม เป็นการเปิดเผยตารางที่ 3 , สำนักงานแรงงานในกลุ่มอายุทั้งหมด ยกเว้น