The flame retardancy of a new compo

The flame retardancy of a new composite polyurethaneecement foams based on the innovative concept
of “Hydration-Induced Reinforcement of Polyurethane Rigid Foams”, HIRPeC, through the formation of
an organiceinorganic co-continuous morphology have been investigated. The hybrid foams were
prepared by allowing polyether polyol mixed with catalysts, surfactants and cement (up to final weight
of 60 wt%) to react with Metylen-Diphenyl-Diisocyanate without flame retardant. The composite foams
were then cured at 60
C in water for 72 h in order to hydrate the anhydrous cement particles. The
hydrated cement phases engender a co-continuous structure within the polyurethane matrix. For
comparison both neat polyurethane foams and flame retardant filled foams were also prepared. The
composite and the hybrid foams were characterized by X-ray diffraction, mechanical compressive testing
and the scanning electron microscopy, while the thermal-oxidative properties were characterized by
thermogravimetric analysis. Cone calorimeter analysis which allowed to determine the key properties of
thermal degradation, namely the heat release rate, the smoke and CO production from foam combustion.
The hybrid foams exhibit a significant improvement of mechanical properties due to the hydration of the
cement particles as compared to the un-hydrated composite foam. The results of the thermal characterization
showed that the presence of the amounts of inorganic cement particles, alongside with the
formation of a co-continuous morphology, produces enhancements of fire behavior and improvements in
the thermal-oxidative stability of polyurethane. The flame retardancy who essentially due to the physical
action of the inorganic phase which constitutes a barrier at the surface and opposes to the diffusion of
volatiles and oxygen.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

The flame retardancy of a new composite polyurethaneecement foams based on the innovative conceptof “Hydration-Induced Reinforcement of Polyurethane Rigid Foams”, HIRPeC, through the formation ofan organiceinorganic co-continuous morphology have been investigated. The hybrid foams wereprepared by allowing polyether polyol mixed with catalysts, surfactants and cement (up to final weightof 60 wt%) to react with Metylen-Diphenyl-Diisocyanate without flame retardant. The composite foamswere then cured at 60
C in water for 72 h in order to hydrate the anhydrous cement particles. Thehydrated cement phases engender a co-continuous structure within the polyurethane matrix. Forcomparison both neat polyurethane foams and flame retardant filled foams were also prepared. Thecomposite and the hybrid foams were characterized by X-ray diffraction, mechanical compressive testingand the scanning electron microscopy, while the thermal-oxidative properties were characterized bythermogravimetric analysis. Cone calorimeter analysis which allowed to determine the key properties ofthermal degradation, namely the heat release rate, the smoke and CO production from foam combustion.The hybrid foams exhibit a significant improvement of mechanical properties due to the hydration of thecement particles as compared to the un-hydrated composite foam. The results of the thermal characterizationshowed that the presence of the amounts of inorganic cement particles, alongside with theก่อตัวของสัณฐานวิทยาที่บริษัทอย่างต่อเนื่อง ผลิตปรับปรุงลักษณะการทำงานของไฟและการปรับปรุงในความมั่นคงความร้อน oxidative ของ polyurethane Retardancy เปลวไฟซึ่งเป็นหลักเนื่องจากจริงการดำเนินการของเฟสอนินทรีย์ซึ่งถือเป็นอุปสรรคที่พื้นผิว และการแพร่ของ opposesvolatiles และออกซิเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

retardancy เปลวไฟของโฟม polyurethaneecement
คอมโพสิตใหม่บนพื้นฐานของแนวคิดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ"ไฮเดรเสริมแรงเหนี่ยวนำของยูรีเทนโฟมแข็ง" HIRPeC
ผ่านการก่อตัวของสัณฐานร่วมอย่างต่อเนื่องorganiceinorganic ได้รับการตรวจสอบ โฟมไฮบริดได้รับการจัดทำขึ้นโดยการอนุญาตให้โพลิออล polyether ผสมกับตัวเร่งปฏิกิริยาลดแรงตึงผิวและปูนซีเมนต์ (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักสุดท้าย 60% โดยน้ำหนัก) เพื่อทำปฏิกิริยากับ Metylen-Diphenyl-diisocyanate โดยไม่ต้องสารหน่วงไฟ โฟมคอมโพสิตหายแล้วที่ 60 องศาเซลเซียสในน้ำเป็นเวลา 72 ชั่วโมงเพื่อให้ความชุ่มชื้นอนุภาคซีเมนต์ปราศจาก ขั้นตอนซีเมนต์ไฮเดรททำให้เกิดโครงสร้างร่วมอย่างต่อเนื่องภายในเมทริกซ์ยูรีเทน สำหรับการเปรียบเทียบทั้งโฟมยูรีเทนโฟมเรียบร้อยและเต็มไปด้วยสารหน่วงไฟนอกจากนี้ยังได้จัดทำ คอมโพสิตและโฟมไฮบริดโดดเด่นด้วย X-ray diffraction ทดสอบอัดกลและกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนในขณะที่สมบัติทางความร้อนออกซิเดชันโดดเด่นด้วยการวิเคราะห์สมบัติทางความร้อน กรวยวิเคราะห์ความร้อนที่ได้รับอนุญาตในการกำหนดคุณสมบัติที่สำคัญของการย่อยสลายความร้อนคืออัตราการปล่อยความร้อนควันและการผลิต CO จากการเผาไหม้โฟม. โฟมไฮบริดจัดแสดงการปรับปรุงที่สำคัญของคุณสมบัติทางกลเนื่องจากความชุ่มชื้นของอนุภาคปูนซีเมนต์เมื่อเทียบกับโฟมคอมโพสิตยกเลิกไฮเดรท ผลที่ได้จากลักษณะความร้อนแสดงให้เห็นว่าการปรากฏตัวของจำนวนเงินของอนุภาคซีเมนต์นินทรีย์ใกล้กับการก่อตัวของลักษณะทางสัณฐานวิทยาร่วมอย่างต่อเนื่องก่อให้เกิดการปรับปรุงพฤติกรรมของไฟไหม้และการปรับปรุงในเสถียรภาพความร้อนออกซิเดชันของยูรีเทน retardancy เปลวไฟที่เป็นหลักเนื่องจากการทางกายภาพการกระทำของเฟสนินทรีย์ซึ่งถือเป็นอุปสรรคที่พื้นผิวและต่อต้านการแพร่กระจายของสารระเหยและออกซิเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตกแต่งหน่วงไฟใหม่ polyurethaneecement คอมโพสิตโฟมตามแนวคิดนวัตกรรม
" เดรและการเสริมแรงของยูรีเทนโฟมแข็ง " hirpec ผ่านการก่อตัวของ
เป็น organiceinorganic Co อย่างต่อเนื่องโครงสร้างได้รับการสอบสวน โฟมผสมเตรียมไว้ โดยให้มี
polyether โพลีออลผสมกับตัวเร่งปฏิกิริยาโดยปูนซีเมนต์ ( ขึ้นอยู่กับน้ำหนักสุดท้าย
60 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ) เพื่อตอบสนองกับ metylen อีเธอร์เนตโดยไม่หน่วง .
โฟมผสมแล้วหายใน 60
C ในน้ำนาน 72 ชั่วโมงในการไฮเดรตอนุภาคซีเมนต์ anhydrous
hydrated ขั้นตอนปูนซีเมนต์บังเกิด Co อย่างต่อเนื่องโครงสร้างภายใน ยูรีเทน เมทริกซ์ สำหรับการเปรียบเทียบทั้งเรียบร้อยและยูรีเทนโฟม
หน่วงเต็มโฟมถูกจัดเตรียมไว้
คอมโพสิตและโฟมไฮบริดถูก characterized โดยเทคนิคการเลี้ยวเบนรังสีเอ็กซ์
การทดสอบแรงอัดเครื่องกลและกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด ในขณะที่ความร้อนออกซิเดชันสมบัติลักษณะ
การวิเคราะห์เทอร์โมกราวิเมตริก . กรวยวัดความร้อนการวิเคราะห์ซึ่งอนุญาตให้กำหนดคุณสมบัติที่สำคัญของ
สลายความร้อน คือ ความร้อนรุ่นอัตรา