There is no common cause of genocid

There is no common cause of genocide; it all depends on the different historical background of each country and how perpetrators define the group and how they determine who is a member (Karen 1996:6). On the Asian continent, communism as a socio-political and economic doctrine was the context in which genocide occurred, notably in Cambodia and China (Destexhe 1996:19). The Khmer Rouge communist leaders in Cambodia combined extremist ideology with ethnic animosity and disregarded human life to repress and murder and cause misery on a massive scale (Chalk and Jonassohn 1990:270). In Africa genocide and the strategy of dividing people in colonies were used to conquer and exploit people and gain economic and political power (Mann 2005:428). Inthe case of Rwanda, genocide was a carefully planned and executed exercise to annihilate Rwanda’s Tutsi and Hutu populations who disagreed with extremist politics. Here, genocide had much more complex roots than just deep ethnic hatred (Keane 1995:8; Melvern 2000:11). Its main causes were socio-political. They were rooted in the manipulation of the history of Rwanda by both colonial and post-colonial leaders and can therefore be attributed to both internal and external factors. The history of Rwanda was manipulated before independence by Western colonisers (Germany and Belgium) and after independence by inefficient local leadership (Turshen 2001:57) and the failure of democracy (Mann 2005:4). International indifference and the involvement of some Western countries who are accomplices made it possible for genocide to occur (Barnett 2005:551).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีสาเหตุทั่วไปของพันธุฆาต ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพื้นหลังทางประวัติศาสตร์แตกต่างกันของแต่ละประเทศ และการก่อความรุนแรงกำหนดกลุ่ม และวิธีกำหนดที่เป็นสมาชิก (กะเหรี่ยง 1996:6) ในทวีปเอเชีย คอมมิวนิสต์เป็นลัทธิการเมือง และเศรษฐกิจเป็นบริบทในการพันธุฆาตเกิดขึ้น โดยเฉพาะในกัมพูชาและจีน (Destexhe 1996:19) ผู้นำคอมมิวนิสต์เขมรแดงในกัมพูชารวมโต่งอุดมการณ์กับชนเผ่า animosity และละเว้นชีวิตมนุษย์ปราบปรามฆ่า และก่อให้เกิดความทุกข์ยากบนมาตราส่วนขนาดใหญ่ (1990:270 ชอล์กและ Jonassohn) ในแอฟริกา พันธุฆาตและกลยุทธ์แบ่งคนในอาณานิคมที่เคยพิชิต และกดขี่ขูดรีดคน และได้รับอำนาจทางเศรษฐกิจ และการเมือง (2005:428 มานน์) การออกกำลังกายที่วางแผนไว้อย่างรอบคอบ และดำเนินการทำลายของรวันดาปัญหา Inthe กรณีของรวันดา พันธุฆาตประชากร Tutsi และ Hutu ที่ disagreed กับเมืองโต่ง ที่นี่ พันธุฆาตมีรากมากขึ้นซับซ้อนกว่าความเกลียดชังลึกเพียงชนเผ่า (คีน 1995:8 Melvern 2000:11) สาเหตุหลักของการเมืองได้ พวกเขาถูกใช้ในจัดการประวัติของรวันดา โดยผู้นำอาณานิคม และหลังอาณานิคม และสามารถดังนั้นเกิดจากปัจจัยทั้งภายใน และภายนอก ประวัติของรวันดาได้จัดการก่อนเอกราช colonisers ตะวันตก (เยอรมนีและเบลเยียม) และหลัง จากเป็นอิสระ โดยผู้นำท้องถิ่นต่ำ (Turshen 2001:57) และความล้มเหลวของประชาธิปไตย (มานน์ 2005:4) ท่านนานาชาติและมีส่วนร่วมของบางประเทศตะวันตกที่ accomplices ทำการพันธุฆาต (บาร์เนต 2005:551) เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่มีสาเหตุของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คือ; ทั้งหมดขึ้นอยู่กับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศและวิธีการกระทำผิดกำหนดกลุ่มและวิธีที่พวกเขากำหนดผู้ที่เป็นสมาชิก (กะเหรี่ยง 1996: 6) ในทวีปเอเชียคอมมิวนิสต์เป็นหลักคำสอนทางสังคมการเมืองและเศรษฐกิจเป็นบริบทที่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกัมพูชาและประเทศจีน (Destexhe 1996: 19) เขมรแดงผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศกัมพูชารวมอุดมการณ์หัวรุนแรงที่มีความเกลียดชังเชื้อชาติและปัดทิ้งชีวิตมนุษย์ที่จะระงับและการฆาตกรรมและก่อให้เกิดความทุกข์ยากในระดับมาก (ชอล์กและ Jonassohn 1990: 270) การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแอฟริกาและกลยุทธ์การแบ่งคนในอาณานิคมถูกนำมาใช้เพื่อที่จะเอาชนะและใช้ประโยชน์จากผู้คนและได้รับอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมือง (แมนน์ 2005: 428) inthe กรณีของรวันดาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นการวางแผนอย่างรอบคอบและดำเนินการออกกำลังกายเพื่อทำลายประชากร Tutsi และตูของประเทศรวันดาที่ไม่เห็นด้วยกับการเมืองหัวรุนแรง ที่นี่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รากซับซ้อนมากขึ้นกว่าความเกลียดชังเชื้อชาติลึกเพียง (คีน 1995: 8; Melvern 2000: 11) สาเหตุหลักของมันอยู่ทางสังคมและการเมือง พวกเขาถูกฝังรากอยู่ในการจัดการของประวัติศาสตร์ของประเทศรวันดาโดยผู้นำทั้งสองยุคอาณานิคมและยุคหลังอาณานิคมและดังนั้นจึงสามารถนำมาประกอบกับปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ประวัติศาสตร์ของประเทศรวันดาได้รับการจัดการก่อนที่จะเป็นอิสระจากการล่าอาณานิคมตะวันตก (เยอรมนีและเบลเยียม) และหลังจากเป็นอิสระจากการเป็นผู้นำท้องถิ่นที่ไม่มีประสิทธิภาพ (Turshen 2001: 57) และความล้มเหลวของประชาธิปไตย (แมนน์ 2005: 4) ไม่แยแสระหว่างประเทศและการมีส่วนร่วมของประเทศตะวันตกบางคนที่สมรู้ร่วมคิดทำให้มันเป็นไปได้สำหรับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่จะเกิดขึ้น (บาร์เน็ตต์ 2005: 551)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่มีสาเหตุของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ; มันทั้งหมดขึ้นอยู่กับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างของแต่ละประเทศและวิธีการที่ผู้กำหนดกลุ่มและวิธีการตรวจสอบที่เป็นสมาชิก ( กะเหรี่ยง 1996:6 ) ในทวีปเอเชีย ลัทธิคอมมิวนิสต์ เป็นสังคม การเมือง และเศรษฐกิจเป็นหลักในบริบทที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกัมพูชาและจีน ( destexhe 1996:19 )เขมรแดงในกัมพูชารวมอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ผู้นำหัวรุนแรงกับความเกลียดชังชาติพันธุ์และไม่สนใจที่จะปราบปรามและสังหารชีวิตมนุษย์และก่อให้เกิดความทุกข์มหาศาล ( ชอล์กและ jonassohn 1990:270 ) การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแอฟริกาและกลยุทธ์ของการแบ่งคนในอาณานิคมได้ถูกใช้เพื่อพิชิตและเอาเปรียบประชาชนและเพิ่มทางเศรษฐกิจและอำนาจทางการเมือง ( Mann 2005:428 ) ในกรณีของรวันดาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คือการวางแผนอย่างระมัดระวังและดำเนินการออกกำลังกาย ไปทำลาย รวันดา และประชากรที่เป็นชาวทุตซีฮูตูหัวรุนแรงไม่เห็นด้วยกับการเมือง ที่นี่ เผ่าพันธุ์ มีรากมากซับซ้อนมากขึ้นกว่าเพียงลึกชาติความเกลียดชัง ( คีน 1995:8 ; เมลเวิร์น 2000:11 ) สาเหตุหลักคือสังคมการเมืองพวกเขาถูกฝังอยู่ในการจัดการของประวัติศาสตร์ของรวันดา โดยทั้งอาณานิคมและหลังอาณานิคมผู้นำและจึงสามารถเกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ประวัติศาสตร์ของรวันดาถูกบงการ ก่อนที่ความเป็นอิสระโดย colonisers ตะวันตก ( เยอรมันและเบลเยี่ยม ) และหลังจากเป็นอิสระ โดยผู้นำท้องถิ่นไม่มีประสิทธิภาพ ( turshen 2001:57 ) และความล้มเหลวของประชาธิปไตย ( Mann 2005:4 )แยแส ระหว่างประเทศ และการมีส่วนร่วมของประเทศตะวันตกที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทำมันเป็นไปได้สำหรับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น ( Barnett 2005:551 )