portions of it. This reading is not

portions of it. This reading is not assigned in advance, for outside of class reading, in order to have the students approach the data and topic with only their preexisting knowledge and perceptions.
To provide a transition to the reading, the instructor explains to the class that whether or not the increasing proportion of single-mother families represents a social problem depends on the consequences associated with this change and whether some of the perceived problems surrounding these families can be directly traced to those family types or some other underlying factor. Thus, the next logical step for students in critically examining this social issue and in beginning to construct their own thoughtfully-considered opinion is to familiarize themselves with some of the debate on single-mother families. The class then reads the article. Additionally, given some students have a propensity for oral learning, the instructor may wish to have those paragraphs that warrant highlighting read aloud, either within the small groups or when the class reconvenes as a whole.
Once the students have finished the reading, the instructor explains that part of their job as critical learners is to understand the many facets of different arguments; in the social sciences this involves understanding the various hypotheses asserted in their reading and how the “solutions” to the perceived social “problems” stem from these hypotheses. First, the instructor explains that hypotheses in the social sciences articulate cause and effect relationships, or that certain conditions will affect human behavior in particular ways. It is typically helpful if the instructor points out that the statistic above (the increase from 4.5% to 7.5%) is not a hypothesis; instead, a hypothesis would suggest what caused that increase or the consequence of that increase.
The instructor asks each student to identify as many hypotheses as s/he can locate in the reading and to state them, in writing, as specifically as possible: “X” is the cause of “Y” or “A” is a consequence of “B.” Depending on the reading used, the instructor may wish to direct the students’ attention to particular paragraphs where hypotheses are either specifically stated or implied. When they are finished, the instructor lists many of their hypotheses on the blackboard, drawing from as many students as possible.
We suggest, in general (that is, not for the purposes of this exercise alone), drawing in more than those students who raise their hand; this can be done in a supportive manner and, given you have asked them to write down these hypotheses, they can simply turn to written lists which for most students is less threatening than being required to think off the top of their heads. This is one of the reasons we frequently ask students to write down an answer before we call on anyone to provide one: it also generates more thoughtful responses and engages a much larger portion of the class in the dialogue.
Some instructors may prefer to guide the students’ reading in advance by asking them to look for the hypotheses as they read, rather than wait until the students have finished the reading to assign that task. This depends somewhat on time and the exact purposes the instructor has in mind.
Examples of the kinds of hypotheses found are: 1) The cause of many social problems (poverty, drug abuse, crime, urban decay, etc.) is the growing number of children raised by single mothers, and 2) Poverty and other kinds of economic hardship are associated with child abuse and neglect, alcoholism, and drug use.
Once the hypotheses are listed on the board, the instructor resumes the small groups. The groups then review the hypotheses on the board and choose those which imply a social problem. Next, they identify a social policy, which may or may not be included in the reading, to address each problem. This step can be difficult for the students, so the instructor may wish to spend some time with each group to help them get started. Also, the instructor may point out that a single policy can address more than one problem.
Each group is then asked to choose one or two of their best examples, where “best” means logically and coherently linked hypothesis, problem, and policy. The students go to the board and reproduce these, using the framework below:
Hypothesis:
Problem:
Policy:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนของมัน อ่านนี้ไม่ได้กำหนดล่วงหน้า สำหรับนอกห้องเรียนอ่าน เพื่อให้มีวิธีการเรียนข้อมูลและหัวข้อของพวกเขายังรู้และรับรู้ไว้เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงที่การอ่าน ผู้สอนอธิบายประเภทว่า ไม่แสดงสัดของแม่เดียว ปัญหาสังคมขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนี้และว่าปัญหาการมองเห็นโดยรอบเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งสามารถตรงติดตามชนิดที่ครอบครัวหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้ ดังนั้น ตอนต่อไปตรรกะสำหรับนักเรียน ในการตรวจสอบถึงปัญหาสังคมนี้ และเริ่มสร้างความคิดของตนเองถือว่าพิถีพิถันจะคุ้นเคยกับบางส่วนของการอภิปรายบนแม่เดียว ชั้นเรียนแล้วอ่านบทความ นอกจากนี้ ให้นักเรียนมีนิสัยชอบเรียนรู้ ผู้สอนอาจต้องการมีที่ย่อหน้าที่รับประกันเน้นอ่านออกเสียง ในกลุ่มเล็ก ๆ หรือ เมื่อคลา reconvenes เป็นทั้ง ช่องปากเมื่อนักเรียนเสร็จแล้วอ่าน ผู้สอนอธิบายส่วนหนึ่งของงานเป็นสำคัญผู้เรียนจะ เข้าใจหลายแง่มุมของอาร์กิวเมนต์ต่างกัน ในสังคมศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเข้าใจต่าง ๆ hypotheses ยืนยันในการอ่านและวิธีการ "แก้ปัญหา" เพื่อการรับรู้ "ปัญหาสังคม" มาจาก hypotheses เหล่านี้ ครั้งแรก อาจารย์อธิบายว่า hypotheses ในสังคมวิทยาประกบความสัมพันธ์ของเหตุและผล หรือเงื่อนไขบางอย่างที่ จะมีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ด้วยวิธีการเฉพาะ จะเป็นประโยชน์โดยทั่วไปถ้าผู้สอนชี้ให้เห็นว่า สถิติข้างต้น (เพิ่มขึ้นจาก 4.5% เป็น 7.5%) ไม่ใช่สมมติฐาน แทน สมมติฐานแนะอะไรเกิดเพิ่มหรือโทษของการเพิ่มผู้สอนถามนักเรียน เพื่อระบุ hypotheses มาก s/เขา สามารถค้นหาในการอ่าน และ การรัฐพวกเขา เขียน เป็นที่เป็นไปได้: "X" เป็นสาเหตุของ "Y" หรือ "A" คือ ผลของ "บี" ขึ้นอยู่กับการอ่านที่ใช้ ผู้สอนอาจต้องการตรงความสนใจของนักเรียนโดยเฉพาะย่อหน้าที่ hypotheses ถูกโดยเฉพาะแสดง หรือโดยนัย เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้น ระบบผู้สอนแสดงของ hypotheses ของพวกเขาบนกระดานดำ วาดภาพจากนักเรียนมากที่สุดเราแนะนำ ทั่วไป (นั่นคือ ไม่สำหรับวัตถุประสงค์ในการออกกำลังกายนี้เพียงอย่างเดียว), วาดในมากกว่านักเรียนที่ยกมือของพวกเขา นี้สามารถทำได้ในลักษณะสนับสนุน และ ให้คุณได้ถามพวกเขาจด hypotheses เหล่านี้ พวกเขาสามารถเพียงแค่เปิดในรายการเขียนซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่จะคุกคามน้อยกว่าไม่ต้องคิดว่า ปิดด้านบนของหัวของพวกเขา นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เรามักให้นักเรียนเขียนคำตอบก่อนที่เราเรียกใครให้หนึ่ง: สร้างการตอบสนองมากขึ้นสวมยัง และประกอบเป็นส่วนที่ใหญ่ของคลาในกล่องโต้ตอบผู้สอนบางอย่างอาจต้องการอ่านของนักเรียนล่วงหน้าโดยหา hypotheses พวกเขาอ่าน แทนที่รอจนนักเรียนมีการอ่านการกำหนดงาน ค่อนข้างขึ้นอยู่กับเวลาและผู้สอนได้ทราบวัตถุประสงค์ที่แน่นอนตัวอย่างของชนิดของ hypotheses พบ: 1) สาเหตุของปัญหาสังคม (ความยากจน ยาเสพติด อาชญากรรม โคโลญจ์ ฯลฯ) ของเด็กโดยมารดาเดียว และ 2) ความยากจนและความยากลำบากทางเศรษฐกิจชนิดอื่นเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิเด็ก และละเลย โรคพิษสุราเรื้อรัง และยาเสพติดเมื่อ hypotheses อยู่ในคณะกรรมการ อาจารย์ต่อกลุ่มขนาดเล็ก กลุ่มทบทวน hypotheses บนกระดาน แล้วเลือกที่บ่งบอกถึงปัญหาสังคม ถัดไป พวกเขาสามารถระบุนโยบายสังคม ซึ่งอาจ หรืออาจไม่ถูกรวมในการอ่าน การแก้ไขปัญหาแต่ละ ขั้นตอนนี้อาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียน ดังนั้นผู้สอนอาจต้องใช้เวลากับแต่ละกลุ่มเพื่อช่วยในการเริ่มต้น ยัง ผู้สอนอาจชี้ว่า นโยบายเดียวที่สามารถแก้ไขปัญหามากกว่าหนึ่งแต่ละกลุ่มแล้วต้องเลือกหนึ่งหรือสองอย่างของพวกเขาที่ดีที่สุด ที่ "ดี" หมายถึง สมมติฐานที่เชื่อมโยงทางตรรกะ และสอด ปัญหา และนโยบาย นักเรียนไปยังคณะกรรมการ และเกิดเหล่านี้ ใช้กรอบด้านล่าง:สมมติฐาน:ปัญหา:นโยบาย:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บางส่วนของมัน อ่านนี้ไม่ได้ถูกกำหนดล่วงหน้านอกของการอ่านระดับเพื่อให้มีนักเรียนเข้าใกล้ข้อมูลและหัวข้อที่มีความรู้เพียงอย่างเดียวมาก่อนของพวกเขาและการรับรู้.
เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อการอ่านที่เป็นผู้สอนอธิบายให้คลาสที่หรือ ไม่ได้เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของครอบครัวเดียวกับแม่แสดงให้เห็นถึงปัญหาสังคมขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนี้และไม่ว่าจะเป็นบางส่วนของปัญหาการรับรู้รอบครอบครัวเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้โดยตรงกับประเภทครอบครัวเหล่านั้นหรือปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ ดังนั้นขั้นตอนต่อสำหรับนักเรียนในการตรวจสอบปัญหาวิกฤตทางสังคมและเริ่มต้นที่จะสร้างตัวเองความเห็นความคิดพิจารณาของพวกเขาคือการทำความคุ้นเคยกับบางส่วนของการอภิปรายในครอบครัวเดียวกับแม่ ชั้นแล้วอ่านบทความ นอกจากนี้ได้รับนักเรียนบางคนมีนิสัยชอบสำหรับการเรียนรู้ในช่องปากผู้สอนอาจต้องการที่จะมีย่อหน้าที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่เน้นการอ่านออกเสียงทั้งภายในกลุ่มเล็ก ๆ หรือเมื่อชั้น reconvenes รวม.
เมื่อนักเรียนได้เสร็จสิ้นการอ่านการสอน อธิบายว่าส่วนหนึ่งของงานของพวกเขาเป็นผู้เรียนที่สำคัญคือการทำความเข้าใจหลายแง่มุมของการขัดแย้งที่แตกต่างกัน ในสังคมศาสตร์นี้เกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจสมมติฐานต่างๆถูกกล่าวหาในการอ่านและวิธีการ "แก้ปัญหา" เพื่อการรับรู้ "ปัญหา" สังคมของพวกเขาเกิดจากสมมติฐานเหล่านี้ ครั้งแรกที่ผู้สอนอธิบายว่าสมมติฐานในสังคมศาสตร์ปล้องสาเหตุและผลกระทบความสัมพันธ์หรือเงื่อนไขบางอย่างที่จะมีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ในรูปแบบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันเป็นเรื่องปกติที่เป็นประโยชน์หากผู้สอนชี้ให้เห็นว่าสถิติดังกล่าวข้างต้น (เพิ่มขึ้นจาก 4.5% เป็น 7.5%) ไม่ได้เป็นสมมติฐาน; . แทนสมมติฐานที่จะแนะนำสิ่งที่เกิดขึ้นว่าการเพิ่มขึ้นหรือผลมาจากการเพิ่มขึ้นว่า
ครูถามนักเรียนแต่ละคนเพื่อแจ้งสมมติฐานมากที่สุดเท่าที่เขา / เธอสามารถหาตำแหน่งในการอ่านและการที่รัฐพวกเขาในการเขียนเป็นเฉพาะที่เป็นไปได้ " X "ที่เป็นสาเหตุของ" Y "หรือ" A "เป็นผลมาจาก" บี "ขึ้นอยู่กับการอ่านที่ใช้สอนอาจต้องการที่จะดึงดูดความสนใจของนักเรียนวรรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีทั้งสมมติฐานที่ระบุไว้โดยเฉพาะหรือโดยนัย เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นรายการสอนหลายสมมติฐานของพวกเขาบนกระดานดำภาพวาดจากนักเรียนจำนวนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้.
เราขอแนะนำทั่วไป (นั่นคือไม่ได้สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกกำลังกายนี้เพียงอย่างเดียว), การวาดภาพของนักเรียนมากกว่าคนที่ ยกมือ; นี้สามารถทำได้ในลักษณะที่สนับสนุนและให้คุณได้ถามพวกเขาที่จะเขียนลงสมมติฐานเหล่านี้พวกเขาก็สามารถเปิดให้รายการเขียนซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่เป็นที่คุกคามน้อยกว่าถูกต้องที่จะคิดออกด้านบนของศีรษะของพวกเขา นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เรามักถามนักเรียนที่จะเขียนลงคำตอบก่อนที่เราจะเรียกร้องให้ทุกคนที่จะให้ที่หนึ่ง: มันยังสร้างการตอบสนองรอบคอบมากขึ้นและเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ของชั้นเรียนในบทสนทนา.
อาจารย์บางคนอาจจะชอบที่จะเป็นแนวทางในการ การอ่านของนักเรียนล่วงหน้าโดยขอให้พวกเขาที่จะมองหาสมมติฐานที่พวกเขาอ่านมากกว่ารอจนกว่านักเรียนได้เสร็จสิ้นการอ่านเพื่อกำหนดงานที่ นี้ขึ้นอยู่บ้างในเวลาและวัตถุประสงค์ที่แน่นอนอาจารย์ผู้สอนมีอยู่ในใจ.
ตัวอย่างของชนิดของสมมติฐานที่พบคือ 1) สาเหตุของปัญหามากมายสังคม (ความยากจนยาเสพติดอาชญากรรมผุเมือง ฯลฯ ) เป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ของเด็กที่เกิดขึ้นโดยมารดาเดียวและ 2) ความยากจนและชนิดอื่น ๆ ของความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดเด็กและการละเลยโรคพิษสุราเรื้อรังและการใช้ยาเสพติด.
เมื่อสมมติฐานมีการระบุไว้บนกระดานสอนดำเนินการต่อกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มจากนั้นตรวจสอบสมมติฐานบนกระดานและเลือกผู้ที่บ่งบอกถึงปัญหาสังคม ต่อไปพวกเขาระบุนโยบายทางสังคมซึ่งอาจจะหรืออาจจะไม่ได้รวมอยู่ในการอ่านเพื่อแก้ไขปัญหาในแต่ละ ขั้นตอนนี้อาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียนเพื่อให้อาจารย์ผู้สอนอาจต้องการที่จะใช้เวลาอยู่กับแต่ละกลุ่มที่จะช่วยให้พวกเขาเริ่มต้น นอกจากนี้ผู้สอนอาจชี้ให้เห็นว่านโยบายเดียวสามารถที่อยู่มากกว่าหนึ่งปัญหา.
แต่ละกลุ่มจะถามแล้วให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือสองของตัวอย่างที่ดีที่สุดของพวกเขาที่ "ดีที่สุด" หมายความว่ามีเหตุผลและเป็นตุเป็นตะเชื่อมโยงสมมติฐานปัญหาและนโยบาย นักเรียนไปที่คณะกรรมการและการทำซ้ำเหล่านี้โดยใช้กรอบด้านล่าง:
สมมติฐาน:
ปัญหา:
นโยบาย: