ภูมิหลัง นาย ทองมา เปรียบยิ่ง เป็นบุตรชายคนโต จากพี่น้อง ๗ คน ของพ่อดิ การแปล - ภูมิหลัง นาย ทองมา เปรียบยิ่ง เป็นบุตรชายคนโต จากพี่น้อง ๗ คน ของพ่อดิ ไทย วิธีการพูด

ภูมิหลัง นาย ทองมา เปรียบยิ่ง เป็นบ

ภูมิหลัง
นาย ทองมา เปรียบยิ่ง เป็นบุตรชายคนโต จากพี่น้อง ๗ คน ของพ่อดิน และแม่ลุน เปรียบยิ่ง ปัจจุบันอายุ ๕๐ ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่ บ้านเลขที่ ๒๐ หมู่ที่ ๑๒ บ้านโดนเลงใต้ ต.ทมอ อ.ปราสาท จ. สุรินทร์ หลังจบการศึกษาภาคบังคับในสมัยนั้น ทองมาก็ได้ออกมาช่วยครอบครัวทำนาและใช้วิถีชีวิตชนบทมาตั้งแต่บัดนั้น จวบจนย่างเข้าวัยหนุ่ม อายุได้ ๒๒ ปี ทองมาเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็น “นายฮ้อย” ค้าควายอยู่ที่จังหวัดชลบุรี แต่ทำได้เพียง ๑ ปี ก็ย้อนกลับมาสู่วิถีชีวิตแบบเดิม พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้ สมรสกับนางประสพ เปรียบยิ่ง มีบุตรและธิดารวม ๓ คน
วิถีเกษตร
ก่อนปี ๒๕๓๔ ครอบครัวของทองมา ยังคงทำนาเชิงเดี่ยวอยู่ แต่หลังจากนั้น เมื่อมีโครงการ คสป. เข้ามารับซื้อข้าวในหมู่บ้าน ซึ่งบ้านทะมอจะมีข้าวชนิดหนึ่งซึ่งที่อื่นไม่มี คือข้าวเนื้ออ่อน และก็ได้ชักชวนชาวบ้านให้หันมาทำนาโดยเน้นการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด ใช้วัตถุดิบที่มีในธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก โดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกจำพวกปุ๋ยหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช การปฏิบัติในแนวทางนี้ นอกจากจะทำให้คุณภาพของดินดีขึ้นแล้ว ผลผลิตที่ได้ยังปลอดจากสารเคมีทุกชนิด อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ ถือเป็นการลดต้นทุนการผลิตไปในตัว เข้าสู่โครงการนำร่องฯ ปี ๒๕๔๔ ทองมาได้เข้าร่วมโครงการนำร่องฯ โดยพื้นที่ที่ทองมาอาศัยอยู่และพื้นที่ทำกินนั้น อยู่ในผืนเดียวกัน โดยแบ่งเป็นที่อยู่อาศัย ๑ งาน และพื้นที่เข้าร่วมโครงการ ๑๒ ไร่ นอกเหนือไปจากนั้น ก็มีแปลงสำหรับทำนาอินทรีย์และทำเกษตรแบบพึ่งตนเอง ๒๐ ไร่ การเข้าร่วมโครงการนำร่องฯ ทำให้มีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานของเกษตรกรตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากการทำนาธรรมชาติ นาอินทรีย์ หลายๆ คน เช่น พ่อคำเดื่อง ภาษี ปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นนักปฏิบัติแห่งยุคสมัย ที่กิ่งอำเภอแคนดง จ.บุรีรัมย์ อีกทั้งพ่อเชียง ไทยดี ปราชญ์นักวิจัยชาวบ้าน จากอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ การได้เห็น ได้สัมผัส ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์นี่เอง ทำให้ได้แนวคิดมาปรับประยุกต์ใช้กับผืนนาของตนเอง นอกเหนือจากความรู้และประสบการณ์หลากหลายที่ได้รับจากโครงการฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมแล้ว การช่วยเหลือเกื้อหนุนปัจจัยการผลิตอื่นๆ ที่ได้รับก็คือ ได้รับงบประมาณอุดหนุนสำหรับพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การทำโรงเรือนสำหรับเลี้ยงสัตว์

บ่อเลี้ยงปลา
ในพื้นที่ทำกินของนายทองมา มีบ่อน้ำจำนวน ๓ บ่อ ซึ่งเพียงพอสำหรับทำการเกษตรตลอดทั้งปี ทำให้มีผลผลิตทางการเกษตรหมุนเวียนสำหรับบริโภคในครัวเรือนตลอดทั้งปี พืชผักสวนครัว จำพวก ตะไคร้ กระเพราะ โหระพา พริก ขิง ข่า ฯลฯ และไม้ผลจำพวกมะม่วง กล้วย กะท้อน จึงมีให้ได้เก็บกินสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละฤดูกาล เหลือจากนั้นก็นำไปขายนำรายได้สู่ครอบครัวในอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังมีพืชจำพวกสมุนไพรอีกด้วยประการสำคัญคือ ทองมาสามารถประคบประหงมไม้ผลชนิดหนึ่ง ซึ่งชาวสุรินทร์โดยทั่วไปมีความเชื่อว่า ไม่มีทางปลูกได้ นั่นคือ “เงาะโรงเรียน”

เงาะโรงเรียน
นายทองมาและครอบครัวสามารถเก็บผลผลิตบริโภคร่วม ๓ ปีแล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ ที่ทะลายกำแพงความเชื่อของคนทั่วไปได้ โดยการปฏิบัติและเอาใจใส่ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากพื้นที่ของทองมาปลูกเงาะได้ พื้นที่อื่นๆ ในจังหวัดสุรินทร์ก็น่าจะปลูกเงาะได้เช่นเดียวกัน หากเกษตรกรมีความเอาใจใส่อย่างจริงๆ จังๆ
ถ่ายทอดภูมิปัญญา
จากองค์ความรู้และประสบการณ์ทั้งหลายที่มีทองมามีอยู่นั้น ก็ไม่ได้เก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว ยังถ่ายทอดสู่เพื่อนเกษตรกรทั้งในและนอกกลุ่มของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านการปรับปรุงบำรุงดิน การวิเคราะห์สภาพพื้นดินว่าเหมาะสมกับการปลูกพืชชนิดไหน ถือได้ว่าทองมาเป็นนักวิจัยชาวบ้านอีกคนหนึ่งที่กำลังมีผลงานเป็นที่ยอมรับ
ความภูมิใจของครอบครัว
ถึงแม้ว่าทองมาและภรรยาจะจบการศึกษาเพียงขั้นพื้นฐาน และประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาตลอดชีวิต แต่สิ่งหนึ่งซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ครอบครัวของทั้งคู่ นั่นก็คือ ลูกๆ แต่ละคนไม่สร้างความผิดหวังให้กับตนธิดาคนโต ปัจจุบันรับราชการครู ส่วนบุตรชายคนที่ ๒ กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในสายงานด้านเกษตรกรรม อยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนบุตรีคนสุดท้องก็กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยม

พืชผักสวนครัว
การทำเกษตรธรรมชาติ ก็สามารถส่งลูกเรียนสูงๆ ได้เช่นกัน นี่คืออีกผลผลิตหนึ่งทั้งคู่ภาคภูมิใจตลอดระยะเวลากว่า ๑๐ ปี ในวิถีเกษตรแบบธรรมชาติ ที่เน้นการพึ่งพาปัจจัยภายในและลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกให้น้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่เพียงแต่จะสร้างความสมดุลให้คืนสู่ธรรมชาติแล้ว ยังนำความสุขมาสู่ครอบครัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ในอีกทางหนึ่ง

0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ภูมิหลัง
นายทองมาเปรียบยิ่งเป็นบุตรชายคนโตจากพี่น้อง ๗ คนของพ่อดินและแม่ลุนเปรียบยิ่งปัจจุบันอายุ ๕๐ ปีปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ ๒๐ หมู่ที่ ๑๒ บ้านโดนเลงใต้ต.ทมออ.ปราสาทจ สุรินทร์หลังจบการศึกษาภาคบังคับในสมัยนั้นทองมาก็ได้ออกมาช่วยครอบครัวทำนาและใช้วิถีชีวิตชนบทมาตั้งแต่บัดนั้นจวบจนย่างเข้าวัยหนุ่มอายุได้ ๒๒ ปีทองมาเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็น "นายฮ้อย" แต่ทำได้เพียง ๑ ปีก็ย้อนกลับมาสู่วิถีชีวิตแบบเดิมพศ. ๒๕๓๖ ได้สมรสกับนางประสพเปรียบยิ่งมีบุตรและธิดารวม ๓ คน
วิถีเกษตร
ก่อนปี ๒๕๓๔ ครอบครัวของทองมายังคงทำนาเชิงเดี่ยวอยู่แต่หลังจากนั้นเมื่อมีโครงการคสป เข้ามารับซื้อข้าวในหมู่บ้านซึ่งบ้านทะมอจะมีข้าวชนิดหนึ่งซึ่งที่อื่นไม่มีคือข้าวเนื้ออ่อนและก็ได้ชักชวนชาวบ้านให้หันมาทำนาโดยเน้นการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุดใช้วัตถุดิบที่มีในธรรมชาติเช่นปุ๋ยคอก โดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกจำพวกปุ๋ยหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืชการปฏิบัติในแนวทางนี้นอกจากจะทำให้คุณภาพของดินดีขึ้นแล้วผลผลิตที่ได้ยังปลอดจากสารเคมีทุกชนิดอีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ เข้าสู่โครงการนำร่องฯ ปี ๒๕๔๔ ทองมาได้เข้าร่วมโครงการนำร่องฯ โดยพื้นที่ที่ทองมาอาศัยอยู่และพื้นที่ทำกินนั้นอยู่ในผืนเดียวกันโดยแบ่งเป็นที่อยู่อาศัย ๑ งานและพื้นที่เข้าร่วมโครงการ ๑๒ ไร่ ก็มีแปลงสำหรับทำนาอินทรีย์และทำเกษตรแบบพึ่งตนเอง ๒๐ ไร่การเข้าร่วมโครงการนำร่องฯ ทำให้มีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานของเกษตรกรตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากการทำนาธรรมชาตินาอินทรีย์หลาย ๆ คนเช่นพ่อคำเดื่อง ปราชญ์ชาวบ้านซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นนักปฏิบัติแห่งยุคสมัยที่กิ่งอำเภอแคนดงจบุรีรัมย์อีกทั้งพ่อเชียงไทยดีปราชญ์นักวิจัยชาวบ้านจากอำเภอศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์การได้เห็นได้สัมผัสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์นี่เองทำให้ได้แนวคิดมาปรับประยุกต์ใช้กับผืนนาของตนเอง ทั้งทางตรงและทางอ้อมแล้วการช่วยเหลือเกื้อหนุนปัจจัยการผลิตอื่น ๆ ที่ได้รับก็คือได้รับงบประมาณอุดหนุนสำหรับพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรการทำโรงเรือนสำหรับเลี้ยงสัตว์

บ่อเลี้ยงปลา
ในพื้นที่ทำกินของนายทองมามีบ่อน้ำจำนวน ๓ บ่อซึ่งเพียงพอสำหรับทำการเกษตรตลอดทั้งปีทำให้มีผลผลิตทางการเกษตรหมุนเวียนสำหรับบริโภคในครัวเรือนตลอดทั้งปีพืชผักสวนครัวจำพวกตะไคร้กระเพราะโหระพาพริกขิง ฯลฯ และไม้ผลจำพวกมะม่วงกล้วยกะท้อนจึงมีให้ได้เก็บกินสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละฤดูกาลเหลือจากนั้นก็นำไปขายนำรายได้สู่ครอบครัวในอีกทางหนึ่งนอกจากนี้แล้วยังมีพืชจำพวกสมุนไพรอีกด้วยประการสำคัญคือ ซึ่งชาวสุรินทร์โดยทั่วไปมีความเชื่อว่าไม่มีทางปลูกได้นั่นคือ "เงาะโรงเรียน"

เงาะโรงเรียน
นายทองมาและครอบครัวสามารถเก็บผลผลิตบริโภคร่วม ๓ ปีแล้วนี่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ที่ทะลายกำแพงความเชื่อของคนทั่วไปได้โดยการปฏิบัติและเอาใจใส่ซึ่งนั่นก็หมายความว่า พื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดสุรินทร์ก็น่าจะปลูกเงาะได้เช่นเดียวกันหากเกษตรกรมีความเอาใจใส่อย่างจริง ๆ จัง ๆ
ถ่ายทอดภูมิปัญญา
จากองค์ความรู้และประสบการณ์ทั้งหลายที่มีทองมามีอยู่นั้นก็ไม่ได้เก็บไว้แต่เพียงผู้เดียวยังถ่ายทอดสู่เพื่อนเกษตรกรทั้งในและนอกกลุ่มของตนเองไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านการปรับปรุงบำรุงดิน ถือได้ว่าทองมาเป็นนักวิจัยชาวบ้านอีกคนหนึ่งที่กำลังมีผลงานเป็นที่ยอมรับ
ความภูมิใจของครอบครัว
ถึงแม้ว่าทองมาและภรรยาจะจบการศึกษาเพียงขั้นพื้นฐานและประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาตลอดชีวิตแต่สิ่งหนึ่งซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ครอบครัวของทั้งคู่นั่นก็คือลูก ๆ ปัจจุบันรับราชการครูส่วนบุตรชายคนที่ ๒ กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในสายงานด้านเกษตรกรรมอยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้จังหวัดเชียงใหม่ส่วนบุตรีคนสุดท้องก็กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยม

พืชผักสวนครัว
การทำเกษตรธรรมชาติก็สามารถส่งลูกเรียนสูง ๆ ได้เช่นกันนี่คืออีกผลผลิตหนึ่งทั้งคู่ภาคภูมิใจตลอดระยะเวลากว่า ๑๐ ปีในวิถีเกษตรแบบธรรมชาติที่เน้นการพึ่งพาปัจจัยภายในและลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกให้น้อยที่สุด ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่เพียงแต่จะสร้างความสมดุลให้คืนสู่ธรรมชาติแล้วยังนำความสุขมาสู่ครอบครัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ในอีกทางหนึ่ง

การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ภูมิหลัง
นาย ทองมา เปรียบยิ่ง เป็นบุตรชายคนโต จากพี่น้อง ๗ คน ของพ่อดิน และแม่ลุน เปรียบยิ่ง ปัจจุบันอายุ ๕๐ ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่ บ้านเลขที่ ๒๐ หมู่ที่ ๑๒ บ้านโดนเลงใต้ ต.ทมอ อ.ปราสาท จ. สุรินทร์ หลังจบการศึกษาภาคบังคับในสมัยนั้น ทองมาก็ได้ออกมาช่วยครอบครัวทำนาและใช้วิถีชีวิตชนบทมาตั้งแต่บัดนั้น จวบจนย่างเข้าวัยหนุ่ม อายุได้ ๒๒ ปี ทองมาเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็น “นายฮ้อย” ค้าควายอยู่ที่จังหวัดชลบุรี แต่ทำได้เพียง ๑ ปี ก็ย้อนกลับมาสู่วิถีชีวิตแบบเดิม พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้ สมรสกับนางประสพ เปรียบยิ่ง มีบุตรและธิดารวม ๓ คน
วิถีเกษตร
ก่อนปี ๒๕๓๔ ครอบครัวของทองมา ยังคงทำนาเชิงเดี่ยวอยู่ แต่หลังจากนั้น เมื่อมีโครงการ คสป. เข้ามารับซื้อข้าวในหมู่บ้าน ซึ่งบ้านทะมอจะมีข้าวชนิดหนึ่งซึ่งที่อื่นไม่มี คือข้าวเนื้ออ่อน และก็ได้ชักชวนชาวบ้านให้หันมาทำนาโดยเน้นการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด ใช้วัตถุดิบที่มีในธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก โดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกจำพวกปุ๋ยหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช การปฏิบัติในแนวทางนี้ นอกจากจะทำให้คุณภาพของดินดีขึ้นแล้ว ผลผลิตที่ได้ยังปลอดจากสารเคมีทุกชนิด อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ ถือเป็นการลดต้นทุนการผลิตไปในตัว เข้าสู่โครงการนำร่องฯ ปี ๒๕๔๔ ทองมาได้เข้าร่วมโครงการนำร่องฯ โดยพื้นที่ที่ทองมาอาศัยอยู่และพื้นที่ทำกินนั้น อยู่ในผืนเดียวกัน โดยแบ่งเป็นที่อยู่อาศัย ๑ งาน และพื้นที่เข้าร่วมโครงการ ๑๒ ไร่ นอกเหนือไปจากนั้น ก็มีแปลงสำหรับทำนาอินทรีย์และทำเกษตรแบบพึ่งตนเอง ๒๐ ไร่ การเข้าร่วมโครงการนำร่องฯ ทำให้มีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานของเกษตรกรตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากการทำนาธรรมชาติ นาอินทรีย์ หลายๆ คน เช่น พ่อคำเดื่อง ภาษี ปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นนักปฏิบัติแห่งยุคสมัย ที่กิ่งอำเภอแคนดง จ.บุรีรัมย์ อีกทั้งพ่อเชียง ไทยดี ปราชญ์นักวิจัยชาวบ้าน จากอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ การได้เห็น ได้สัมผัส ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์นี่เอง ทำให้ได้แนวคิดมาปรับประยุกต์ใช้กับผืนนาของตนเอง นอกเหนือจากความรู้และประสบการณ์หลากหลายที่ได้รับจากโครงการฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมแล้ว การช่วยเหลือเกื้อหนุนปัจจัยการผลิตอื่นๆ ที่ได้รับก็คือ ได้รับงบประมาณอุดหนุนสำหรับพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การทำโรงเรือนสำหรับเลี้ยงสัตว์

บ่อเลี้ยงปลา
ในพื้นที่ทำกินของนายทองมา มีบ่อน้ำจำนวน ๓ บ่อ ซึ่งเพียงพอสำหรับทำการเกษตรตลอดทั้งปี ทำให้มีผลผลิตทางการเกษตรหมุนเวียนสำหรับบริโภคในครัวเรือนตลอดทั้งปี พืชผักสวนครัว จำพวก ตะไคร้ กระเพราะ โหระพา พริก ขิง ข่า ฯลฯ และไม้ผลจำพวกมะม่วง กล้วย กะท้อน จึงมีให้ได้เก็บกินสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละฤดูกาล เหลือจากนั้นก็นำไปขายนำรายได้สู่ครอบครัวในอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังมีพืชจำพวกสมุนไพรอีกด้วยประการสำคัญคือ ทองมาสามารถประคบประหงมไม้ผลชนิดหนึ่ง ซึ่งชาวสุรินทร์โดยทั่วไปมีความเชื่อว่า ไม่มีทางปลูกได้ นั่นคือ “เงาะโรงเรียน”

เงาะโรงเรียน
นายทองมาและครอบครัวสามารถเก็บผลผลิตบริโภคร่วม ๓ ปีแล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ ที่ทะลายกำแพงความเชื่อของคนทั่วไปได้ โดยการปฏิบัติและเอาใจใส่ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากพื้นที่ของทองมาปลูกเงาะได้ พื้นที่อื่นๆ ในจังหวัดสุรินทร์ก็น่าจะปลูกเงาะได้เช่นเดียวกัน หากเกษตรกรมีความเอาใจใส่อย่างจริงๆ จังๆ
ถ่ายทอดภูมิปัญญา
จากองค์ความรู้และประสบการณ์ทั้งหลายที่มีทองมามีอยู่นั้น ก็ไม่ได้เก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว ยังถ่ายทอดสู่เพื่อนเกษตรกรทั้งในและนอกกลุ่มของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านการปรับปรุงบำรุงดิน การวิเคราะห์สภาพพื้นดินว่าเหมาะสมกับการปลูกพืชชนิดไหน ถือได้ว่าทองมาเป็นนักวิจัยชาวบ้านอีกคนหนึ่งที่กำลังมีผลงานเป็นที่ยอมรับ
ความภูมิใจของครอบครัว
ถึงแม้ว่าทองมาและภรรยาจะจบการศึกษาเพียงขั้นพื้นฐาน และประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาตลอดชีวิต แต่สิ่งหนึ่งซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ครอบครัวของทั้งคู่ นั่นก็คือ ลูกๆ แต่ละคนไม่สร้างความผิดหวังให้กับตนธิดาคนโต ปัจจุบันรับราชการครู ส่วนบุตรชายคนที่ ๒ กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในสายงานด้านเกษตรกรรม อยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนบุตรีคนสุดท้องก็กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยม

พืชผักสวนครัว
การทำเกษตรธรรมชาติ ก็สามารถส่งลูกเรียนสูงๆ ได้เช่นกัน นี่คืออีกผลผลิตหนึ่งทั้งคู่ภาคภูมิใจตลอดระยะเวลากว่า ๑๐ ปี ในวิถีเกษตรแบบธรรมชาติ ที่เน้นการพึ่งพาปัจจัยภายในและลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกให้น้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่เพียงแต่จะสร้างความสมดุลให้คืนสู่ธรรมชาติแล้ว ยังนำความสุขมาสู่ครอบครัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ในอีกทางหนึ่ง

การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ภูมิหลัง
นายทองมาเปรียบยิ่งเป็นบุตรชายคนโตจากพี่น้อง๗คนของพ่อดินและแม่ลุนเปรียบยิ่งปัจจุบันอายุ๕๐ . ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่๒๐หมู่ที่๑๒บ้านโดนเลงใต้ต . ทมอ Admiral ปราสาท . . . .สุรินทร์หลังจบการศึกษาภาคบังคับในสมัยนั้นทองมาก็ได้ออกมาช่วยครอบครัวทำนาและใช้วิถีชีวิตชนบทมาตั้งแต่บัดนั้นจวบจนย่างเข้าวัยหนุ่มอายุได้๒๒ทองมาเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็น " นายฮ้อย " .แต่ทำได้เพียง๑ . ก็ย้อนกลับมาสู่วิถีชีวิตแบบเดิมพ .ศ . ๒๕๓๖ได้สมรสกับนางประสพเปรียบยิ่งมีบุตรและธิดารวมกันคน

The once solid Democratic วิถีเกษตร๒๕๓๔ครอบครัวของทองมายังคงทำนาเชิงเดี่ยวอยู่แต่หลังจากนั้นเมื่อมีโครงการคสป .เข้ามารับซื้อข้าวในหมู่บ้านซึ่งบ้านทะมอจะมีข้าวชนิดหนึ่งซึ่งที่อื่นไม่มีคือข้าวเนื้ออ่อนและก็ได้ชักชวนชาวบ้านให้หันมาทำนาโดยเน้นการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุดใช้วัตถุดิบที่มีในธรรมชาติเช่นปุ๋ยคอกโดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกจำพวกปุ๋ยหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืชการปฏิบัติในแนวทางนี้นอกจากจะทำให้คุณภาพของดินดีขึ้นแล้วผลผลิตที่ได้ยังปลอดจากสารเคมีทุกชนิดอีกประการหนึ่งที่สำคัญคือเข้าสู่โครงการนำร่องฯ . ๒๕๔๔ทองมาได้เข้าร่วมโครงการนำร่องฯโดยพื้นที่ที่ทองมาอาศัยอยู่และพื้นที่ทำกินนั้นอยู่ในผืนเดียวกันโดยแบ่งเป็นที่อยู่อาศัย๑งานและพื้นที่เข้าร่วมโครงการ๑๒ไร่ก็มีแปลงสำหรับทำนาอินทรีย์และทำเกษตรแบบพึ่งตนเอง๒๐ไร่การเข้าร่วมโครงการนำร่องฯทำให้มีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานของเกษตรกรตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากการทำนาธรรมชาตินาอินทรีย์หลายๆคนเช่นพ่อคำเดื่องปราชญ์ชาวบ้านซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นนักปฏิบัติแห่งยุคสมัยที่กิ่งอำเภอแคนดง . . . .บุรีรัมย์อีกทั้งพ่อเชียงไทยดีปราชญ์นักวิจัยชาวบ้านจากอำเภอศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์การได้เห็นได้สัมผัสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์นี่เองทำให้ได้แนวคิดมาปรับประยุกต์ใช้กับผืนนาของตนเองทั้งทางตรงและทางอ้อมแล้วการช่วยเหลือเกื้อหนุนปัจจัยการผลิตอื่นๆที่ได้รับก็คือได้รับงบประมาณอุดหนุนสำหรับพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรการทำโรงเรือนสำหรับเลี้ยงสัตว์


บ่อเลี้ยงปลาในพื้นที่ทำกินของนายทองมามีบ่อน้ำจำนวนกันบ่อซึ่งเพียงพอสำหรับทำการเกษตรตลอดทั้งปีทำให้มีผลผลิตทางการเกษตรหมุนเวียนสำหรับบริโภคในครัวเรือนตลอดทั้งปีพืชผักสวนครัวจำพวกตะไคร้กระเพราะโหระพาพริกขิงฯลฯและไม้ผลจำพวกมะม่วงกล้วยกะท้อนจึงมีให้ได้เก็บกินสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละฤดูกาลเหลือจากนั้นก็นำไปขายนำรายได้สู่ครอบครัวในอีกทางหนึ่งนอกจากนี้แล้วยังมีพืชจำพวกสมุนไพรอีกด้วยประการสำคัญคือซึ่งชาวสุรินทร์โดยทั่วไปมีความเชื่อว่าไม่มีทางปลูกได้นั่นคือ " เงาะโรงเรียน "


เงาะโรงเรียนนายทองมาและครอบครัวสามารถเก็บผลผลิตบริโภคร่วมปีแล้วนี่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ที่ทะลายกำแพงความเชื่อของคนทั่วไปได้โดยการปฏิบัติและเอาใจใส่ซึ่งนั่นก็หมายความว่ากันพื้นที่อื่นๆในจังหวัดสุรินทร์ก็น่าจะปลูกเงาะได้เช่นเดียวกันหากเกษตรกรมีความเอาใจใส่อย่างจริงๆจังๆ
ถ่ายทอดภูมิปัญญา
จากองค์ความรู้และประสบการณ์ทั้งหลายที่มีทองมามีอยู่นั้นก็ไม่ได้เก็บไว้แต่เพียงผู้เดียวยังถ่ายทอดสู่เพื่อนเกษตรกรทั้งในและนอกกลุ่มของตนเองไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านการปรับปรุงบำรุงดินถือได้ว่าทองมาเป็นนักวิจัยชาวบ้านอีกคนหนึ่งที่กำลังมีผลงานเป็นที่ยอมรับ
ความภูมิใจของครอบครัว
ถึงแม้ว่าทองมาและภรรยาจะจบการศึกษาเพียงขั้นพื้นฐานและประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาตลอดชีวิตแต่สิ่งหนึ่งซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ครอบครัวของทั้งคู่นั่นก็คือลูกๆปัจจุบันรับราชการครูส่วนบุตรชายคนที่๒กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในสายงานด้านเกษตรกรรมส่วนบุตรีคนสุดท้องก็กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยม
อยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ Thanawat Thongtan

พืชผักสวนครัวการทำเกษตรธรรมชาติก็สามารถส่งลูกเรียนสูงๆได้เช่นกันนี่คืออีกผลผลิตหนึ่งทั้งคู่ภาคภูมิใจตลอดระยะเวลากว่า๑๐ในวิถีเกษตรแบบธรรมชาติที่เน้นการพึ่งพาปัจจัยภายในและลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกให้น้อยที่สุด .ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่เพียงแต่จะสร้างความสมดุลให้คืนสู่ธรรมชาติแล้วยังนำความสุขมาสู่ครอบครัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ในอีกทางหนึ่ง

การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: