has been called "the law of nonexis

has been called "the law of nonexistence of isolated monopoles," among others. We prefer the last of the three cited name because it reminds us of the parallelism, as well as the differences,between the electric and magnetic laws of nature.


The difference between Gauss's law for electricity and its magnetic counterpart can be elucidated in terms of field lines. Electric field lines originate from positive electric charges and terminate on nagative ones. Hence,for the electric field lines of the electric dipole shown in Fig. 5-15(a),the electric flux through a closed surface surrounding one of the charges is nonzero. In contrast, magnetic field lines always form continuous closed loops. As we saw in Section 5-2, the magnetic field lines due to currents do not begin or end at any point; this ie true for the linear conductor of Fig. 5-11 and the circular loop of Fig. 5-12, as well as for any current distribution. It is also true for a bar magnet [Fig. 5-15(b)]. Because the magnetic field lines form closed loops, the net magnetic flux through any closed surface surrounding the south pole of the magnet (or thought any other closed surface) is always zero, regardless of its shape.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีการเรียก "กฎหมายถึงการไม่มีการแยก monopoles อื่น ๆ เราต้องการสุดท้ายของชื่อที่อ้างถึงสาม เพราะมันเตือนเราของ parallelism เป็นความแตกต่าง ระหว่างไฟฟ้า และแม่เหล็กกฎของธรรมชาติความแตกต่างระหว่างกฎหมายของ Gauss ไฟฟ้าและคู่ของแม่เหล็กสามารถถูกอธิบายในแง่ของเส้นสนาม เส้นสนามไฟฟ้าจากประจุไฟฟ้าบวก และสิ้นสุดใน nagative คน ดังนั้น สำหรับเส้นสนามไฟฟ้าของไดโพลไฟฟ้าที่แสดงในรูป 5-15 (a), ฟลักซ์ไฟฟ้าที่ผ่านพื้นผิวปิดล้อมรอบค่าหนึ่งเป็นค่า ตรงกันข้าม เหล็กเส้นเสมอแบบฟอร์มต่อเนื่องลูปปิด เราเห็นในวันที่ 5-2 ส่วน เส้นสนามแม่เหล็กเนื่องจากกระแสไม่เริ่มต้น หรือสิ้นสุดที่จุดใด ๆ จริงนี้ ie นำเชิงเส้นของรูป 5-11 และห่วงวงกลมของรูป 5-12 ตลอดจนการกระจายปัจจุบันใด ๆ ก็เป็นจริงสำหรับแถบแม่เหล็ก [5-15(b) รูป] เนื่องจากแบบฟอร์มบรรทัดเหล็กปิดลูป ฟลักซ์แม่เหล็กสุทธิผ่านผิวปิดใด ๆ ที่รอบขั้วโลกใต้ของแม่เหล็ก (หรือคิดว่า พื้นผิวปิดใด ๆ) จะเป็นศูนย์ โดยไม่คำนึงถึงรูปร่างของมันเสมอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ได้รับการเรียกว่า "กฎของ nonexistence ของขั้วแยก" ท่ามกลางคนอื่น ๆ เราต้องการที่สุดท้ายของทั้งสามชื่ออ้างเพราะมันทำให้เรานึกถึงขนานเช่นเดียวกับความแตกต่างระหว่างกฎหมายไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กของธรรมชาติ


ความแตกต่างระหว่างกฎของเกาส์สำหรับการผลิตไฟฟ้าและแม่เหล็กคู่ของมันสามารถอธิบายในแง่ของเส้นสนาม เส้นสนามไฟฟ้ามาจากประจุไฟฟ้าบวกและบอกเลิกกับคน nagative ดังนั้นสำหรับเส้นสนามไฟฟ้าของขั้วไฟฟ้าที่แสดงในรูป 5-15 (ก) การไฟฟ้าไหลผ่านผิวปิดรอบหนึ่งของค่าใช้จ่ายจะไม่ใช่ศูนย์ ในทางตรงกันข้ามเส้นสนามแม่เหล็กเสมอรูปแบบลูปปิดอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่เราเห็นในมาตรา 5-2 เส้นสนามแม่เหล็กเนื่องจากกระแสไม่ได้เริ่มต้นหรือสิ้นสุดที่จุดใด ๆ ; เช่นนี้จริงสำหรับตัวนำเชิงเส้นของรูป 5-11 และห่วงวงกลมรูป 5-12 เช่นเดียวกับการจัดจำหน่ายใด ๆ ในปัจจุบัน มันยังเป็นจริงสำหรับแท่งแม่เหล็ก [รูป 5-15 (ข)] เพราะเส้นสนามแม่เหล็กในรูปแบบลูปปิดการไหลสุทธิแม่เหล็กผ่านปิดผิวใด ๆ โดยรอบขั้วโลกใต้ของแม่เหล็ก (หรือคิดปิดผิวอื่น ๆ ) เป็นศูนย์เสมอโดยไม่คำนึงถึงรูปร่างของมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ได้ถูกเรียกว่า " กฎหมายของการขาดของแยก monopoles " ในหมู่คนอื่น ๆ เราชอบ 3 ล่าสุด อ้างชื่อ เพราะมันเตือนเราของความเท่าเทียม ตลอดจนความแตกต่างระหว่างไฟฟ้าและแม่เหล็ก กฎของธรรมชาติความแตกต่างระหว่างไฟฟ้าและแม่เหล็กสำหรับเกาส์เป็นกฎหมายที่คล้ายกันสามารถอธิบายในแง่ของเส้นสนาม สนามไฟฟ้าสายมาจากประจุไฟฟ้าบวกและลบสิ้นสุดในที่ ดังนั้นสำหรับสนามไฟฟ้าของขั้วสายไฟฟ้าที่แสดงในรูปที่ 15 ( ก ) , กระแสไฟฟ้าไหลผ่านปิดพื้นผิวรอบหนึ่งของค่าใช้จ่ายที่เป็น 0 . ในทางตรงกันข้าม เส้นสนามแม่เหล็กเสมอแบบฟอร์มต่อเนื่องปิดลูป ตามที่เราเห็นในส่วน 5-2 , เส้นสนามแม่เหล็กเนื่องจากกระแสไม่เริ่มต้นหรือสิ้นสุด ณจุดใด ๆ ; เช่นนี้เป็นจริงสำหรับคอนดักเตอร์เชิงเส้นของภาพที่ 5-11 และห่วงวงกลมของภาพ ) เช่นเดียวกับการใด ๆ ในปัจจุบันการกระจาย มันยังเป็นจริงสำหรับแถบแม่เหล็ก [ 15 รูป ( b ) ] เพราะสนามแม่เหล็ก เส้นรูปปิดลูป , สุทธิฟลักซ์แม่เหล็กผ่านใด ๆปิดพื้นผิวบริเวณขั้วของแม่เหล็ก ( หรือคิดว่าพื้นผิวใด ๆปิด ๆ ) อยู่เสมอ ศูนย์ ไม่ว่ารูปร่างของมัน