hotspots under 20 was calculated us

hotspots under 20 was calculated using a trial and error method. This generates ellipses
(i.e. hotspots) that refl ect the underlying crime events and eliminates those ellipses that
could be created to make up the numbers to reach 20. The only guidance for applying a
suitable search radius was experimentation and experience ( Levine, 2004 ). This resulted
in the use of three search radii to determine hotspots – 500 m, 250 m and a search radius
equal to the default bandwidth in Hotspot Detective (the rationale for choosing this
Hotspot Detective value is explained below in the KDE section). This Hotspot Detective
derived parameter determined an alternate search radius size that varied in accordance
with the spatial characteristics of the crime input data. The three approaches were called
STAC-500, STAC-250 and STAC-HD. Once these parameters had been set and run in
CrimeStat, the output was imported into MapInfo for display.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดที่ต่ำกว่า 20 คำนวณโดยใช้วิธีการทดลองและข้อผิดพลาด สร้างวงรี(เช่นจุดเชื่อมต่อ) ที่ refl ect เหตุการณ์อาชญากรรมพื้นฐาน และกำจัดเหล่าวงรีที่สามารถสร้างจะทำให้ค่าตัวเลขถึง 20 คำแนะนำเฉพาะสำหรับการใช้เป็นรัศมีการค้นหาที่เหมาะสมคือ การทดลองและประสบการณ์ (Levine, 2004) ส่งผลให้ในการใช้สามค้นหารัศมีการตรวจสอบจุด – 500 เมตร 250 เมตร และรัศมีค้นหาเท่ากับแบนด์วิดท์ที่เริ่มต้นในฮอตสปอนักสืบ (เหตุผลที่เลือกนี้ฮอตสปอนักสืบค่าสำคัญนี้ในส่วนของ KDE) นักสืบนี้ฮอตสปอตพารามิเตอร์ที่ได้รับการกำหนดขนาดรัศมีการค้นหาอื่นที่แตกต่างกันตามกับลักษณะเชิงพื้นที่ของข้อมูลป้อนเข้าของอาชญากรรม เรียกว่าแนวทางสามบริษัท 500, 250 บริษัท และบริษัท-HD เมื่อได้รับการตั้งค่า และเรียกใช้ในพารามิเตอร์เหล่านี้CrimeStat ผลผลิตถูกนำเข้ามาใน MapInfo สำหรับจอแสดงผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฮอตสปอตต่ำกว่า 20 ได้รับการคำนวณโดยใช้การทดลองและวิธีการที่ผิดพลาด นี้สร้างวงรี
(เช่นฮอตสปอต) ที่ refl ect เหตุการณ์อาชญากรรมพื้นฐานและกำจัดจุดเหล่านั้นที่
อาจจะสร้างขึ้นเพื่อให้ได้หมายเลขที่จะไปถึง 20 คำแนะนำเฉพาะสำหรับการใช้
รัศมีการค้นหาที่เหมาะสมคือการทดลองและประสบการณ์ (Levine, 2004) นี้ส่งผล
ในการใช้งานในสามของรัศมีการค้นหาเพื่อตรวจสอบฮอตสปอต - 500 เมตร, 250 เมตรและรัศมีการค้นหา
เท่ากับแบนด์วิธเริ่มต้นใน Hotspot นักสืบ (เหตุผลสำหรับการเลือกนี้
ค่านักสืบ Hotspot จะมีการอธิบายด้านล่างในส่วนของ KDE) นี้ Hotspot นักสืบ
พารามิเตอร์ที่ได้มากำหนดขนาดรัศมีการค้นหาอื่นที่แตกต่างกันตาม
ที่มีลักษณะเชิงพื้นที่ของข้อมูลเข้าอาชญากรรม สามวิธีที่ถูกเรียกว่า
STAC-500, STAC-250 และ STAC-HD เมื่อพารามิเตอร์เหล่านี้ได้รับการตั้งค่าและทำงานใน
CrimeStat เอาท์พุทที่ถูกนำเข้ามาใน MapInfo สำหรับการแสดงผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดใต้ 20 ถูกคำนวณโดยใช้วิธีลองผิดลองถูก . สร้างวงรี( เช่นจุด ) ที่ refl ect ) เหตุการณ์และลดอาชญากรรมที่วงรีที่อาจจะสร้างขึ้นเพื่อทำให้ตัวเลขถึง 20 คำแนะนำสำหรับการรัศมีการค้นหาที่เหมาะสมคือการทดลองและประสบการณ์ ( Levine , 2004 ) โดยในการใช้ค้นหาเพื่อตรวจสอบจุด– 3 รัศมี 500 เมตร , 250 เมตรและค้นหารัศมีเท่ากับค่าแบนด์วิดธ์ใน hotspot นักสืบ ( เหตุผลที่เลือกนี้ค่านักสืบภายในอธิบายด้านล่างในส่วนของ KDE ) นี้ฮอตสปอต นักสืบได้กำหนดพารามิเตอร์อื่นค้นหาขนาดรัศมีที่หลากหลายตามมีลักษณะพื้นที่ของอาชญากรรม ใส่ข้อมูล สามวิธีที่ถูกเรียกว่าstac-500 stac-250 stac-hd , และ . เมื่อพารามิเตอร์เหล่านี้ได้รับการตั้งค่าและเรียกใช้ในcrimestat ผลผลิตถูกนำเข้าสู่ mapinfo สำหรับการแสดงผล