In doing his analysis, Mr. Barnes d

In doing his analysis, Mr. Barnes discovered that the appeal of baseball cards was not only in opening a wrapper and finding a favorite player enclosed but also that many baseball cards initially purchased for pennies had gained substantially in value. Once a player achieved star status, his rookie card (first issued) might greatly increase in worth. For example, the 1968 rookie card of Nolan Ryan was selling for $2000 in early 1993. The 1963 Pete Rose rookie card was valued at $800 and, finally, the first Topps card of Mickey Mantle issued in 1952 at 1 cent carried a trading value of $30000 four decades later. While the card manufacturer did not directly participate in this price appreciation, the hope for such gains in the future keeps youngsters and adults continually active in buying cards as they come out.
The sales for the set, which would be called Baseball Stars, would depend on the quality of the final product as well as the effectiveness of the promotional activities. There is also the danger of a number of errors when a set is initially issued. With approximately 750 cards in the set, there is the possibility of misquoting batting averages, misspelling names, and so on. When Fleer and Donruss introduced their new set in 1981, they were highly criticized by collectors for the numerous errors. Mr. Barnes hoped to avoid this fate for the Baseball Stars set by making heavy expenditures on quality control. He also intended to hire a number of employees from other card companies so he would have experienced people who could identify potential problems at a very early stage.
Over the years, Phelps Toy Company had developed a manual to evaluate capital budgeting projects. As a first step, Ike Barnes was required to predict anticipated sales over the next six years. While choice but to go along with company policy. He decided to project a range for potential sales in 1994 (the first year of business) and assign probabilities to the outcomes. The information is shown in Figure 2.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการวิเคราะห์ของเขา คุณบาร์น ค้นพบว่า อุทธรณ์ของการ์ดเบสบอลคือไม่เพียง แต่ในการเปิดกระดาษห่อและการหาผู้เล่นที่ชื่นชอบ แต่ยังหลายเบสบอลการ์ดในตอนแรกซื้อสำหรับ pennies ได้รับมากค่า เมื่อผู้เล่นได้รับสถานะดาว , บัตรมือใหม่ของเขา ( ออกก่อน ) จะช่วยเพิ่มมูลค่า ตัวอย่างเช่น1968 มือใหม่การ์ดของโนแลนไรอันขาย $ 2000 ในต้นปี 1993 1963 พีทโรสมือใหม่บัตรมีมูลค่า $ 800 และ , ในที่สุด , ทอปส์แรกบัตรของหิ้งมิกกี้ออกในปี 1952 ที่ร้อยละ 1 นำมูลค่าการซื้อขายของ $ 30 , 000 สี่ทศวรรษที่ผ่านมาในภายหลัง ในขณะที่บัตรผู้ผลิตโดยตรงไม่ได้มีส่วนร่วมในการราคานี้การหวังกำไรในอนาคต ทำให้เยาวชนและผู้ใหญ่ในการซื้อบัตรงานอย่างต่อเนื่องเช่นที่พวกเขาออกมา
ขายชุดซึ่งถูกเรียกว่าดาวเบสบอล จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์สุดท้าย รวมทั้งประสิทธิผลของกิจกรรมส่งเสริมการขาย นอกจากนี้ยังมีอันตรายจากหมายเลขของข้อผิดพลาดเมื่อตั้งค่าออกในตอนแรกมีประมาณ 750 การ์ดในชุด มีความเป็นไปได้ของ misquoting batting เฉลี่ย สะกดชื่อ และอื่น ๆ และเมื่อ fleer donruss แนะนำชุดใหม่ของพวกเขาในปี 1981 พวกเขาขอวิจารณ์โดยนักสะสมสำหรับข้อผิดพลาดมากมาย คุณ บาร์นส์หวังที่จะหลีกเลี่ยงโชคชะตานี้สำหรับเบสบอลดาวตั้งโดยการใช้จ่ายหนักในการควบคุมคุณภาพนอกจากนี้เขายังตั้งใจที่จะจ้างจำนวนของพนักงานจาก บริษัท บัตรอื่น ๆ เพื่อที่เขาจะได้เจอคนที่สามารถระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนแรกมาก .
กว่าปีที่ บริษัท ของเล่น เฟลป์ส ได้พัฒนาตนเอง เพื่อประเมินโครงการงบประมาณเงินทุน เป็นขั้นตอนแรก ไอค์ บาร์นส์ต้องทำนายคาดการณ์ยอดขายในอีก 6 ปีในขณะที่ แต่เลือกที่จะไปตามนโยบายของบริษัท เขาตัดสินใจโครงการขายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปี 2537 ( ปีแรกของธุรกิจ ) และกำหนดความน่าจะเป็นกับผลลัพธ์ ข้อมูลที่แสดงในรูปที่ 2 .