แจ้งว่าอยู่ในเอกสารประชุมหน้า 29-34 อธิบายรายรับว่ามาจาก ค่าส่วนกลางเรียกเก็บ 65 บาท/ตร.ม คิดเป็น 3.9 ล้าน รายรับค่าสาธารณูปโภคซึ่งมาจากส่วนต่างของค่าน้ำประปาประมาณ 24,000 บาท และรายรับอื่นๆ ประมาณการอีก 12,000 บาท ซึ่งมาจากห้องชุดที่มีการตกแต่ง คีย์การ์ด ค่าปรับต่างๆ รวมแล้วรายรับอยู่ที่ประมาณการอยู่ที่ 4 ล้านบาท หรือ 65.6 บาท/ตร.ม. หากเปรียบเทียบกับรายรับจริงของปีที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 4.1 ล้านบาท จะใกล้เคียงกัน
ถัดมาจะเป็นส่วนของรายจ่ายแบ่งออกเป็น 6 หมวดโดยรวมรายจ่ายประมาณการจะอยู่ที่ 4.6 ล้าน เริ่มจากรายจ่ายตามสัญญาเป็นเงินทั้งสิ้น 3.7 ล้านบาทแบ่งออกเป็นสัญญาการบริหารอาคาร แม่บ้าน รปภ. กำจัดแมลง บำรุงรักษาลิฟท์ ค่าเบี้ยประกันภัยอาคาร ค่าดูแลสวน จะเห็นว่ารายจ่ายตามสัญญามีการปรับสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย
ถัดมาเป็นค่าสาธารณูปโภคประมาณอยู่ที่ 5 แสนบาท ซึ่งจะเป็นส่วนของค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์
ต่อไปเป็นค่าใช้จ่ายสำนักงาน 67,000 บาท จะประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายในการประชุม เครื่องเขียน ค่าพาหนะ ค่าธรรมเนียมธนาคารต่างๆ ค่าจัดเก็บขยะ
งานระบบซ่อมแซมต่างๆ ประมาณการอยู่ที่ 245,000 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องจักรต่างๆ ของโครงการ
ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประมาณการอยู่ที่ 32,600 บาท โดยรวมรายจ่ายประมาณการจะอยู่ที่ 4.6 ล้านบาท หรือเท่ากับ 75.75 บาทต่อ ตร.ม. ซึ่งทำให้ภาพรวมตามตารางในสไลด์เรามีตัวเลขรายรับอยู่ที่ 4 ล้านบาท จะต่ำกว่ารายจ่ายซึ่งอยู่ที่ 4.6 ล้านบาท ติดลบประมาณ 6 แสนบาทหรือ 10 บาท โดยหากเปรียบเทียบกับยอดค่าใช้จ่ายจริงของปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายของเราจะอยู่ที่ 4.5 ล้านบาท หรือ 74 บาทต่อ ตร.ม.
ซึ่งจากรายการงบประมาณจะเห็นได้ว่า ค่าส่วนกลางที่เราเรียกเก็บ 65 บาทนั้นไม่เพียงพอ ด้วยอายุของอาคารค่าใช้จ่ายตัวนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะนำเสนอการขอให้พิจารณาปรับขึ้นค่าส่วนกลางขึ้นในวาระที่ 6.1 ต่อไป ซึ่งตัวเลขค่าใช้จ่ายต่างๆ เราๆ ได้มีการติดงบการเงินไว้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ทุกๆเดือน หากท่านมีข้อสงสัยว่ามีตัวเลขอะไรที่ไม่ถูกต้องสามารถแจ้งที่นิติบุคคลได้ ซึ่งงบประมาณที่ตั้งมาเป็นเพียงกรอบงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งเราประมาณการจากแนวโน้มในอนาคตว่าเครืองจักรต่างๆ มีแนวโน้มที่จะซ่อมแซมมากขึ้น หรือมีการเปลี่ยนอะไหล่ เพิ่มเติม อาจไม่ได้มีการใช้งานจริงๆ เกิดขึ้น