Nearly any subject can be taught wi

Nearly any subject can be taught with spiral curriculum. Such curricula break down key concepts into "strands," ideas that are taught year after year, adding to the depth of knowledge each year.

For example, Everyday Mathematics, a curriculum designed with the spiral approach, organizes its lessons around six broad categories (strands) of mathematical concepts that are taught in multiple units each year. Rather than waiting until students have mastered addition, subtraction, multiplication and division, Everyday Mathematics introduces algebraic concepts as early as kindergarten, when students are taught to recognize patterns and find rules governing specific mathematical functions. The curriculum returns to these ideas frequently, adding new information each year and setting higher comprehension goals for each grade level as students gain mastery of the subject.

The idea of spiral curriculum is attributed to Jerome Bruner, who discussed it in his 1960 book, "The Process of Education." Proponents of spiral curriculum say that the approach helps students score better on tests and retain information longer than students who learn from curricula that take a massed approach

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกือบทุกเรื่องสามารถได้รับการสอน ด้วยหลักสูตรเกลียว หลักสูตรดังกล่าวแบ่งแนวคิดหลักเป็น "strands ความคิดที่จะสอนปี เพิ่มความลึกของความรู้ในแต่ละปีตัวอย่าง คณิตศาสตร์ชีวิตประจำวัน หลักสูตรการออกแบบ ด้วยวิธีการหมุนวน จัดเรียนรอบหกประเภทอย่างกว้าง ๆ (strands) ของแนวคิดทางคณิตศาสตร์ที่จะสอนในหลายหน่วยแต่ละปี แทนที่จะรอจนกว่านักเรียนที่ได้เข้าใจเพิ่ม ลบ การคูณ และการหาร คณิตศาสตร์ชีวิตประจำวันแนะนำพีชคณิตแนวคิดก่อนที่อนุบาล เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้เรื่องการจดจำรูปแบบ และค้นหากฎที่ควบคุมเฉพาะคณิตศาสตร์ หลักสูตรส่งกลับค่าการคิดเหล่านี้บ่อยครั้ง การเพิ่มข้อมูลใหม่แต่ละปี และตั้งค่าเป้าหมายระดับสูงความเข้าใจสำหรับแต่ละระดับชั้นเป็นนักเรียนเพื่อเป็นครูของเรื่องเป็นบันทึกความคิดของหลักสูตรเกลียว Bruner บุญเจอโรม ที่กล่าวถึงในหนังสือของเขา 1960 "กระบวนการศึกษา" ของหลักสูตรเกลียวสัมผัสว่า วิธีที่ช่วยนักเรียนคะแนนดีกว่าในการทดสอบ และเก็บข้อมูลนักเรียนที่เรียนรู้จากหลักสูตรที่ใช้วิธี massed นานกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกือบเรื่องใดสามารถสอนด้วยหลักสูตรเกลียว หลักสูตรดังกล่าวทำลายลงแนวคิดที่สำคัญใน "เส้น" ความคิดที่ได้รับการสอนทุกปีเพื่อเพิ่มความลึกของความรู้ในแต่ละปี. ยกตัวอย่างเช่นคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันหลักสูตรที่ออกแบบมาด้วยวิธีเกลียวจัดบทเรียนประมาณหกประเภทกว้าง ( เส้น) ของแนวความคิดทางคณิตศาสตร์ที่ได้รับการสอนในหลายหน่วยในแต่ละปี แทนที่จะรอจนกว่านักเรียนได้เข้าใจบวกลบคูณหารคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันแนะนำแนวคิดเกี่ยวกับพีชคณิตเป็นช่วงต้นของโรงเรียนอนุบาลเมื่อนักเรียนได้รับการสอนที่จะรับรู้และหารูปแบบกฎเกณฑ์ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง ผลตอบแทนที่ได้หลักสูตรความคิดเหล่านี้บ่อยครั้งเพิ่มข้อมูลใหม่ในแต่ละปีและการตั้งค่าเป้าหมายความเข้าใจที่สูงขึ้นสำหรับแต่ละระดับชั้นประถมศึกษาปีเป็นนักศึกษาจะได้รับการเรียนรู้ของเรื่อง. ความคิดของหลักสูตรเกลียวประกอบกับเจอโรมบรูเนอร์ที่กล่าวถึงมันในปี 1960 หนังสือของเขา " กระบวนการของการศึกษา. " ผู้เสนอหลักสูตรเกลียวบอกว่าวิธีการที่จะช่วยให้นักเรียนได้คะแนนที่ดีขึ้นในการทดสอบและเก็บข้อมูลนานกว่านักเรียนที่เรียนรู้จากหลักสูตรที่ใช้แนวทางมวลชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกือบเรื่องใด ๆที่สามารถสอนหลักสูตรก้นหอย หลักสูตรดังกล่าวแบ่งแนวคิดหลักเป็น " เส้น " ความคิดที่สอนอยู่ทุกปี เพิ่มความลึกขององค์ความรู้ในแต่ละปี

เช่น คณิตศาสตร์ทุกวัน หลักสูตรการออกแบบด้วยเกลียว วิธีการจัดบทเรียนของรอบหกประเภทกว้าง ( เส้น ) ของแนวคิดทางคณิตศาสตร์ที่สอนในหน่วยในแต่ละปี แทนที่จะรอจนกว่านักศึกษาจะเข้าใจการบวก ลบ และ คณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันแนะนำแนวคิดพีชคณิตก่อนอนุบาลเมื่อนักเรียนถูกสอนให้จำรูปแบบและหากฎระเบียบในฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง หลักสูตร กลับมาที่ความคิดเหล่านี้บ่อย การเพิ่มข้อมูลใหม่ในแต่ละปี และการกำหนดเป้าหมายในแต่ละระดับที่สูงขึ้นเป็นนักเรียนได้รับการเรียนรู้เรื่อง

ความคิดของหลักสูตร เกลียว ประกอบกับ เจโรม บรุนเนอร์ ที่กล่าวไว้ในหนังสือของเขาที่ 1960" การศึกษา " ผู้เสนอหลักสูตรเกลียวบอกว่าวิธีการที่ช่วยให้นักเรียนได้คะแนนดีในการทดสอบ และเก็บข้อมูลมากกว่านักเรียนที่เรียนหลักสูตรที่ใช้สอน
massed