One student argued that he didn’t w

One student argued that he didn’t want companies to know what he ate for breakfast, what television shows he watched, magazines he read, Or Web sites he visited. Another student said she wanted companies to know the information if it meant she got better products and services as a result. What information about you is okay for salespeople to put in their database? What information would you like to keep private? As a sales manager how do you manage this private-public balance?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเรียนหนึ่งโต้เถียงว่า เขาไม่ต้องการรู้ว่าสิ่งที่เขากินอาหารเช้า อะไรเขาดูโทรทัศน์ อ่านนิตยสาร หรือเว็บไซต์ที่เขาชม นักศึกษาอีกคนกล่าวว่า เธออยากให้ทราบข้อมูลว่ามันความหมาย เธอได้ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นเป็นผลให้บริษัท ข้อมูลเกี่ยวกับคุณเป็นไรสำหรับพนักงานขายใส่ในฐานข้อมูลของพวกเขา คุณต้องการเก็บส่วนตัวข้อมูล เป็นผู้จัดการฝ่ายขาย คุณจัดการสมดุลส่วนสาธารณะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักศึกษาคนหนึ่งแย้งว่าเขาไม่ต้องการให้ บริษัท ที่จะรู้ว่าสิ่งที่เขากินอาหารเช้าสำหรับสิ่งที่รายการโทรทัศน์ที่เขาเฝ้ามองนิตยสารเขาอ่านหรือเว็บไซต์ที่เขาไปเยือน นักเรียนอีกคนหนึ่งกล่าวว่าเธอต้องการให้ บริษัท ที่จะทราบข้อมูลถ้ามันหมายถึงเธอได้รับสินค้าและบริการที่ดีขึ้นเป็นผล ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับคุณโอเคสำหรับพนักงานขายที่จะใส่ในฐานข้อมูลของพวกเขา? ข้อมูลอะไรที่คุณต้องการที่จะเก็บไว้เป็นส่วนตัว? ในฐานะที่เป็นผู้จัดการฝ่ายขายคุณจะจัดการสมดุลเอกชนประชาชน?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเรียนคนหนึ่งแย้งว่า เขาไม่ได้ต้องการให้ บริษัท ที่จะรู้ว่าเค้ากินเป็นอาหารเช้า แล้วเขาดูรายการโทรทัศน์ นิตยสารที่เขาอ่าน หรือเว็บไซต์ที่ท่านเข้าเยี่ยมชม นักศึกษาคนหนึ่งบอกว่า ต้องการให้ บริษัท ทราบข้อมูลว่ามันหมายถึงเธอต้องดีกว่าผลิตภัณฑ์และบริการผล ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับคุณดีสำหรับพนักงานขายที่จะใส่ในฐานข้อมูลของพวกเขา ข้อมูลอะไรที่คุณต้องการจะเก็บไว้ส่วนตัว เป็นผู้จัดการการขายแล้วคุณจัดการสมดุลสาธารณะส่วนตัว