This article is about a Thai temple

This article is about a Thai temple. For the Cambodian temple, see Silver Pagoda, Phnom Penh.
Wat Phra Kaew
Temple of the Emerald Buddha
Grand Palace Bangkok.jpg
View of Wat Phra Kaew Complex from Northeast
Temple Complex of the Emerald Buddha
Wat Phra Kaew is located in Bangkok Wat Phra KaewWat Phra Kaew
Location within Bangkok
13°45′5″N 100°29′34″E
Information
Denomination Theravada Buddhism
Founded 18th Century
Founder(s) King Buddha Yodfa Chulaloke (Rama I)
Country Thailand
Coordinates Coordinates: 13°45′5″N 100°29′34″E

Layout Plan of Wat Phra Kaew
The Wat Phra Kaew (Thai: วัดพระแก้ว, RTGS: Wat Phra Kaeo, IPA: [wát pʰráʔ kɛ̂ːw], Pronunciation, English: Temple of the Emerald Buddha; full official name Wat Phra Si Rattana Satsadaram, Thai: วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, IPA: [wát pʰráʔ sǐː rát.ta.náʔ sàːt.sa.daː.raːm]) is regarded as the most sacred Buddhist temple (wat) in Thailand. It is a "potent religio-political symbol and the palladium (protective image) of Thai society".[1] It is located in Phra Nakhon District, the historic centre of Bangkok, within the precincts of the Grand Palace.[2][3][4]

The main building is the central phra ubosot, which houses the statue of the Emerald Buddha. The legendary history of this Buddha image is traced to India, five centuries after Gautama Buddha attained Nirvana, until it was finally enshrined in Bangkok at the Wat Phra Kaew temple in 1782 during the reign of Buddha Yodfa Chulaloke, King Rama I (1782–1809). This marked the beginning of the Chakri Dynasty of Thailand (the present head of the dynasty is Bhumibol Adulyadej, King Rama IX.[1]) The Emerald Buddha, a dark green statue, is in a standing form, about 66 centimetres (26 in) tall, carved from a single jade stone ("emerald" in Thai means deep green colour and not the specific stone). It is carved in the meditating posture in the style of the Lanna school of the northern Thailand. Except for the Thai King, no other person is allowed to touch the statue. The King changes the cloak around the statue three times a year, corresponding to the summer, winter, and rainy seasons, an important ritual performed to usher good fortune to the country during each season.[1][2][3]

While legend traces this statue to India, its rich historical records dates its finding in Cambodia in the 15th century, moved to Laos in the 16th century and then to Vientiane where it remained for 215 years, and finally to Thailand in the 18th century. Considering the long history and the prophecy of the sage Nagasena that the Emerald Buddha would bring "prosperity and pre-eminence to each country in which it resides", the Emerald Buddha deified in the Wat Phra Kaew is deeply revered and venerated in Thailand as the protector of the country.[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทความนี้จะเกี่ยวกับวัดไทย สำหรับวัดกัมพูชา ดูเงินเจดีย์ พนมเปญวัดพระแก้ววัดพระแก้วBangkok.jpg แกรนด์พาเลซดูวัดพระแก้วคอมเพล็กซ์จากตะวันออกเฉียงเหนือเชิงวัดพระแก้ววัดพระแก้วตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครวัดพระ KaewWat พระแก้วสถานภายในกรุงเทพมหานคร13 ° 45′5″N 100 ° 29′34″Eข้อมูลศาสนาพุทธเถรวาทของหน่วยก่อตั้งขึ้นศตวรรษที่ 18พระ founder(s) พระบาทจุฬา (พระฉัน)ประเทศไทยพิกัดพิกัด: 13 ° 45′5″N 100 ° 29′34″Eเค้าโครงแผนผังวัดพระแก้ววัดพระแก้ว (ไทย: วัดพระแก้ว RTGS: วัดพระแก้ว IPA: [wát pʰráʔ kɛ̂ːw], ออกเสียง ภาษาอังกฤษ: ชื่อเต็มทางวัดพระศรีรัตนา Satsadaram ไทย วัดพระแก้ว: วัดพระศรีรัตนศาสดาราม IPA: [wát pʰráʔ sǐː rát.ta.náʔ sàːt.sa.daː.raːm]) ถือว่าเป็นศักดิ์สิทธิ์ที่สุดวัดพุทธ (วัด) ในประเทศไทย จึงเป็น "สัญลักษณ์ทางการเมือง religio มีศักยภาพและพาลาเดียม (ป้องกันภาพ) ของสังคมไทย"[1] มันอยู่ในเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ศูนย์ประวัติศาสตร์ภายในมณฑลของพระบรมมหาราชวัง[2][3][4]อาคารเป็นกลางอุโบสถ ซึ่งรูปปั้นของพระ ติดตามประวัติตำนานของพระพุทธรูปอินเดีย หลังจากที่พระพุทธโคดมบรรลุนิพพาน จนกว่าจะสุดท้ายประดิษฐานในกรุงเทพฯ ที่วัดวัดพระแก้วใน 1782 รัชกาลพระบาทจุฬา พระรามห้าศตวรรษฉัน (1782-1809) นี้ทำเครื่องหมายจุดเริ่มต้นของราชวงศ์จักรีของไทย (ปัจจุบันราชวงศ์อยู่ภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ ๙ . [1]) พระ รูปปั้นสีเขียวเข้ม อยู่ในฟอร์มยืน ประมาณ 66 หน่วยเซนติเมตร (26 ใน) สูง แกะสลักจากหินหยกเดียว ("มรกต" สีเขียวลึกหมายถึงไทยและไม่เฉพาะหิน) มันเป็นสลักในท่านั่งสมาธิในแบบของโรงเรียนลานนาภาคเหนือ ยกเว้นในหลวง บุคคลไม่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสรูปปั้น กษัตริย์เปลี่ยนเสื้อคลุมรอบ ๆ รูปปั้น 3 ครั้งต่อปี ที่สอดคล้องกับฤดูร้อน ฤดูหนาว และ ฤดูฝน เป็นพิธีกรรมสำคัญที่ดำเนินการเพื่อนำโชคดีไปยังประเทศในแต่ละช่วงฤดูการ[1][2][3]ในขณะที่ตำนานการสืบค้นกลับนี้รูปปั้นอินเดีย ระเบียนของประวัติศาสตร์ที่อุดมไปด้วยวันนั้นค้นหาในกัมพูชาในศตวรรษ 15 ย้าย ไปลาวในศตวรรษ 16 และเวียงจันทน์ซึ่งมันยังคงสำหรับ 215 ปี และในที่สุดในประเทศไทยในศตวรรษที่ 18 พิจารณาประวัติศาสตร์ยาวนานและคำพยากรณ์ของปราชญ์ Nagasena ที่พระจะนำ "ความเจริญรุ่งเรืองและเนินก่อนประเทศแต่ละที่มันอยู่" deified ในวัดพระแก้วพระลึกสักการะ และ venerated เป็นตัวป้องกันของประเทศไทย[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัดไทย สำหรับวัดกัมพูชาให้ดูที่วัดพระแก้วมรกต.
วัดพระแก้ว
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
แกรนด์พาเลซ Bangkok.jpg
มุมมองของวัดพระแก้วจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วัดที่ซับซ้อนของพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระแก้วตั้งอยู่ในกรุงเทพฯวัดพระ KaewWat พระ แก้ว
ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ
13 ° 45'5 "N 100 ° 29'34" E
ข้อมูล
นิกายเถรวาทพุทธศาสนา
ก่อตั้งขึ้นศตวรรษที่ 18
ผู้ก่อตั้ง (s) กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ I)
ประเทศ Thailand
พิกัดพิกัด: 13 ° 45'5 "N 100 ° 29'34 "E เค้าโครงแผนของวัดพระแก้ววัดพระแก้ว (ไทย: วัดพระแก้ว, RTGS: วัดพระแก้ว, IPA: [วัดpʰráʔkɛːw] การออกเสียงภาษาอังกฤษ: วัดพระศรีรัตนศาสดารามชื่ออย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบ วัดพระศรีรัตน Satsadaram ไทย: วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, IPA: [วัดpʰráʔsǐrát.ta.náʔsàːt.sa.daː.raːm]) ถือได้ว่าเป็นวัดในพุทธศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด (วัด) ในประเทศไทย มันเป็น "สัญลักษณ์ที่มีศักยภาพศาสนาการเมืองและแพลเลเดียม (ภาพที่ป้องกัน) ของสังคมไทย". [1] ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระนครศูนย์ประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯภายในบริเวณของพระราชวังแกรนด์. [2] [ 3] [4] อาคารหลักคือพระอุโบสถกลางซึ่งเป็นรูปปั้นของพระแก้วมรกต ประวัติศาสตร์ในตำนานของพระพุทธรูปนี้ถูกโยงไปถึงอินเดียห้าศตวรรษหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานจนกระทั่งมันถูกประดิษฐานที่สุดในกรุงเทพฯที่วัดวัดพระแก้วในปี 1782 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่ฉัน (1782-1809 ) นี้เป็นจุดเริ่มต้นของราชวงศ์จักรีแห่งประเทศไทย (หัวปัจจุบันของราชวงศ์เป็นภูมิพลอดุลยเดช, พระบาทสมเด็จพระทรงเครื่อง. [1]) พระศรีรัตนศาสดาราม, รูปปั้นสีเขียวเข้มอยู่ในรูปแบบที่ยืนอยู่ประมาณ 66 เซนติเมตร (26 ใน ) สูงแกะสลักจากหินหยกเดียว ("มรกต" ในภาษาไทยหมายถึงสีเขียวเข้มและไม่หินเฉพาะ) มันถูกแกะสลักในท่านั่งสมาธิในรูปแบบของโรงเรียนล้านนาภาคเหนือของประเทศไทย ยกเว้นพระมหากษัตริย์ไทยไม่มีบุคคลอื่นที่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสรูปปั้น กษัตริย์เปลี่ยนแปลงเสื้อคลุมรอบ ๆ รูปปั้นสามครั้งต่อปีสอดคล้องกับฤดูร้อนฤดูหนาวและฤดูฝน, พิธีกรรมที่สำคัญการดำเนินการที่จะนำความโชคดีที่ประเทศในช่วงแต่ละฤดูกาล. [1] [2] [3] ในขณะที่ตำนาน ร่องรอยของรูปปั้นไปยังประเทศอินเดียนี้บันทึกทางประวัติศาสตร์ของมันอุดมไปด้วยวันที่ค้นพบในประเทศกัมพูชาในศตวรรษที่ 15 ย้ายไปอยู่ที่ประเทศลาวในศตวรรษที่ 16 และหลังจากนั้นจะเวียงจันทน์ที่มันยังคงอยู่ 215 ปีและในที่สุดก็ถึงประเทศไทยในศตวรรษที่ 18 เมื่อพิจารณาถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและคำทำนายของปัญญาชน Nagasena ว่าพระแก้วมรกตจะนำมาซึ่ง "ความเจริญรุ่งเรืองและความเด่นแต่ละประเทศในการที่จะอยู่" พระแก้วมรกต deified ในวัดพระแก้วเป็นที่เคารพนับถืออย่างลึกซึ้งและบูชาในประเทศไทย ป้องกันของประเทศ. [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นบทความเกี่ยวกับวัดไทย . สำหรับวัดเขมร เห็นเจดีย์เงินพนมเปญ
.
วัดพระแก้ววัดพระแก้ววัง
แกรนด์กรุงเทพฯ . jpg
วิววัดพระแก้วที่ซับซ้อนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วัดซับซ้อนของพระแก้วมรกต
วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ในเขตวัดพระ kaewwat พระแก้ว

13 องศาที่ตั้งภายในกรุงเทพมหานคร 45 ’ 5 เพลง N 100 29 / 34 E

ข้อมูลนั้นบอกว่านิกายเถรวาทพุทธศาสนา

ผู้ก่อตั้งก่อตั้งศตวรรษที่ 18 ) กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ( รัชกาลที่ ) ประเทศไทย

พิกัดพิกัด 13 องศา 45 ได้รับ 5 เพลง N 100 ° 29 ได้รับ 34 เพลง E

รูปแบบแผนภาพวัดพระแก้ว
วัดพระแก้ว ( ไทย : วัดพระแก้ว rtgs : วัดพระแก้ว , IPA : [ w , P R T . kgm ʰáʔ K ɛ̂ː W ] , การออกเสียง , ภาษาอังกฤษ : วัดพระแก้ว ;วัดพระศรีรัตน satsadaram อย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบชื่อไทย : วัดพระศรีรัตนศาสดาราม IPA : [ w , P R S T . kgm ʰáʔǐː R . kgm t.ta . áʔ S àː t.sa ดาː ราː m ] ) ถือเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด ( วัด ) ในประเทศไทย มันเป็น " ต้าเรลีจีโอการเมืองสัญลักษณ์และแพลเลเดียม ( ภาพป้องกัน ) ของสังคมไทย " [ 1 ] ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพระนครศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานครภายในเขตพระบรมมหาราชวัง [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ]

อาคารหลัก คือ พระอุโบสถ พระภาคกลาง ซึ่งบ้านที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต . ประวัติศาสตร์ตำนานของพระพุทธรูปนี้โยงไปถึงอินเดีย ห้าศตวรรษหลังจากพระพุทธเจ้าบรรลุนิพพาน จนสุดท้ายก็ประดิษฐานอยู่ในกรุงเทพในวัดพระแก้วใน พ.ศ. 2325 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ,รัชกาลที่ ( 1 ) 1256 ) นี้เป็นจุดเริ่มต้นของราชวงศ์จักรี ( หัวปัจจุบันของราชวงศ์ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 [ 1 ] ) พระแก้วมรกต รูปปั้นสีเขียวเข้ม เป็นรูปยืน ประมาณ 66 ซม. ( 26 ) สูง แกะสลักจากหินหยกเดี่ยว ( " มรกต " ในไทย หมายถึง สีเขียวเข้ม สี และไม่ใช่เฉพาะหิน )มันถูกแกะสลักไว้ในท่านั่งสมาธิในรูปแบบของล้านนา โรงเรียนในภาคเหนือของประเทศไทย . ยกเว้น คนไทย ไม่มีบุคคลอื่นที่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสรูปปั้น กษัตริย์เปลี่ยนเสื้อคลุมรอบรูปปั้นสามครั้งต่อปี สอดคล้องกับ ฤดูร้อน ฤดูหนาว และฤดูฝน มีพิธีกรรมที่สำคัญการจะนำความโชคดีให้กับประเทศในแต่ละฤดูกาล [ 1 ] [ 2 ] [ 3 ]

ในขณะที่ตำนานร่องรอยรูปปั้นนี้กับอินเดีย อันอุดมสมบูรณ์ของบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่หาช่องในกัมพูชาในศตวรรษที่ 15 ย้ายไปอยู่ลาว ในศตวรรษที่ 16 จากนั้นไปเวียงจันทน์ที่ยังคงอยู่สำหรับ 215 ปี และสุดท้าย ไทยในศตวรรษที่ 18เมื่อพิจารณาจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและคำพยากรณ์ของ Sage nagasena ว่าพระแก้วมรกต จะนำ " ความเจริญ และก่อนไปแต่ละประเทศ ซึ่งมันอยู่ " พระแก้วมรกตเทพเจ้าของที่ในวัดพระแก้ว ลึก เคารพและบูชาในประเทศไทยในฐานะผู้ปกป้องประเทศ [ 1 ]