and depends not only on the paramet

and depends not only
on the parameters shown in Fig. 5 but also on the investment
and maintenance cost of the machines.
This cost range from US$12 to US$18 per ton of straw.
Similarly, assuming that the collected straw is for anaerobic digestion (Nguyen et al., 2016), the value of biogas generated (390 m3 t−1 of straw) for about 160 Liters
of kerosene is about US$160.
It means that straw collection cost only accounts for 8–13% of the output value of processing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

และขึ้นกับไม่เท่านั้น ในพารามิเตอร์ที่แสดง ในรูปที่ 5 แต่ จากการลงทุนและต้นทุนการบำรุงรักษาของเครื่องจักร ช่วงจากสหรัฐอเมริกา $12 ถึง US$ 18 ต่อตันฟางละ ในทำนองเดียวกัน สมมติว่าฟางรวบรวมเป็นภาษาอังกฤษ (เหงียน et al. 2016), ค่าของก๊าซชีวภาพ สร้าง (390 m3 t−1 ฟาง) สำหรับประมาณ 160 ลิตรของน้ำมันก๊าดอยู่ประมาณ 160 ดอลลาร์ หมายความ ว่า เก็บฟางต้นทุนเฉพาะบัญชี 8-13% ของมูลค่าผลผลิตของการประมวลผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และไม่เพียง แต่ขึ้น
อยู่กับตัวแปรที่แสดงในรูป 5 แต่ยังเกี่ยวกับการลงทุน
และการบำรุงรักษาค่าใช้จ่ายของเครื่อง.
ช่วงนี้ค่าใช้จ่ายจาก $ เรา 12 US $ 18 ต่อตันจากฟาง.
ในทำนองเดียวกันสมมติว่าฟางที่เก็บรวบรวมเป็นสำหรับการย่อยอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน (เหงียน et al., 2016), ค่าของ การผลิตก๊าซชีวภาพสร้าง (390 M3 T-1 จากฟาง) ประมาณ 160 ลิตร
น้ำมันก๊าดประมาณ $ 160 US.
ก็หมายความว่าค่าใช้จ่ายในการเก็บฟางเพียงบัญชีสำหรับ 8-13% ของมูลค่าการส่งออกของการประมวลผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และขึ้นอยู่ไม่เพียงในพารามิเตอร์ที่แสดงในรูปที่ 5 แต่ยังเกี่ยวกับการลงทุนและค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาเครื่องจักรราคาช่วงจาก $ 12 ถึง US $ 18 ต่อตันของฟางในทํานองเดียวกัน สมมติว่าเก็บฟางสำหรับการหมัก ( Nguyen et al . , 2016 ) , ค่าของก๊าซชีวภาพที่เกิด ( 390 m3 T − 1 หลอด ) ประมาณ 160 ลิตรของน้ำมันก๊าดประมาณ US $ 160มันหมายถึงว่าฟางรวบรวมบัญชีต้นทุนเพียง 8 – 13 % ของมูลค่าส่งออกของการประมวลผล