What Is SLOW TRAVEL?Slow travel is

What Is SLOW TRAVEL?

Slow travel is about fully immersive experiences.

It’s centred around a prolonged and in depth experience, primarily with locals, but not always.

Slow travel isn’t just skipping tourist attractions or popular destinations either. Not at all. It’s all about how we decide to enjoy them and every other activity we do.

It’s about taking the time to embrace everything around us, to enjoy even the simplest things that aren’t necessarily the most popular or the most famous.

For instance, during the four months we spent in Berlin we didn’t miss an opportunity to go hunting for new hidden pieces of street art – which isn’t difficult at all in Berlin – but we also went to see the famous East Side Gallery, where some remains of the Berlin wall are completely covered in incredibly nice and meaningful murals.

We could have just walked fast, took a selfie in front of it to show we’ve been there (like we’ve seen a lot of people do), but instead we chose to take our time to look at each piece, trying to understand the message the artist wanted to share before giving our own interpretation on it.

We easily spent hours walking along the route of the wall and surely we could have stayed even longer if wanted. The whole experience would have been even nicer if the artists themselves were there to explain what they wanted to represent, and perhaps create a discussion with them by talking about what we personally perceived from it.

Connecting with people is a very important part of what we like to call slow travel. Without any form of communication, links, and confrontation the travel experience would be sterile for us.

It would be nothing more than purely looking at beautiful places because “you MUST go see that”, without actually seeing anything at all, only to walk away without any connection.

Only by talking with people and observing what they do and how they do it can we really get to know local culture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เดินทางช้าคืออะไรเดินช้าเป็นเรื่องประสบการณ์ที่ดื่มด่ำเต็มมันเป็นศูนย์กลาง รอบตัวเป็นเวลานาน และความลึกของ ประสบการณ์ ส่วน ท้องถิ่น แต่ไม่เดินทางช้าไม่เพียงข้ามสถานที่ท่องเที่ยวหรือสถานที่ยอดนิยมอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เลย ทั้งหมดนี้คือวิธีที่เราจะเพลิดเพลินกับพวกเขาและทุกกิจกรรมที่เราทำมันเป็นเรื่องการใช้เวลาโอบกอดทุกอย่างรอบตัวเรา กับแม้ในสิ่งที่ง่ายที่สุดที่ไม่จำเป็นต้องได้รับความนิยมมากที่สุดหรือที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเช่น ในช่วงเดือนสี่ในเบอร์ลิน เราไม่พลาดโอกาสที่จะไปล่าสัตว์สำหรับชิ้นใหม่ซ่อนศิลปะถนนซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลยในเบอร์ลิน – แต่เราก็เคยไปดูมีชื่อเสียงอีสท์ไซด์แกลลอรี ที่หลงเหลืออยู่ของกำแพงเบอร์ลินสมบูรณ์ที่อยู่ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ดีอย่างเหลือเชื่อ และมีความหมายเราอาจได้เพียงแค่เดินเร็ว ถ่ายเซลฟี่หน้าเพื่อแสดงเราเคยมี (เช่นเราเคยเห็นหลายคนทำ), แต่แทนเราเลือกที่จะใช้เวลาของเราไปดูที่แต่ละชิ้น พยายามเข้าใจข้อความที่ศิลปินต้องการแบ่งปันก่อนให้ตีความของเราเองที่มันเราใช้เวลาเดินไปตามเส้นทางของผนังได้อย่างง่ายดาย และแน่นอน เราอาจเคยได้อีกต่อไปถ้าอยาก ประสบการณ์ทั้งหมดจะได้รับแม้กระทั่งข่าวศิลปินตัวเองได้มีการ อธิบายสิ่งที่พวกเขาต้องการเป็นตัวแทน และอาจจะสร้างการสนทนากับพวกเขา โดยการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เราเองรับรู้จากมันเชื่อมต่อกับผู้คนเป็นส่วนสำคัญของสิ่งที่เราชอบเรียกเดินทางช้า ไม่ มีแบบฟอร์มใด ๆ ของการสื่อสาร เชื่อมโยง และเผชิญหน้า ประสบการณ์การเดินทางจะผ่านการฆ่าเชื้อสำหรับเรามันจะเป็นอะไรมากกว่าแท้กำลังดูสถานสวยงามเนื่องจาก "คุณต้องไปดูที่" ไม่จริง เห็นอะไรเลย เท่านั้นที่จะเดินไปโดยไม่มีการเชื่อมต่อเท่านั้นโดยคุยกับคน และสังเกตว่า พวกเขาทำ และวิธีที่พวกเขาทำ เราจริง ๆ ได้รู้จักวัฒนธรรมท้องถิ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คืออะไร TRAVEL ช้า?

เดินทางช้าประสบการณ์เกี่ยวกับการดื่มด่ำอย่างเต็มที่.

มันเป็นศูนย์กลางรอบเป็นเวลานานและประสบการณ์ในเชิงลึกส่วนใหญ่กับชาวบ้าน แต่ไม่เสมอไป.

เดินทางช้าไม่ได้เป็นเพียงข้ามสถานที่ท่องเที่ยวหรือแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เลย. มันเป็นเรื่องของวิธีการที่เราตัดสินใจที่จะสนุกกับพวกเขาและทุกกิจกรรมอื่น ๆ ที่เราทำ.

มันเป็นเรื่องของการสละเวลาที่จะโอบกอดทุกอย่างรอบตัวเราเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ง่ายที่สุดที่ไม่จำเป็นต้องได้รับความนิยมมากที่สุดหรือที่มีชื่อเสียงที่สุด.

ยกตัวอย่างเช่นในช่วง สี่เดือนเราใช้เวลาในกรุงเบอร์ลินเราไม่พลาดโอกาสที่จะไปล่าสัตว์สำหรับชิ้นที่ซ่อนอยู่ใหม่ของถนนศิลปะ - การซึ่งไม่ยากเลยในเบอร์ลิน - แต่เรายังไปดูที่มีชื่อเสียงทางด้านตะวันออกแกลลอรี่ที่บางส่วนยังคงอยู่ ของกำแพงเบอร์ลินได้รับความคุ้มครองอย่างสมบูรณ์ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อและมีความหมาย.

เราจะได้เพียงแค่เดินอย่างรวดเร็วเอาเซลฟีในด้านหน้าของมันที่จะแสดงที่เราเคยมี (เหมือนอย่างที่เราได้เห็นผู้คนจำนวนมากทำ) แต่แทนที่จะ เราเลือกที่จะใช้เวลาของเราจะมองไปที่แต่ละชิ้นพยายามที่จะเข้าใจข้อความที่ศิลปินอยากจะแบ่งปันก่อนที่จะให้การตีความของเราเองบน.

เราใช้เวลาได้อย่างง่ายดายชั่วโมงเดินไปตามเส้นทางของผนังและแน่นอนเราจะได้อยู่ได้อีกต่อไปถ้า ต้องการ. ประสบการณ์ทั้งหมดจะได้รับแม้จะดีกว่าถ้าศิลปินที่ตัวเองได้มีการอธิบายสิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะเป็นตัวแทนและบางทีอาจจะสร้างการสนทนากับพวกเขาโดยการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เราเองรับรู้จากมัน.

เชื่อมต่อกับผู้คนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของสิ่งที่เรา ชอบที่จะเรียกเดินทางช้า โดยรูปแบบของการสื่อสารเชื่อมโยงและการเผชิญหน้าใด ๆ ประสบการณ์ในการเดินทางจะเป็นหมันสำหรับเรา.

มันจะเป็นอะไรมากไปกว่าหมดจดมองไปที่สถานที่ที่สวยงามเพราะ "คุณต้องไปดูกันว่า" ไม่เห็นจริงอะไรเลยเพียงเพื่อที่จะเดินออกไป โดยไม่ต้องเชื่อมต่อใด ๆ .

โดยเฉพาะการพูดคุยกับผู้คนและการสังเกตสิ่งที่พวกเขาทำและวิธีการที่พวกเขาทำมันจริงๆเราสามารถรับรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือ เดินทางช้าเดินทางช้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์อย่างดื่มด่ำ .มันเป็นศูนย์กลางรอบเป็นเวลานานและในประสบการณ์ลึกเป็นหลัก กับชาวบ้าน แต่ไม่เสมอไปช้าเดินทางไม่โดดเรียนสถานที่ท่องเที่ยวหรือจุดหมายปลายทางยอดนิยมเช่นกัน ไม่ทั้งหมด มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับวิธีการที่เราตัดสินใจที่จะสนุกกับพวกเขาและทุกกิจกรรมอื่น ๆที่เราทำมันเกี่ยวกับการสละเวลาเพื่อโอบกอดทุกสิ่งรอบตัวเรา เพลิดเพลิน แม้แต่ง่ายสิ่งที่ไม่จําเป็นที่นิยมมากที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดตัวอย่างเช่นในช่วงสี่เดือนที่เราใช้ในเบอร์ลิน เราไม่พลาดโอกาสที่จะไปล่าสัตว์สำหรับชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ของถนนศิลปะ – ซึ่งมันไม่ยากที่ทั้งหมดในเบอร์ลิน ( แต่เราก็ยังไปดูแกลลอรี่ด้านตะวันออกที่มีชื่อเสียงที่หลงเหลืออยู่ของกำแพงเบอร์ลินสมบูรณ์ครอบคลุมในชิ้นดีและมีความหมาย ภาพจิตรกรรมฝาผนัง .เราอาจจะเดินเร็ว เอา selfie ต่อหน้ามันให้เราได้ ( เหมือนที่เราเคยเห็นหลายคนทำ ) แต่เราเลือกที่จะใช้เวลาดูแต่ละชิ้น พยายามที่จะเข้าใจข้อความที่ศิลปินต้องการที่จะแบ่งปันก่อนการให้การตีความของเราเองเราสามารถใช้เวลาเดินไปตามเส้นทางของกำแพง และแน่นอนเราสามารถอยู่ที่นี่ได้นานแม้ถ้าต้องการ ประสบการณ์ทั้งหมดคงจะดูดีกว่านี้ถ้าศิลปินที่ตัวเองมีการอธิบายสิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะแสดง และอาจจะสร้างการสนทนากับพวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เราเองรับรู้ได้จากเชื่อมต่อกับผู้คน เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของสิ่งที่เราเรียกว่าเดินทางช้า โดยไม่มีรูปแบบใด ๆของการสื่อสาร การเชื่อมโยง การเผชิญหน้า และประสบการณ์การเดินทางจะเป็นหมันสำหรับเรามันคงจะไม่มีอะไรที่มากกว่าการมองหาสถานที่ที่สวยงามหมดจด เพราะ " คุณต้องไปดูที่ " จริงโดยไม่เห็นอะไรเลย แค่เดินออกไปโดยไม่มีการติดต่อใดๆโดยเฉพาะการพูดคุยกับคนและสังเกตสิ่งที่พวกเขาและวิธีที่พวกเขาทำมัน เราจะได้รับรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น