งาขาวเป็นธัญพืชที่นิยมนำมาบริโภคกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากมีประโยชน์และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งในงานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบองค์ประกอบทางเคมี ได้แก่ ปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรตของงาขาวใน 8 ระยะเวลาคือ งาขาวที่ไม่ได้ผ่านการเพาะและงานขาวงอก 0, 6, 12, 18, 24, 48, 72 ชั่วโมงตามลำดับที่ผ่านกระบวนการทำให้แห้งและบดเป็นผง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของงาขาวงอก ซึ่งพบว่า งาขาวงอกที่ไม่ได้ผ่านการเพาะ มีปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 5.01, 6.32, 50.17, 2.95, 3.09 และ 32.48 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับ งาขาวงอกในระยะเวลา 0 ชั่วโมง มีปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 5.36, 6.36, 50.61, 3.01, 3.21 และ 32.12 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับ งาขาวงอกในระยะเวลา 6 ชั่วโมง มีปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 5.66, 6.55, 50.05, 3.04, 3.35 และ 31.36 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับ งาขาวงอกในระยะเวลา 12 ชั่วโมง มีปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 6.01, 7.12, 49.62, 3.24, 3.43 และ 30.58 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับ งาขาวงอกในระยะเวลา 18 ชั่วโมง มีปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 6.67, 7.19, 49.31, 3.68, 4.11 และ 29.00 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับ งาขาวงอกในระยะเวลา 24 ชั่วโมง มีปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 6.93, 7.80, 48.87, 4.05, 4.23 และ 28.20 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับ งาขาวงอกในระยะเวลา 48 ชั่วโมง มีปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 7.63, 8.63, 45.50, 4.39, 4.59 และ 29.27 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับ และงาขาวงอกในระยะเวลา 72 ชั่วโมง มีปริมาณความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้าและคาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 8.73, 9.20, 23.38, 4.60, 4.89 และ 32.48 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับ จากผลการศึกษาทำให้ทราบว่า ช่วงระยะเวลาการงอกของงาขาวที่แตกต่างกันมีผลต่อองค์ประกอบทางเคมีของงาขาวงอก ดังนั้นงาขาวงอกจัดเป็นแหล่งอาหารจากธรรมชาติที่สำคัญอย่างหนึ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
งาขาวเป็นธัญพืชที่นิยมนำมาบริโภคกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเนื่องจากมีประโยชน์และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการซึ่งในงานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบองค์ประกอบทางเคมีได้แก่ปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตของงาขาวใน 8 ระยะเวลาคืองาขาวที่ไม่ได้ผ่านการเพาะและงานขาวงอก 0, 6, 12, 18, 24, 48, 72 ชั่วโมงตามลำดับที่ผ่านกระบวนการทำให้แห้งและบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของงาขาวงอกซึ่งพบว่างาขาวงอกที่ไม่ได้ผ่านการเพาะมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 5.01, 6.32, 50.17 2.95, 3.09 และ 32.48 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 0 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 5.36, 6.36, 50.61, 3.01 และ 32.12 3.21 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 6 มีปริมาณความชื้นชั่วโมงโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 5.66, 6.55, 50.05, 3.04, 3.35 และ 31.36 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 12 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.01, 7.12, 49.62, 3.24 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำและ 30.58 3.43ดับงาขาวงอกในระยะเวลา 18 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.67, 7.19, 49.31, 3.68, 4.11 และ 29.00 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 24 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.93 7.80, 48.87, 4.05, 4.23 และ 28.20 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 48 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 7.63, 8.63, 45.50, 4.39, 4.59 และ 29.27 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับและงาขาวงอกในระยะเวลา 72 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 8.73, 9.20, 23.38, 4.60, 4.89 และ 32.48 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับจากผลการศึกษาทำให้ทราบว่าช่วงระยะเวลาการงอกของงาขาวที่แตกต่างกันมีผลต่อองค์ประกอบทางเคมีของงาขาวงอกดังนั้นงาขาวงอกจัดเป็นแหล่งอาหารจากธรรมชาติที่สำคัญอย่างหนึ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
การแปล กรุณารอสักครู่..

ได้แก่ ปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตของงาขาวใน 8 ระยะเวลาคือ 0, 6, 12, 18, 24, 48, 72 ซึ่งพบว่างาขาวงอกที่ไม่ได้ผ่านการเพาะมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 5.01, 6.32, 50.17, 2.95, 3.09 และ 32.48 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 0 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้น โปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 5.36, 6.36, 50.61, 3.01, 3.21 และ 32.12 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 6 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 5.66, 6.55, 50.05, 3.04, 3.35 และ 31.36 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 12 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.01, 7.12, 49.62, 3.24, 3.43 และ 30.58 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 18 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.67, 7.19, 49.31, 3.68, 4.11 และ 29.00 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 24 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.93, 7.80 , 48.87, 4.05, 4.23 และ 28.20 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 48 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 7.63, 8.63, 45.50, 4.39, 4.59 และ 29.27 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับและ งาขาวงอกในระยะเวลา 72 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 8.73, 9.20, 23.38, 4.60, 4.89 และ 32.48 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับจากผลการศึกษาทำให้ทราบว่า
การแปล กรุณารอสักครู่..

งาขาวเป็นธัญพืชที่นิยมนำมาบริโภคกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเนื่องจากมีประโยชน์และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการซึ่งในงานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบองค์ประกอบทางเคมีได้แก่ปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเถ้าและคาร์โบไฮเดรตของงาขาวใน 8 ระยะเวลาคืองาขาวที่ไม่ได้ผ่านการเพาะและงานขาวงอก 06 , 12 , 18 , 24 , 48 ,72 ชั่วโมงตามลำดับที่ผ่านกระบวนการทำให้แห้งและบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของงาขาวงอกซึ่งพบว่างาขาวงอกที่ไม่ได้ผ่านการเพาะมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเท่ากับ 501 50.17 6.32 , , 2.95 , 3.09 และหนเปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 0 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 5.36 6.36 50.61 3.01 , , , และ 3.21 3212 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 6 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.55 50.05 5.66 , , , 3.04 , 3.35 และ 3136 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 12 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.01 49.62 3.24 , ข้าวกล้อง , , , หลังและ 3058 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 18 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.67 7.19 49.31 , 3.68 , 4.11 , และ 2900 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 24 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 6.93 , 7.80 , 48.87 , 4.05 , - และ 2820 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับงาขาวงอกในระยะเวลา 48 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 7.63 8.63 , 45.50 หรือ 4.59 , , และ 2927 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับและงาขาวงอกในระยะเวลา 72 ชั่วโมงมีปริมาณความชื้นโปรตีนไขมันเยื่อใยเถ้าและคาร์โบไฮเดรตเท่ากับ 8.73 9.20 23.38 4.60 , , , , และ 4.89 3248 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักแห้งตามลำดับจากผลการศึกษาทำให้ทราบว่าช่วงระยะเวลาการงอกของงาขาวที่แตกต่างกันมีผลต่อองค์ประกอบทางเคมีของงาขาวงอก
การแปล กรุณารอสักครู่..
