At the onset of this investigation, it was hypothesized that not all first-and
second-year students would experience the engineering environment in the
same way. This hypothesis was based on previous work establishing that
students report different perceptions of their learning environments (Felder,
Felder, Mauney, Hamrin, & Dietz, 1995; Margolis & Fisher, 2002; Marton, 1994;
Seymour & Hewitt, 1997). Phenomenography was therefore selected as a
guiding theoretical framework, positioning the study to investigate the
qualitatively different ways students perceive the engineering environment and
the interrelated nature of students’ perceptions.
ที่เริ่มมีอาการของการสืบสวนคดีนี้ได้มีการตั้งสมมติฐานว่าไม่ทุกครั้งแรกและ
นักเรียนปีที่สองจะได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมทางวิศวกรรมใน
ทางเดียวกัน สมมติฐานนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานก่อนสร้างที่
นักเรียนรับรู้ที่แตกต่างกันรายงานของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ของพวกเขา (Felder,
Felder, Mauney, Hamrin & Dietz, 1995; มาร์กอลิแอนด์ฟิชเชอร์, 2002; ตัน, 1994;
มัวร์และเฮวิตต์, 1997) Phenomenography ดังนั้นจึงเลือกให้เป็น
กรอบทฤษฎีชี้นำการวางตำแหน่งการศึกษาเพื่อตรวจสอบ
วิธีที่แตกต่างในเชิงคุณภาพนักเรียนรับรู้สภาพแวดล้อมทางวิศวกรรมและ
ลักษณะความสัมพันธ์ของการรับรู้ของนักเรียน
การแปล กรุณารอสักครู่..

ที่เริ่มมีอาการของการสอบสวนนี้มีสมมติฐานว่า นักศึกษาชั้นปีที่ 1 และไม่ทั้งหมดจะสัมผัส
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมในวิธีเดียวกัน สมมติฐานนี้ได้จากก่อนหน้างานสร้างรายงาน
นักศึกษาที่แตกต่างกันของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ ( เฟลเฟลเดอร์แฮมริน mauney
, , , , &เดียต , 1995 ; Margolis &ฟิชเชอร์ , 2002 ; มาร์ตัน , 1994 ;
ซีมัวร์& Hewitt ,1997 ) phenomenography จึงเลือกเป็น
ชี้นำกรอบทฤษฎี การยืนตำแหน่ง การศึกษาเพื่อหา
แตกต่างกันในเชิงคุณภาพนักเรียนด้วยวิธีการรับรู้ทางวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติของการรับรู้
คาบของนักเรียน
การแปล กรุณารอสักครู่..
