The path of the rays could be infer

The path of the rays could be inferred by the positon of the fluorescence on a square arceen in the bell jar. Thomson repeated the experiment, changing the material of the anode and the type of gas in the bell jar each time. However, he found that the deflection of the rays remained the same in each experiment. He suggested that the cathode rays had the same composition, regardless of where they came from. Thomson went on to perform three experiments that led to the discovery of the electron

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เส้นทางของรังสีสามารถสรุป โดย positon ของ fluorescence บน arceen สี่เหลี่ยมในขวดระฆัง ทอมซ้ำทดลอง การเปลี่ยนวัสดุของขั้วบวกและชนิดของก๊าซในขวดระฆังแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาพบว่า deflection ของรังสีที่อยู่เหมือนกันในแต่ละการทดลอง เขาแนะนำว่า รังสีแคโทดมีองค์ประกอบเดียว ว่าพวกเขามาจากไหน ทอมสันได้ทำการทดลองที่สามที่นำไปสู่การค้นพบอิเล็กตรอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เส้นทางของรังสีสามารถสรุปโดย positon ของการเรืองแสงในตาราง arceen ในขวดระฆัง ทอมสันซ้ำการทดลองเปลี่ยนวัสดุของขั้วบวกและประเภทของก๊าซในโถระฆังแต่ละครั้ง แต่เขาพบว่าการโก่งตัวของรังสียังคงเหมือนเดิมในการทดลองแต่ละ เขาบอกว่ารังสีแคโทดมีองค์ประกอบเดียวกันไม่ว่าที่พวกเขามาจาก ทอมสันไปในการดำเนินการสามการทดลองที่นำไปสู่​​การค้นพบของอิเล็กตรอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เส้นทางของรังสีที่สามารถจะบอกได้ โดยตำแหน่งของการเรืองแสงใน arceen สแควร์ในระฆัง จาร์ ทอมสันทำซ้ำการทดลอง การเปลี่ยนวัสดุของขั้วบวก และชนิดของแก๊สในโถระฆังแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาได้พบว่า ทิศทางของรังสียังคงเหมือนเดิมในแต่ละการทดลอง เขาชี้ให้เห็นว่ารังสีแคโทดมีองค์ประกอบเดียวกันไม่ว่าที่พวกเขามาจาก ทอมสัน ไปแสดงสามการทดลองที่นำไปสู่การค้นพบอิเล็กตรอน