The era of using oils (such as oliv

The era of using oils (such as olive, sesame, nut fish, whale,
and beeswax) for lighting was transformed into gas lighting
at the end of 18th century. Initially streets used to get light
from the hanging of door lamps facing the street. The idea
of public street lighting was initiated after the discovery of
flammable gas fromcoal byWilliamMurdoch, who first used
it to light his house in 1792. This was further strengthened
by Frederick Albert Winsor, who got first patent in coal gas
lighting in 1804 [17]. In 1799, a French engineer and chemist,
Philippe Lebon patented his “thermolamp” which burned a
distilled gas from wood [18]. This was the cornerstone for
technological development of gasification and application of
its products for lighting.This technology was later expanded
to elsewhere to theWestminster Bridge (London) in 1813 and
the city of Baltimore, MD, in the USA in 1816. It was further
spread into major industries for lighting so that productivity
could be stretched into the night shift [3].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยุคของการใช้น้ำมัน (เช่นมะกอก งา ลูกปลา ปลา วาฬและขี้) สำหรับแสงถูกเปลี่ยนเป็นก๊าซแสงสว่างเมื่อสิ้นสุดศตวรรษที่ 18 เริ่มต้นถนนที่ใช้ในการรับแสงจากแขวนโคมไฟประตูที่หันหน้าเข้าหาถนน ความคิดของโคมไฟถนนสาธารณะเป็นจุดเริ่มต้นหลังจากการค้นพบก๊าซไวไฟ fromcoal byWilliamMurdoch ที่ใช้เป็นครั้งแรกมันไฟบ้านในค.ศ. 1792 นี้มีความเข้มแข็งเพิ่มเติมโดย Winsor อัลเบิร์ตเฟรเดอริก ที่มีก่อนสิทธิบัตรในก๊าซถ่านหินแสงสว่างใน 1804 [17] ใน 1799 ฝรั่งเศสวิศวกรและนักเคมีPhilippe Lebon จดสิทธิบัตรของเขา "thermolamp" ซึ่งเขียนเป็นก๊าซที่กลั่นจากไม้ [18] นี้เป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับพัฒนาเทคโนโลยีการแปรสภาพเป็นแก๊สและประยุกต์ผลิตภัณฑ์ของแสง เทคโนโลยีนี้ได้ถูกขยายในภายหลังการอื่น theWestminster บริดจ์ (ลอนดอน) ใน 1813 และเมืองบัลติมอร์ MD ในสหรัฐอเมริกาใน 1816 ก็เพิ่มเติมกระจายผลผลิตที่เป็นอุตสาหกรรมสำคัญในแสงสว่างนั้นสามารถยืดออกเป็นกะกลางคืน [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยุคของการใช้น้ำมัน
(เช่นมะกอกงาปลาถั่ววาฬและขี้ผึ้ง) สำหรับไฟก็กลายเป็นก๊าซติดไฟในตอนท้ายของศตวรรษที่ 18
ถนนเริ่มแรกใช้ในการรับแสงจากโคมไฟแขวนประตูหันหน้าไปทางถนน
ความคิดของไฟถนนสาธารณะได้ริเริ่มขึ้นหลังจากการค้นพบของก๊าซไวไฟfromcoal byWilliamMurdoch คนแรกที่ใช้มันจะสว่างบ้านของเขาใน1792 นี้ได้รับความเข้มแข็งต่อไปโดยเฟรเดอริอัลเบิร์วินเซอร์ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรครั้งแรกในก๊าซถ่านหินแสงสว่างใน1804 [17] . ใน 1799 เป็นวิศวกรและนักเคมีชาวฝรั่งเศส, ฟิลิปป์ Lebon จดสิทธิบัตร "thermolamp" ของเขาซึ่งเผาก๊าซกลั่นจากไม้ [18] นี่คือรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีของก๊าซและการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท เทคโนโลยี lighting.This ต่อมาขยายไปยังที่อื่นๆ เพื่อ theWestminster สะพาน (ลอนดอน) 1813 และในเมืองบัลติมอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาใน1816 มันเป็นต่อการแพร่กระจายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่สำคัญสำหรับให้แสงสว่างเพื่อการผลิตที่สามารถขยายเข้าไปในกะกลางคืน [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยุคของการใช้น้ำมัน ( เช่น น้ำมันมะกอก งา ถั่ว ปลา ปลาวาฬ
และขี้ผึ้ง ) แสงก็เปลี่ยนเป็นแก๊สไฟ
ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 18 ตอนแรกใช้ถนนเพื่อรับแสงจากโคมไฟแขวน
ประตูหันหน้าไปทางถนน ความคิดของรัฐไฟถนนเริ่ม

หลังจากการค้นพบก๊าซไวไฟ fromcoal bywilliammurdoch ที่ใช้ครั้งแรก
ให้แสงที่บ้านของเขาใน 1792 .นี้คือความเข้มแข็งต่อไป
โดย อัลเบิร์ต วินเซอร์ ที่ได้สิทธิบัตรแรกในก๊าซถ่านหิน
แสงสว่างใน 1804 [ 17 ] ใน 1799 , วิศวกรฝรั่งเศสและนักเคมี
ฟิลิปป์ lebon จดสิทธิบัตรของเขา " thermolamp " ซึ่งเผา
กลั่นก๊าซจากไม้ [ 18 ] นี้เป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชันและการประยุกต์ใช้
ผลิตภัณฑ์ของแสง เทคโนโลยีนี้ ต่อมาขยาย
ไปที่อื่น thewestminster บริดจ์ ( ลอนดอน ) ใน 1813 และ
เมืองบัลติมอร์ ในสหรัฐอเมริกา ใน 1816 . มันเพิ่มเติม
กระจายเข้าไปในอุตสาหกรรมหลักสำหรับแสงเพื่อให้เพิ่มผลผลิต
สามารถขยายเข้าไปในกะกลางคืน [ 3 ]