The auditor can use ACL’s Stratify

The auditor can use ACL’s Stratify and Classify features to identify various characteristics
and anomalies associated with accounts payable procedures. Both of these
functions are used to group data into predetermined intervals, count the number of
records that fall into each interval, and accumulate a financial value for each interval.
The stratify function groups financial data into specific strata. Using data similar to
those in Table 10.2, we demonstrate its use for stratifying disbursement vouchers by
accumulating the Amount field for each strata. The classify function forms strata based
on nonfinancial (and nonnumeric) data. In our example, this feature is used to group
the vouchers by vendor number. In this case also, the Amount field is accumulated.
The results of the two procedures are presented in Figure 10.10 and Figure 10.11,
respectively.
The first report gives the auditor an overall perspective for the nature of the purchasing
process. Notice that 91 percent of the total number of disbursement vouchers
constitutes only 15 percent of the business volume for the period. The second report
shows the business activity associated with individual vendors. Over 40 percent of the
organization’s purchases are from a single vendor, while most of the other vendors receive
only a small percentage of the total business. These findings may reflect a natural
business phenomenon, or they may signify potential risks.
Excessive purchases from a single supplier may reflect an unusual business dependency
that may prove harmful to the firm if the supplier raises prices or cannot deliver
on schedule. This situation may also signify a fraudulent relationship involving kickbacks
to purchasing agents or other management.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้ตรวจสอบสามารถใช้ Stratify ของ ACL และจัดประเภทคุณสมบัติเพื่อระบุลักษณะต่าง ๆและความผิดเกี่ยวข้องกับกระบวนการชำระบัญชี ทั้งนี้ฟังก์ชันที่ใช้ในการจัดกลุ่มข้อมูลเป็นช่วงเวลาที่กำหนดไว้ นับจำนวนระเบียนที่อยู่ในแต่ละช่วง และสะสมค่าทางการเงินสำหรับแต่ละช่วงฟังก์ชัน stratify กลุ่มข้อมูลทางการเงินในชั้นหนึ่ง ๆ ใช้กับข้อมูลเหล่านั้นในตาราง 10.2 เราแสดงให้เห็นถึงการใช้สำหรับใบสำคัญการจ่ายเงินให้แก่โดย stratifyingสะสมยอดเงินสำหรับแต่ละชั้น ชั้นตามรูปแบบฟังก์ชัน classifyข้อมูล nonfinancial (และตัว) ในตัวอย่างของเรา คุณลักษณะนี้ใช้กับกลุ่มใบสำคัญตามหมายเลขผู้จัดจำหน่าย ในกรณีนี้ ยัง เงินสะสมผลลัพธ์ของขั้นตอนที่สองจะนำเสนอในรูป 10.10 10.11 รูปตามลำดับรายงานครั้งแรกให้ผู้ตรวจสอบการมองภาพรวมในลักษณะของการซื้อกระบวนการ พบว่า ร้อยละ 91 ของจำนวนการจ่ายเงินให้แก่ใบสำคัญถือเพียงร้อยละ 15 ของปริมาณธุรกิจในรอบระยะเวลา รายงานฉบับที่สองแสดงกิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแต่ละผู้ขาย กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของการซื้อขององค์กรได้จากผู้ขายรายเดียว ในขณะที่ส่วนใหญ่ของผู้ที่ได้รับเพียงเล็กน้อยของธุรกิจทั้งหมด ผลการวิจัยเหล่านี้อาจสะท้อนถึงธรรมชาติปรากฏการณ์ของธุรกิจ หรือพวกเขาอาจมีความเสี่ยงหมายซื้อเกินจากซัพพลายเออร์เดียวอาจสะท้อนการพึ่งพาธุรกิจปกติที่อาจพิสูจน์อันตรายต่อบริษัทผู้ผลิตปรับขึ้นราคา หรือไม่ส่งในกำหนดการ สถานการณ์นี้อาจยังมีความหมายสัมพันธ์หลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับ kickbacksตัวแทนจัดซื้อหรือบริหารอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้สอบบัญชีสามารถใช้ Stratify ของ ACL
และคุณสมบัติที่จะจำแนกระบุลักษณะต่างๆและความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการบัญชีเจ้าหนี้ ทั้งสองคนนี้ฟังก์ชั่นที่ใช้ในการจัดกลุ่มข้อมูลลงในช่วงเวลาที่กำหนดไว้นับจำนวนของระเบียนที่ตกอยู่ในแต่ละช่วงเวลาและสะสมมูลค่าทางการเงินสำหรับช่วงเวลาแต่ละ. กลุ่มฟังก์ชั่นการแบ่งเป็นชั้นข้อมูลทางการเงินลงในชั้นที่เฉพาะเจาะจง โดยใช้ข้อมูลที่คล้ายกับผู้ที่อยู่ในตารางที่ 10.2 เราแสดงให้เห็นถึงการใช้งานสำหรับ stratifying บัตรกำนัลการเบิกจ่ายโดยสะสมฟิลด์ยอดเงินสำหรับแต่ละชั้น รูปแบบฟังก์ชั่นชั้นจำแนกตามใน nonfinancial (และไม่ใช่ตัวเลข) ข้อมูล ในตัวอย่างของเราคุณลักษณะนี้จะใช้กับกลุ่มบัตรกำนัลจากจำนวนผู้ขาย ในกรณีนี้ยังฟิลด์ยอดเงินสะสม. ผลของทั้งสองขั้นตอนจะถูกนำเสนอในรูปที่ 10.10 และรูปที่ 10.11, ตามลำดับ. รายงานครั้งแรกที่ช่วยให้ผู้สอบบัญชีของมุมมองโดยรวมของลักษณะของการจัดซื้อที่กระบวนการ ขอให้สังเกตว่าร้อยละ 91 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของบัตรกำนัลการเบิกจ่ายถือว่ามีเพียงร้อยละ15 ของปริมาณธุรกิจสำหรับรอบระยะเวลา รายงานที่สองแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้ขายของแต่ละบุคคล กว่าร้อยละ 40 ของการซื้อสินค้าขององค์กรจากผู้ผลิตเดียวในขณะที่ส่วนใหญ่ของผู้ผลิตรายอื่นได้รับเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจโดยรวม การค้นพบนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติปรากฏการณ์ทางธุรกิจหรือพวกเขาอาจหมายถึงความเสี่ยง. การซื้อมากเกินไปจากผู้ผลิตเดียวอาจสะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาธุรกิจที่ผิดปกติที่อาจพิสูจน์ที่เป็นอันตรายให้กับ บริษัท ผู้จัดจำหน่ายถ้าจะเพิ่มราคาหรือไม่สามารถส่งมอบตามกำหนดเวลา สถานการณ์เช่นนี้ยังอาจหมายถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงสินบนให้กับตัวแทนการจัดซื้อหรือการจัดการอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้สอบบัญชีสามารถใช้ ACL จะแบ่งเป็นชั้นๆ และจำแนกคุณลักษณะที่ระบุลักษณะและความผิดปกติต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอน
บัญชีเจ้าหนี้ ทั้งฟังก์ชันเหล่านี้
ใช้กลุ่มข้อมูลในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้านับจํานวน
ประวัติที่ตกอยู่ในแต่ละช่วง และสะสมมูลค่าทางการเงินในแต่ละช่วง .
การแบ่งเป็นชั้นๆ ฟังก์ชันกลุ่มการเงินข้อมูลลงเฉพาะชั้น การใช้ข้อมูลในตารางที่ 10.2 เหมือนกัน

เราแสดงให้เห็นถึงการใช้งานสำหรับ stratifying คูปองสะสมยอดเบิกจ่ายโดย
สนามสำหรับแต่ละชั้น การแบ่งชั้นตามรูปแบบการทำงานใน nonfinancial
( และ nonnumeric ) ข้อมูล ในตัวอย่างของเราคุณลักษณะนี้จะถูกใช้ในกลุ่ม
ใบจำนวนผู้ขาย ในคดีนี้ด้วยจํานวนสาขาสะสมอยู่
ผลสองขั้นตอนแสดงในรูปที่ 10.10 และรูปที่ 10.11

, ตามลำดับ รายงานแรกให้ผู้สอบบัญชีมุมมองโดยรวมของธรรมชาติของกระบวนการซื้อ

สังเกตได้ว่า 91 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนการถือบัตร
เพียง 15 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณธุรกิจสำหรับระยะเวลา
รายงานสองแสดงกิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้ขายแต่ละราย มากกว่าร้อยละ 40 ของการซื้อ
องค์กรจากผู้ขายเดี่ยว ในขณะที่ส่วนใหญ่ของผู้ผลิตอื่น ๆได้รับ
เพียงเล็กเปอร์เซ็นต์ของธุรกิจทั้งหมด การค้นพบนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
หรือพวกเขาอาจแสดงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น .
การซื้อจากซัพพลายเออร์เดียวอาจสะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาธุรกิจที่ผิดปกติ
ที่อาจพิสูจน์อันตรายต่อบริษัท ถ้าซัพพลายเออร์เพิ่มราคา หรือ ไม่สามารถส่งมอบ
ตามกำหนด สถานการณ์นี้อาจหมายถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงิน
ซื้อตัวแทน หรือการบริหารจัดการอื่นๆ