This report addresses the challenge

This report addresses the challenges encountered and, to a certain extent, overcome,
while health risk assessment and management were being conducted in Mae Sot, Thailand
following cadmium contamination to rice, the main diet of Thais.
In November 2003, Department of Agriculture (DOA), Ministry of Agriculture (MOA) sent a summary report of a 6-year study revealing serious contamination of cadmium to soil and
rice grown in the vicinity of a large zinc mine to Department of Pollution Control (DPC). The report concluded that level of rice contamination warranted immediate attention to prevent cadmium poisoning among the exposed population.
A team of DPC experts initiated a risk assessment plan and Department of Disease Control (DDC) was among the 6 central governmental offices contacted to join this effort.
Department of Disease Control (DDC) staffs and Mae Sot Hospital team initiated a rapid
survey to assess exposure situation among the 100,000 residents in the affected municipality. Using GIS data, health staffs mapped contaminated rice fields with consumers. By the end of 2004, affected population was classified according
to their exposure statuses. Toxicologists from Chiang Mai University Medical School and Japanese cadmium experts from Kanazawa Medical University started a research project to assess the effect of cadmium on kidneys, the major target
organ of cadmium. It is expected that a 10-year surveillance is needed
to reduce health risks among 800 people, who had high urinary cadmium level (> 5μg/g creatinine) and were at risk of
having cadmium-induced renal failure, to acceptable level.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี้รายงานความท้าทายที่พบ และ ขอบแบบบางเขต เอา ชนะในขณะที่การประเมินความเสี่ยงสุขภาพและการจัดการได้ถูกดำเนินในแม่แม่สอด ไทยต่อแคดเมียมปนเปื้อนกับข้าว อาหารหลักของคนไทยในเดือน 2003 พฤศจิกายน ภาคของเกษตร (กรมวิชาการเกษตร), กระทรวงของเกษตร (นกโมอา) ส่งรายงานสรุปการศึกษา 6 ปีเปิดเผยจริงจังการปนเปื้อนของแคดเมียมในดิน และข้าวที่ปลูกที่ดีสังกะสีขนาดใหญ่เหมืองกับแผนกของมลพิษควบคุม (DPC) รายงานสรุปว่า ระดับการปนเปื้อนข้าว warranted ความสนใจทันทีเพื่อป้องกันการเป็นพิษในหมู่ประชากรสัมผัสแคดเมียมทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ DPC เริ่มแผนประเมินความเสี่ยง และกรมควบคุมโรค (DDC) มีหมู่ 6 เซ็นทรัลงานราชการสำนักติดต่อเข้าพยายามกรมควบคุมโรค (DDC) บุคคลากรและทีมโรงพยาบาลแม่สอดแม่เริ่มรวดเร็วสำรวจเพื่อประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงระหว่างผู้อยู่อาศัย 100000 ในเทศบาลที่ได้รับผลกระทบ โดยใช้ข้อมูล GIS พนักงานสุขภาพแม็ปฟิลด์ผู้บริโภคข้าวที่ปนเปื้อน โดยปลายปี 2004 ประชากรได้รับผลกระทบถูกจำแนกตามถึงสถานะของพวกเขาสัมผัส Toxicologists จากโรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เชียงใหม่และแคดเมียมญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแพทย์วะเริ่มโครงการวิจัยเพื่อประเมินผลของแคดเมียมไต เป้าหมายสำคัญอวัยวะของแคดเมียม คาดว่าที่ต้องเฝ้าระวังเป็น 10 ปีเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพจาก 800 คน มีระดับแคดเมียมสูงท่อปัสสาวะ (> 5μg/g creatinine) และมีความเสี่ยงมีแคดเมียมทำให้เกิดภาวะไตวาย ระดับยอมรับได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รายงานนี้อยู่กับความท้าทายที่พบและในระดับหนึ่ง, เอาชนะ
ในขณะที่การประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพและการจัดการได้รับการดำเนินการในแม่สอดประเทศไทย
ดังต่อไปนี้การปนเปื้อนแคดเมียมในข้าว, อาหารหลักของคนไทย.
ในเดือนพฤศจิกายนปี 2003 กรมวิชาการเกษตร (กรมวิชาการเกษตร ) กระทรวงเกษตร (MOA) ส่งรายงานสรุปของการศึกษา 6 ปีเผยให้เห็นการปนเปื้อนที่ร้ายแรงของแคดเมียมในดินและ
ข้าวที่ปลูกในบริเวณใกล้เคียงของเหมืองสังกะสีขนาดใหญ่เพื่อกรมควบคุมมลพิษ (DPC) รายงานสรุปว่าระดับของการปนเปื้อนข้าวรับประกันความสนใจในทันทีเพื่อป้องกันการเป็นพิษแคดเมียมในหมู่ประชากรสัมผัส.
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ DPC ริเริ่มแผนประเมินความเสี่ยงและกรมควบคุมโรค (DDC) เป็นหนึ่งใน 6 หน่วยงานราชการส่วนกลางติดต่อที่จะเข้าร่วมความพยายามนี้ .
กรมควบคุมโรค (DDC) พนักงานและทีมงานของโรงพยาบาลแม่สอดเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
การสำรวจเพื่อประเมินสถานการณ์การสัมผัสในหมู่ประชาชน 100,000 ในเขตเทศบาลได้รับผลกระทบ โดยใช้ข้อมูล GIS, พนักงานสุขภาพแมปนาข้าวที่ปนเปื้อนกับผู้บริโภค ในตอนท้ายของปี 2004 ประชากรได้รับผลกระทบได้รับการจำแนกตาม
สถานภาพการเสี่ยงของพวกเขา พิษวิทยาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่โรงเรียนแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านแคดเมียมญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยคานาซาว่าแพทย์เริ่มโครงการวิจัยเพื่อประเมินผลกระทบของแคดเมียมในไตเป้าหมายหลัก
อวัยวะของแคดเมียม มันเป็นที่คาดว่าการเฝ้าระวัง 10 ปีเป็นสิ่งจำเป็น
เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพในหมู่ 800 คนที่มีระดับแคดเมียมในปัสสาวะสูง (> 5μg / กรัม creatinine) และมีความเสี่ยงของ
การมีภาวะไตวายแคดเมียมที่เกิดขึ้นในระดับที่ยอมรับได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รายงานนี้ที่อยู่กับความท้าทายที่พบและในระดับหนึ่ง , เอาชนะ ,
ในขณะที่การประเมินความเสี่ยงและการจัดการจะถูกดำเนินการในแม่สอด , ไทย
ต่อไปนี้การปนเปื้อนแคดเมียมในข้าว อาหารหลักของคนไทย
ในเดือนพฤศจิกายน 2546 กรมกสิกรรม ( กรมวิชาการเกษตร )กระทรวงการเกษตร ( MOA ) ส่งรายงานสรุปการศึกษา 6 ปีเปิดเผยการปนเปื้อนของแคดเมียมในดินและร้ายแรง
ข้าวที่ปลูก ในบริเวณเหมืองสังกะสีขนาดใหญ่ของกรมควบคุมมลพิษ ( DPC ) รายงานสรุปได้ว่า ระดับการปนเปื้อนของข้าวรับประกันความสนใจทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้พิษแคดเมียมในประชากร
ตาก .ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินความเสี่ยงและ DPC ได้ริเริ่มแผนของกรมควบคุมโรค ( DDC ) เป็นหนึ่งใน 6 กลางราชการ ติดต่อเพื่อเข้าร่วมความพยายามนี้ .
กรมควบคุมโรค ( DDC ) บุคคลากรและทีมงานโรงพยาบาลแม่สอดเริ่มสำรวจอย่างรวดเร็ว
เพื่อประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงระหว่าง 100000 ประชาชนในเขตเทศบาลได้รับผลกระทบ การใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่พนักงานสุขภาพแมปที่ปนเปื้อนในนาข้าวกับผู้บริโภค โดยการสิ้นสุดของปี 2004 ได้รับผลกระทบประชากรจำแนกตามสถานภาพการเปิดรับ
เพื่อ . toxicologists จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงเรียนแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยคานาซาว่า ( ญี่ปุ่นเริ่มโครงการวิจัยเพื่อศึกษาผลของแคดเมียมต่อไต ที่สำคัญเป้าหมาย
อวัยวะของแคดเมียมเป็นที่คาดว่าการเฝ้าระวัง 10 ปีต้องการ
เพื่อลดความเสี่ยงสุขภาพของ 800 คน ที่มีระดับแคดเมียมในปัสสาวะสูง ( > 5 μ g / g creatinine ) และมีความเสี่ยงจาก
มีแคดเมียมเกิดไตวายในระดับที่ยอมรับได้