Patients with chronic aphasia were

Patients with chronic aphasia were assigned randomly to a group to receive either conventional aphasia therapy or constraint-induced (CI) aphasia therapy, a new therapeutic technique requiring intense practice over a relatively short period of consecutive days. CI aphasia therapy is realized in a communicative therapeutic environment constraining patients to practice systematically speech acts with which they have difficulty. Patients in both groups received the same amount of treatment (30 to 35 hours) as 10 days of massed-practice language exercises for the CI aphasia therapy group (3 hours per day minimum; 10 patients) or over a longer period of '4 weeks for the conventional therapy group (7 patients). CI aphasia therapy led to significant and pronounced improvements on several standard clinical tests, on self-ratings, and on blinded-observer ratings of the patients’ communicative effectiveness in everyday life. Patients who
received the control intervention failed to achieve comparable improvements. Data suggest that the language skills of patients with chronic aphasia can be improved in a short period by use of an appropriate massed-practice technique that focuses on the patients’ communicative needs. (Stroke. 2001;32:1621-1626.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้ป่วยที่ มีโรค aphasia ถูกกำหนดแบบสุ่มกลุ่มรับบำบัด aphasia ธรรมดาหรือเกิดจากข้อจำกัด (CI) aphasia บำบัด เทคนิคการรักษาใหม่ที่ต้องปฏิบัติเข้มกว่าวันติดต่อกันเป็นเวลาค่อนข้างสั้น CI aphasia บำบัดเป็นจริงเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมกีดผู้ป่วยเพื่อฝึกการกระทำคำพูดที่พวกเขามีปัญหาอย่างเป็นระบบ ผู้ป่วยในทั้งสองกลุ่มได้รับยอดเงินเท่ากันของการรักษา (30-35 ชั่วโมง) เป็นเวลา 10 วันฝึกภาษาฝึกพ่วงหน้าพ่วงหลัง CI aphasia บำบัดกลุ่ม (3 ชั่วโมงต่อวันต่ำสุด 10 ผู้ป่วย) หรือระยะเวลายาวของ ' 4 สัปดาห์สำหรับกลุ่มบำบัดแบบเดิม (ผู้ป่วย 7) CI aphasia บำบัดที่นำไปสู่การปรับปรุงที่สำคัญ และการออกเสียง เกี่ยวกับการทดสอบทางคลินิกหลายมาตรฐาน ประเมินตนเอง และ การจัดอันดับนักการมองไม่เห็นผู้ป่วยประสิทธิภาพการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยที่รับแทรกแซงควบคุมล้มเหลวในการบรรลุการปรับปรุงเปรียบเทียบได้ ข้อมูลแนะนำว่า ภาษาของผู้ป่วยที่มีโรค aphasia สามารถปรับปรุงในระยะสั้น โดยใช้เทคนิคฝึกพ่วงหน้าพ่วงหลังที่เหมาะสมที่มุ่งเน้นความต้องการสื่อสารของผู้ป่วย (จังหวะการ 2001; 32:1621-1626.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้ป่วยที่มีความพิการทางสมองเรื้อรังถูกสุ่มให้กลุ่มที่จะได้รับการรักษาทั้งความพิการทางสมองธรรมดาหรือข้อ จำกัด ที่เกิดขึ้น (CI) การรักษาความพิการทางสมองซึ่งเป็นเทคนิคการรักษาใหม่ที่ต้องปฏิบัติอย่างรุนแรงในช่วงระยะเวลาอันสั้นของวันติดต่อกัน CI การรักษาความพิการทางสมองเป็นที่ตระหนักในสภาพแวดล้อมการรักษาผู้ป่วย constraining การสื่อสารในการปฏิบัติอย่างเป็นระบบบารมีกับที่พวกเขามีความยากลำบาก ผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มได้รับจำนวนเงินเดียวกันของการรักษา (30-35 ชั่วโมง) เป็นเวลา 10 วันของการออกกำลังกายภาษาปฏิบัติมวลชนสำหรับกลุ่มความพิการทางสมอง CI การรักษา (3 ชั่วโมงต่อขั้นต่ำวัน 10 ราย) หรือระยะเวลานาน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มการรักษาแบบดั้งเดิม (7 คน) การรักษาความพิการทางสมอง CI นำไปสู่การปรับปรุงที่สำคัญและเด่นชัดในหลายการทดสอบทางคลินิกมาตรฐานการให้คะแนนของตัวเอง, และการจัดอันดับตาบอดผู้สังเกตการณ์ของประสิทธิภาพการสื่อสารของผู้ป่วยในชีวิตประจำวัน
ผู้ป่วยที่ได้รับการแทรกแซงควบคุมล้มเหลวในการบรรลุการปรับปรุงเทียบเคียง ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าทักษะการใช้ภาษาของผู้ป่วยที่มีความพิการทางสมองเรื้อรังได้ดีขึ้นในช่วงเวลาสั้นโดยการใช้เทคนิคที่เหมาะสมมวลชนปฏิบัติที่มุ่งเน้นผู้ป่วยที่ต้องการการสื่อสาร (โรคหลอดเลือดสมอง 2001; 32:. 1621-1626.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้ป่วยทางสมองเรื้อรัง ได้รับแบบสุ่มให้กลุ่มที่ได้รับทั้งทางสมองหรือการรักษาแบบกระตุ้น ( CI ) ทางสมอง การรักษาผู้ที่ต้องการฝึกเทคนิคใหม่ที่รุนแรงกว่าระยะเวลาอันสั้นของวันติดต่อกันCI ความจำเสื่อมบำบัดคือตระหนักในสภาพแวดล้อมการรักษาผู้ป่วยเพื่อการปฏิบัติอย่างเป็นระบบ เพื่อจำกัดการกระทำคำพูด ซึ่งมีความยากลําบาก ผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มได้รับจำนวนเงินเดียวกันของการรักษา ( 30 ถึง 35 ชั่วโมง ) 10 วัน ฝึกภาษา ฝึก massed CI ความจำเสื่อมบำบัด ( อย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน ;10 ) หรือผ่านระยะเวลา 4 สัปดาห์สำหรับกลุ่มบำบัดแบบเดิม ( 7 ราย ) และนำไปสู่การปรับปรุงและคุณรักษาอย่างเด่นชัดในหลายการทดสอบทางคลินิกมาตรฐานการจัดอันดับตนเองและสังเกตคะแนนของผู้ป่วยตาบอดประสิทธิภาพการสื่อสารในชีวิตประจําวัน ผู้ป่วย
ได้รับการแทรกแซงควบคุมล้มเหลวที่จะบรรลุการปรับปรุงเทียบเท่า ข้อมูลแนะนำว่าทักษะทางภาษาของผู้ป่วยอะเฟเซียเรื้อรังจะดีขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยการใช้ที่เหมาะสม massed ฝึกเทคนิคที่มุ่งเน้นผู้ป่วย การสื่อสารความต้องการ ( จังหวะ 2001 32:1621-1626 )