The use of fungicides for the contr

The use of fungicides for the control of pest in the vineyard
shows the risk of residues of these compounds in grapes, and their
transfer to wines elaborated with these grapes, implying a health
hazard. For this reason, their maximum residue limits (MRLs) are
controlled by the current legislation. Moreover, these residues
can affect the yeast involved in the fermentative process.
Hence, their effect on yeast population and fermentation have been
studied by several authors Some suggest that depending on the type of fungicides the effect
will be different, as they show specificity for certain species Thus, some types of fungicides
can slow down fermentation and in extreme cases
they may even stop it while other types of
fungicides do not affect it The aroma of a wine is one of the most important characteristics
in defining its quality. Since several wine volatile compounds are
produced during fermentation, the potential impact of fungicide
residues on their biosynthesis, and so on the total wine aroma, is
a matter of a great concern. In fact, new phytosanitary products
used to control fungal diseases should be completely inactive
against fermentative microflora To our knowledge, there are few data about the influence of
new-generation fungicides on aroma biosynthesis on volatile composition of white wines and red wines
For these reasons, the aim of this work was to study the influence
of the use of several fungicides widely used in the vineyard
on the volatile composition of red wines obtained from inoculated
fermentation. Individual treatments at the recommended doses
were performed with the selected fungicides under critical agricultural
practices (CAP).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้เชื้อราสำหรับการควบคุมศัตรูพืชในสวนองุ่นแสดงความเสี่ยงของการตกค้างของสารเหล่านี้ในองุ่น และโอนไปไวน์ elaborated กับองุ่นเหล่านี้ หน้าที่สุขภาพอันตรายจาก ด้วยเหตุนี้ มีขีดตกค้างสูงสุด (MRLs)ถูกควบคุม โดยกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ ตกค้างเหล่านี้มีผลต่อการมีส่วนร่วมในกระบวนการหมักยีสต์ด้วยเหตุนี้ ผลกระทบต่อประชากรของยีสต์และการหมักได้ศึกษา โดยผู้แต่งหลายคนบางคนที่เห็นนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อราผลจะแตกต่างกัน ตามที่พวกเขาแสดงความจำเพาะบางสายพันธุ์นั้น บางชนิดเชื้อราสามารถช้า ลงหมัก และ ในกรณีพวกเขายังอาจหยุดในขณะที่ชนิดอื่นเชื้อราไม่กระทบกลิ่นหอมของไวน์เป็นลักษณะสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งในการกำหนดคุณภาพของ เนื่องจากมีสารประกอบระเหยไวน์หลายผลิตในระหว่างการหมัก ผลกระทบของยาฆ่าแมลงตกค้างบนการสังเคราะห์ และอื่น ๆ รวมไวน์หอมเป็นเรื่องของความกังวล ในความเป็นจริง ผลิตภัณฑ์ใหม่ใช้ในการควบคุมโรคเชื้อราควรใช้งานอย่างสมบูรณ์กับจุลินทรีย์หมักความรู้ของเรา มีข้อมูลน้อยเกี่ยวกับอิทธิพลของเชื้อรารุ่นใหม่จากกลิ่นสังเคราะห์จากองค์ประกอบที่ระเหยไวน์ขาวและไวน์แดงเหตุผลเหล่านี้ จุดมุ่งหมายของงานนี้คือเพื่อ ศึกษาอิทธิพลการใช้เชื้อราต่าง ๆ ที่ใช้ในไร่องุ่นองค์ประกอบสารระเหยของไวน์แดงที่ได้รับจาก inoculatedหมัก ทรีทเมนท์แต่ละปริมาณแนะนำดำเนินการ ด้วยการเลือกเชื้อราภายใต้ที่สำคัญทางการเกษตรปฏิบัติ (CAP)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใช้สารฆ่าเชื้อราในการควบคุมศัตรูพืชในสวนองุ่นที่
แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของการตกค้างของสารเหล่านี้ในองุ่นและพวกเขา
ถ่ายโอนไปยังเนื้อหาไวน์องุ่นเหล่านี้หมายความสุขภาพ
อันตราย ด้วยเหตุนี้การ จำกัด สารตกค้างสูงสุด (MRLs) จะถูก
ควบคุมโดยกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีสารตกค้างเหล่านี้
จะมีผลต่อยีสต์เกี่ยวข้องในกระบวนการหมัก.
ดังนั้นผลกระทบต่อประชากรยีสต์และการหมักได้รับการ
ศึกษาโดยนักเขียนหลายคนบางคนแนะนำว่าขึ้นอยู่กับชนิดของสารฆ่าเชื้อราชนิดผลที่ได้
จะแตกต่างกันเช่นที่พวกเขาแสดงความจำเพาะสำหรับบาง สายพันธุ์ดังนั้นบางชนิดของสารฆ่าเชื้อรา
สามารถชะลอการหมักและในกรณีที่รุนแรง
พวกเขาอาจจะหยุดมันได้ในขณะที่ประเภทอื่น ๆ ของ
สารฆ่าเชื้อราไม่ส่งผลกระทบมันกลิ่นหอมของไวน์เป็นหนึ่งในลักษณะที่สำคัญที่สุด
ในการกำหนดคุณภาพ เนื่องจากสารระเหยหลายไวน์
ที่ผลิตในระหว่างการหมักผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสารเคมี
ตกค้างในการสังเคราะห์ของพวกเขาและอื่น ๆ กลิ่นหอมไวน์ทั้งหมดเป็น
เรื่องของความกังวลมาก ในความเป็นจริงผลิตภัณฑ์สุขอนามัยพืชใหม่
ใช้ในการควบคุมโรคเชื้อราควรจะสมบูรณ์ไม่ได้ใช้งาน
กับจุลินทรีย์หมักเพื่อความรู้ของเรามีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับอิทธิพลของ
สารฆ่าเชื้อรารุ่นใหม่กลิ่นหอมสังเคราะห์กับองค์ประกอบความผันผวนของไวน์ขาวและไวน์แดง
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จุดมุ่งหมายของงานนี้เพื่อศึกษาอิทธิพล
ของการใช้สารฆ่าเชื้อราหลายที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในไร่องุ่น
กับองค์ประกอบมีความผันผวนของไวน์แดงที่ได้รับจากเชื้อ
หมัก การรักษาของแต่ละบุคคลในปริมาณที่แนะนำ
ได้ดำเนินการกับสารฆ่าเชื้อราที่เลือกภายใต้การเกษตรที่สำคัญ
การปฏิบัติ (CAP)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้สารเคมีควบคุมศัตรูพืชในไร่องุ่นแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของการตกค้างของสารประกอบเหล่านี้ใน องุ่น และของพวกเขาถ่ายโอนไปยัง elaborated กับไวน์องุ่นเหล่านี้หมายถึงสุขภาพอันตราย ด้วยเหตุผลนี้ สูงสุดของพวกเขา ( ซึ่งเป็นการปรับกาก จำกัด )ควบคุมโดยกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ ที่ตกค้างเหล่านี้จะมีผลต่อยีสต์เกี่ยวข้องในกระบวนการวิศวกรรมเคมี .ดังนั้น ผลของประชากรยีสต์หมักและได้รับการศึกษาโดยผู้เขียนหลายบางชี้ให้เห็นว่าขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคมี ผลจะแตกต่างกันเช่นที่พวกเขาแสดงความจำเพาะของบางชนิดและบางประเภทของสารเคมีสามารถชะลอ การหมัก และในกรณีที่รุนแรงพวกเขาอาจจะหยุดมันในขณะที่ประเภทอื่น ๆวันไม่มีผลต่อกลิ่นของไวน์เป็นหนึ่งในลักษณะที่สำคัญที่สุดในการกำหนดคุณภาพของ เนื่องจากสารระเหยไวน์หลายเป็นผลิตในระหว่างการหมัก ผลกระทบของสารเคมีที่มีศักยภาพตกค้างบนในของพวกเขา , และดังนั้นบน กลิ่นไวน์ ทั้งหมด คือเป็นเรื่องของความกังวลมาก ในความเป็นจริงผลิตภัณฑ์สุขอนามัยพืชใหม่ใช้ในการควบคุมโรคเชื้อราควรสมบูรณ์ๆกับวิศวกรรมเคมี จุลินทรีย์เพื่อความรู้ของเรามีข้อมูลน้อยเกี่ยวกับอิทธิพลของวันรุ่นใหม่ในการพัฒนาส่วนประกอบระเหยกลิ่นหอมของไวน์ขาว และไวน์แดงด้วยเหตุผลเหล่านี้ งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาอิทธิพลการใช้สารเคมีต่าง ๆที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในไร่องุ่นในองค์ประกอบสารระเหยของไวน์แดงที่ได้จากเชื้อหมัก การรักษาของแต่ละบุคคลที่แนะนำขนาดยามีการปฏิบัติด้วยการเลือกสารเคมีการเกษตรที่สำคัญภายใต้การปฏิบัติ ( หมวก )