From 2003-2008, in nearly all finan

From 2003-2008, in nearly all financial metrics of interest
to investors, the company grew measurably. Satyam
generated USD $467 million in total sales. By
March 2008, the company had grown to USD $2.1 billion.
The company demonstrated “an annual compound
growth rate of 35% over that period”. Operating profits
averaged 21%. Earnings per share similarly grew, from
$0.12 to $0.62, at a compound annual growth rate of 40%.
Over the same period (2003‐2009), the company was
trading at an average trailing EBITDA multiple of 15.36.
Finally, beginning in January 2003, at a share price of
138.08 INR, Satyam’s stock would peak at 526.25
INR—a 300% improvement in share price after nearly
five years. Satyam clearly generated significant corporate

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จาก 2003-2551 ตัวชี้วัดทางการเงินเกือบทั้งหมดน่าสนใจนักลงทุน บริษัทเติบโต measurably ซัทยามสร้าง USD $467 ล้านขายรวมทั้งหมด โดย2551 มีนาคม บริษัทได้เติบโตเป็น USD $2.1 พันล้านบริษัทแสดงให้เห็น "เป็นประจำปีสารอัตราการเติบโตถึง 35% ระยะเวลาที่" การดำเนินงานเฉลี่ย 21% กำไรต่อหุ้นเติบโตมาในทำนองเดียวกัน จาก$0.12 ถึง $0.62 ที่ผสมประจำปีอัตราการเติบโต 40%ในระยะเดียวกัน (2003‐2009), บริษัทฯ เป็นการซื้อขายเฉลี่ยต่อท้าย EBITDA ของสิส 15.36ในที่สุด เริ่มต้นใน 2003 ปี ราคาหุ้น138.08 INR สต็อกของซัทยามจะ peak ที่ 526.25INR — การปรับปรุง 300% ในราคาหุ้นหลังจากเกือบห้าปี ซัทยามชัดเจนสร้างความสำคัญขององค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จาก 2003-2008, ในเกือบทุกตัวชี้วัดทางการเงินที่น่าสนใจ
ให้กับนักลงทุน บริษัท ขยายตัววัด Satyam
สร้าง 467 $ ล้านเหรียญสหรัฐจากการขายรวม โดย
เดือนมีนาคม 2008 บริษัท มีการเติบโตที่ USD $ 2100000000.
บริษัท แสดงให้เห็นถึง "สารประจำปี
อัตราการเติบโต 35% ในช่วงเวลานั้น" ผลกำไรจากการดำเนินงาน
เฉลี่ย 21% กำไรต่อหุ้นในทำนองเดียวกันขึ้นจาก
$ 0.12 ถึง $ 0.62 ในอัตราการเติบโตต่อปี 40%.
ในช่วงเวลาเดียวกัน (2003-2009) บริษัท ได้รับ
การซื้อขายที่ต่อท้าย EBITDA หลายเฉลี่ย 15.36.
สุดท้ายเริ่มต้นในมกราคม 2003 ในราคาหุ้นของ
138.08 INR หุ้น Satyam จะสูงสุดที่ 526.25
INR-การปรับปรุง 300% ในราคาหุ้นหลังจากเกือบ
ห้าปี Satyam สร้างขึ้นอย่างชัดเจนขององค์กรอย่างมีนัยสำคัญ