Scoring (Scoring Rubrics).Scoring S

Scoring (Scoring Rubrics).
Scoring Scoring Rubric is being developed by the teacher or the analysis or evaluation process, the students attempted to create. The evaluation of students will have two types of contributions from the process of the students. Students and processes used to achieve results. To assess in any manner, depending on the purpose of learning. Any one could be assessed or evaluated both the teacher. The appraiser must judge the quality of the work or the performance of each student with the different levels. The difference may be the quality of the work that has built up. Or levels of processes that each student has used to achieve results.
To make decisions consistent with each student. The assessment will be based on a qualitative assessment of student work. The criteria may be qualitative or quantitative. There may be a rating scale (Rating scale) or check (Checklist) Rubric typically used to assess the purpose of learning or any part of practice. But the operations are complicated. The purpose of this assessment is to evaluate various learning and evaluate many parts of the practice. That is, the assessment has to be scoring plenty to suit the purpose of learning is different. Or for each part of the operation. The rating is in the form of numbers. This is usually 0-3 or 1-4 in each level of the rating will depend on the level of quality of work. The number 4 may represent the highest levels of quality No. 3 as minor. The quality of each level will require a description (Rubric), so each level must be explained in a language that shows the quality of performance at that level.
Scoring (Scoring Rubric) is important.
The assessment of potential learners by providing practice it. No answer or the answer was clearly down to a choice quiz answers. The evaluation of each student's practice, it is necessary to evaluate the quality of a teacher. It is difficult to do. And has discovered the building or scoring rubric to set up guidelines to judge fairly. Unbiased,
Rubric must be clear in scoring, just the size, those two people can use the Rubric assessment of learners' work piece and then scoring the match. Level of consistency in the scoring of two assessors who evaluated independently of each other are called. Reliability (Reliability) rating
Elements of Scoring (Scoring Rubric).
There are many elements Scoring rubric Each composition is useful as an important element.
1. to have at least one feature or one-dimensional as the basis for judging the students.
2. The definitions and examples must be clear in each feature or dimension.
Section 3. The scoring a ratio for each feature or dimension.
4. There must be clear standards for each level of the rating.
Each rating should be clear in popularity. And the breadth of scale should not exceed six to seven levels if the level of the width is too difficult to determine the difference in each level, such as the width rating of 100, making it difficult to explain the 81. qualitatively different from 80 or 82, and to make the consistency of measurement with Multi-Rater reduced. To determine the width of the scoring is, the. There has to be a reasonable and clear definition of the range from the worst (poor) to reach the (excellent).
This kind of scoring (Scoring Rubric).
Scoring Rubric There are three types.
1. Holistic Rubrics are a scoring process that works or not fragmented or split the scoring. Is to assess the overall performance or the process itself.
2. Analytic Rubrics are a scoring modular elements or features of the work or process. Then each part or component features combined into a total score.
3. Annotated Holistic Rubrics evaluators will assess a holistic rubrics and then evaluate some other modular features outstanding to reflect on some of the students.
Scoring is simple and holistic rubrics used only a few times a student will be evaluated on a first overview of all the features in the operation. The scoring model is used frequently by analytic rubrics to assess separately each of the features. This assessment is useful when interested to diagnose or help the students understand each section or individual features of the operation or not, which contributed for teachers to enhance or improve learning. Each of the students even further.
The full annotated rubrics to include the restriction of holistic and analytic together, starting with an assessment of the overall performance, with holistic and evaluate your assessment just some of the features of the analytic where assessment just some features will not. The changes affect the holistic assessment is useful to have a quick evaluation and assessment is to evaluate selected some unique features that stand out just a few elements to reflect (feedback) to students. But useless in diagnosing defects in the group that did not feature because many features are evaluated.
(Nitko. 1996)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ให้คะแนน (คะแนน Rubrics)คะแนนการให้คะแนน Rubric จะถูกพัฒนา โดยครูหรือกระบวนการวิเคราะห์หรือการประเมินผล นักเรียนที่ต้องการสร้าง การประเมินผลการเรียนจะมีสองชนิดคือผลงานจากกระบวนการของนักเรียน นักเรียนและกระบวนการที่ใช้เพื่อให้บรรลุผล การประเมินในลักษณะใด ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ทุกคนสามารถประเมิน หรือประเมินทั้งครู ผู้ประเมินราคาจะต้องตัดสินคุณภาพของงานหรือประสิทธิภาพการทำงานของนักเรียนแต่ละระดับแตกต่างกัน ความแตกต่างอาจเป็นคุณภาพของงานที่ได้สร้างขึ้น หรือระดับของกระบวนการที่นักเรียนได้ใช้เพื่อให้บรรลุผลการตัดสินใจสอดคล้องกับนักเรียน การประเมินจะยึดตามการประเมินเชิงคุณภาพของผลงานนักเรียน เกณฑ์อาจเป็นเชิงคุณภาพ หรือเชิงปริมาณ อาจมีมาตราจัดอันดับ (อันดับสเกล) หรือตรวจสอบ Rubric (ตรวจสอบ) โดยทั่วไปใช้ในการประเมินวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของการปฏิบัติ แต่การดำเนินงานที่มีความซับซ้อน วัตถุประสงค์ของการประเมินนี้จะประเมินต่าง ๆ การเรียนรู้ และประเมินในส่วนของการปฏิบัติการ นั่นคือ การประเมินความต้องให้คะแนนมากมายเพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้จะแตกต่างกัน หรือ สำหรับแต่ละส่วนของการดำเนินการ การประเมินในรูปแบบของตัวเลขได้ โดยปกติ 0-3 หรือ 1-4 ในแต่ละระดับของคะแนนจะขึ้นอยู่กับระดับของคุณภาพของงาน หมายเลข 4 อาจเป็นตัวแทนระดับสูงของคุณภาพหมายเลข 3 เป็นรอง คุณภาพของแต่ละระดับจะต้องใช้การอธิบาย (Rubric), ดังนั้นต้องอธิบายแต่ละระดับในภาษาที่แสดงคุณภาพของประสิทธิภาพที่การให้คะแนน (ให้คะแนน Rubric) เป็นสิ่งสำคัญการประเมินศักยภาพผู้เรียนโดยให้ฝึกมัน ไม่ตอบหรือตอบไม่ชัดเจนลงคำตอบสำหรับคำถามที่เลือก ประเมินผลการปฏิบัติของนักศึกษา จะต้องประเมินคุณภาพของครู ยากที่จะทำได้ มีการค้นพบอาคารหรือการให้คะแนน rubric เพื่อตั้งค่าแนวทางการตัดสินค่อนข้าง คนRubric ต้องชัดเจนในการให้คะแนน เพียงขนาด สองคนนั้นสามารถใช้ประเมิน Rubric ของผู้เรียนชิ้นงานและให้คะแนนแล้ว จับคู่ ระดับของความสอดคล้องในการให้คะแนนประเมิน 2 คนประเมินเป็นอิสระจากกันจะเรียกว่า จัดอันดับความน่าเชื่อถือ (ความน่าเชื่อถือ)องค์ประกอบของการให้คะแนน (ให้คะแนน Rubric)มีองค์ประกอบในการให้คะแนน rubric แต่ละองค์ประกอบจะมีประโยชน์เป็นองค์ประกอบสำคัญ1. การมีคุณลักษณะน้อย หรือ one-dimensional เป็นพื้นฐานสำหรับการตัดสินนักเรียน2. คำนิยามและตัวอย่างต้องชัดเจนในแต่ละลักษณะหรือขนาดส่วน 3 ให้คะแนนเป็นอัตราส่วนสำหรับแต่ละคุณลักษณะหรือมิติ4. ต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจนในแต่ละระดับของการประเมินที่จัดอันดับแต่ละควรจะชัดเจนในความนิยม และกว้างของขนาดไม่ควรเกินหกถึงเจ็ดระดับถ้าระดับของความกว้างเกินไปยากที่จะกำหนดความแตกต่างในแต่ละระดับ เช่นคะแนนความกว้าง 100 ทำให้ยากที่จะอธิบาย 81 ลดลง qualitatively แตกต่าง จาก 80 หรือ 82 และ เพื่อให้สอดคล้องกับ Rater หลายวัด การกำหนดความกว้างของคะแนนได้ การ มีให้ คำจำกัดความที่เหมาะสม และชัดเจนของตั้งแต่ร้าย (คนจน) ถึง (แห่ง)ชนิดนี้ของการให้คะแนน (ให้คะแนน Rubric)ให้คะแนน Rubric มีอยู่สามชนิด1. องค์รวม Rubrics เป็นกระบวนการให้คะแนนที่ทำงาน หรือไม่กระจัดกระจาย หรือแบ่งการให้คะแนน คือการ ประเมินประสิทธิภาพโดยรวมหรือกระบวนการในตัวเอง2 Rubrics คู่เป็นการให้คะแนนองค์ประกอบโมดูลาร์หรือคุณลักษณะการทำงานหรือกระบวนการ แล้ว คุณสมบัติแต่ละส่วน หรือส่วนประกอบรวมเป็นคะแนนรวม3. ใส่คำอธิบายประกอบรวม Rubrics evaluators จะประเมิน rubrics แบบองค์รวม และประเมินคุณลักษณะบางอย่างอื่น ๆ โมดุลค้างชำระถึงบางของนักเรียนให้คะแนนได้ง่าย และจะประเมิน rubrics แบบองค์รวมที่ใช้เพียงไม่กี่ครั้งเป็นนักศึกษาในภาพรวมแบบแรกของคุณลักษณะทั้งหมดในการดำเนินการ แบบให้คะแนนถูกใช้บ่อย โดย rubrics โกดังเพื่อประเมินแยกต่างหากแต่ละคุณลักษณะ การประเมินนี้เป็นประโยชน์เมื่อสนใจ การวิเคราะห์ช่วยให้นักเรียนทำความเข้าใจแต่ละส่วนหรือแต่ละคุณลักษณะของการดำเนินงาน หรือ ไม่ ซึ่งส่วนสำหรับครูเพื่อเพิ่ม หรือปรับปรุงการเรียนรู้ แต่ละนักเรียนยิ่งขึ้นเต็มใส่คำอธิบายประกอบ rubrics รวมข้อจำกัดแบบองค์รวม และคู่กัน เริ่มต้น ด้วยการประเมินประสิทธิภาพโดยรวม มีแบบองค์รวม และประเมินการประเมินเพียงบางคุณลักษณะของในโกดังซึ่งการประเมินเพียงบางคุณลักษณะจะไม่ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการประเมินแบบองค์รวมเป็นประโยชน์ที่จะมีการประเมินอย่างรวดเร็ว และการประเมินเป็นการประเมินคุณลักษณะเฉพาะบางอย่างที่โดดเด่นเพียงไม่กี่องค์ประกอบเพื่อสะท้อน (ติชม) นักเรียน ที่เลือก แต่ไม่มีประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องในกลุ่มที่ไม่ได้พักเนื่องจากมีประเมินคุณลักษณะทั้งหลาย(Nitko. 1996)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนบริก).
เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑ์การให้คะแนนจะถูกพัฒนาโดยครูหรือกระบวนการวิเคราะห์หรือประเมินผลนักเรียนพยายามที่จะสร้าง การประเมินผลของนักเรียนจะมีสองประเภทของผลงานจากกระบวนการของนักเรียน นักเรียนและกระบวนการนำมาใช้เพื่อให้บรรลุผล เพื่อประเมินในลักษณะใดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ คนใดคนหนึ่งจะได้รับการประเมินหรือการประเมินครูทั้งสอง ประเมินราคาต้องตัดสินคุณภาพของการทำงานหรือการปฏิบัติงานของนักเรียนแต่ละคนมีระดับที่แตกต่างกัน ความแตกต่างอาจจะเป็นคุณภาพของงานที่ได้สร้างขึ้น หรือระดับของกระบวนการที่นักเรียนแต่ละคนได้ใช้เพื่อให้บรรลุผล.
เพื่อให้สอดคล้องกับการตัดสินใจของนักเรียนแต่ละคน การประเมินจะขึ้นอยู่กับการประเมินคุณภาพของการทำงานของนักเรียน เกณฑ์ที่อาจจะมีคุณภาพหรือปริมาณ อาจจะมีระดับคะแนน (มาตราส่วน) หรือการตรวจสอบ (ตรวจสอบ) รูบริกมักจะใช้ในการประเมินวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของการปฏิบัติ แต่การดำเนินงานที่มีความซับซ้อน วัตถุประสงค์ของการประเมินนี้คือการประเมินการเรียนรู้ที่หลากหลายและประเมินหลายส่วนของการปฏิบัติ นั่นคือการประเมินจะต้องมีการให้คะแนนความอุดมสมบูรณ์ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน หรือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานในแต่ละ คะแนนอยู่ในรูปแบบของตัวเลข ซึ่งมักจะเป็น 0-3 หรือ 1-4 ในระดับของการให้คะแนนแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับระดับของคุณภาพของการทำงาน เลข 4 อาจจะเป็นตัวแทนระดับสูงสุดของคุณภาพฉบับที่ 3 เป็นผู้เยาว์ คุณภาพของแต่ละระดับจะต้องมีคำอธิบาย (รูบริก) ดังนั้นในแต่ละระดับจะต้องมีการอธิบายในภาษาที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของผลการดำเนินงานในระดับที่.
เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนรูบริก) เป็นสิ่งสำคัญ.
ประเมินศักยภาพของผู้เรียนโดยการให้ปฏิบัติได้ ไม่มีคำตอบหรือคำตอบได้อย่างชัดเจนลงไปที่คำตอบแบบทดสอบทางเลือก การประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนแต่ละคนก็มีความจำเป็นในการประเมินคุณภาพของครู มันเป็นเรื่องยากที่จะทำ และได้ค้นพบอาคารหรือเกณฑ์การให้คะแนนในการตั้งค่าแนวทางในการตัดสินอย่างเป็นธรรม เป็นกลาง
รูบริกต้องมีความชัดเจนในการให้คะแนนเพียงแค่ขนาดของทั้งสองคนสามารถใช้ประเมินรูบริกของชิ้นงานของผู้เรียนแล้วคะแนนการแข่งขัน ระดับของความสอดคล้องในการให้คะแนนของทั้งสองผู้ประเมินที่ได้รับการประเมินเป็นอิสระจากกันจะเรียกว่า ความน่าเชื่อถือ (ความน่าเชื่อถือ) คะแนน
องค์ประกอบของเกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนรูบริก).
มีหลายองค์ประกอบเกณฑ์การให้คะแนนแต่ละองค์ประกอบจะเป็นประโยชน์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญคือ.
1 ที่จะมีคุณสมบัติอย่างน้อยหนึ่งหรือหนึ่งมิติเป็นพื้นฐานสำหรับการตัดสินนักเรียน.
2 คำจำกัดความและตัวอย่างต้องมีความชัดเจนในแต่ละคุณลักษณะหรือมิติ.
มาตรา 3 คะแนนอัตราส่วนสำหรับแต่ละคุณลักษณะหรือมิติ.
4 ต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจนสำหรับระดับของการให้คะแนนในแต่ละ.
คะแนนแต่ละคนควรมีความชัดเจนในความนิยม และความกว้างของขนาดไม่ควรเกิน 6-7 ระดับถ้าระดับของความกว้างเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะตรวจสอบความแตกต่างในแต่ละระดับเช่นคะแนนความกว้างของ 100 ทำให้มันยากที่จะอธิบายในเชิงคุณภาพที่แตกต่างกัน 81 จาก 80 82 และเพื่อให้สอดคล้องของการวัดที่มีผู้ประเมินหลายคนลดลง การตรวจสอบความกว้างของการให้คะแนนคือ จะต้องมีคำนิยามที่เหมาะสมและชัดเจนของช่วงจากที่เลวร้ายที่สุด (แย่) ถึง (ดีมาก).
ชนิดนี้ของการให้คะแนน (คะแนนรูบริก).
รูบริกเกณฑ์การให้คะแนนมีสามประเภทคือ.
1 บริกแบบองค์รวมเป็นกระบวนการให้คะแนนที่ทำงานหรือไม่หรือการแยกส่วนแบ่งเกณฑ์การให้คะแนน คือการประเมินประสิทธิภาพโดยรวมหรือกระบวนการของตัวเอง.
2 บริกการวิเคราะห์มีเกณฑ์การให้คะแนนแบบแยกองค์ประกอบหรือคุณลักษณะของการทำงานหรือกระบวนการ จากนั้นแต่ละส่วนหรือคุณลักษณะองค์ประกอบรวมกันเป็นคะแนนรวม.
3 ข้อเขียนแบบองค์รวมประเมินรูบริกจะประเมินรูบริกแบบองค์รวมและประเมินคุณลักษณะบางอย่างที่โดดเด่นแบบแยกส่วนอื่น ๆ เพื่อสะท้อนให้เห็นในบางส่วนของนักเรียน.
เกณฑ์การให้คะแนนเป็นเกณฑ์ที่เรียบง่ายและแบบองค์รวมที่ใช้เพียงไม่กี่ครั้งที่นักเรียนจะได้รับการประเมินในภาพรวมที่แรกของคุณสมบัติทั้งหมดใน การดำเนินงาน รูปแบบการให้คะแนนที่มักจะถูกใช้โดยบริกการวิเคราะห์เพื่อประเมินแยกแต่ละคุณลักษณะ การประเมินนี้จะเป็นประโยชน์เมื่อมีความสนใจที่จะวินิจฉัยหรือช่วยให้นักเรียนเข้าใจกันส่วนบุคคลหรือคุณลักษณะของการดำเนินการหรือไม่ซึ่งทำให้สำหรับครูผู้สอนเพื่อเสริมสร้างหรือปรับปรุงการเรียนรู้ นักเรียนแต่ละคนให้ดียิ่งขึ้น.
บริกข้อเขียนเต็มรูปแบบที่จะรวมถึงข้อ จำกัด ของการแบบองค์รวมและการวิเคราะห์ร่วมกันเริ่มต้นด้วยการประเมินผลการปฏิบัติงานโดยรวมที่มีแบบองค์รวมและประเมินผลการประเมินของคุณเพียงบางส่วนของคุณสมบัติของการวิเคราะห์ที่ประเมินเพียงคุณสมบัติบางอย่างจะ ไม่ การเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อการประเมินแบบองค์รวมจะเป็นประโยชน์ที่จะมีการประเมินผลและการประเมินผลอย่างรวดเร็วคือการประเมินที่เลือกคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างที่โดดเด่นออกมาเพียงไม่กี่องค์ประกอบเพื่อสะท้อนให้เห็น (ความคิดเห็น) ให้กับนักเรียน แต่ไม่มีประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องในกลุ่มที่ไม่ได้มีคุณสมบัติหลายอย่างเพราะมีการประเมิน.
(Nitko. 1996)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ให้คะแนน ( คะแนนรูบริค )
คะแนนคะแนนรูบริคจะถูกพัฒนาโดยครูหรือการวิเคราะห์หรือประเมินกระบวนการ นักเรียนพยายามที่จะสร้าง การประเมินผลนักเรียนจะมีสองประเภทของเงินอุดหนุนจากกระบวนการของนักเรียน นักเรียน และกระบวนการที่ใช้เพื่อให้บรรลุผล จะประเมินในลักษณะใดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ใด ๆหนึ่งอาจจะประเมิน หรือประเมิน ทั้งครู ผู้ประเมินราคาจะต้องตัดสินคุณภาพของงานหรือการปฏิบัติงานของนักเรียนแต่ละคนด้วยระดับที่แตกต่างกัน ความแตกต่างอาจเป็นคุณภาพของงานที่ได้สร้างขึ้น หรือระดับของกระบวนการที่นักเรียนแต่ละคนได้ใช้เพื่อให้บรรลุผล
การตัดสินใจสอดคล้องกับนักเรียนแต่ละคนการประเมินจะขึ้นอยู่กับคุณภาพการประเมินงานของนักเรียน เกณฑ์อาจจะเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ อาจเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า ( Rating Scale ) หรือตรวจสอบ ( Checklist ) อุเบกขาโดยปกติจะใช้เพื่อประเมินวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของการปฏิบัติ แต่การจะซับซ้อนวัตถุประสงค์ของการประเมินนี้เป็นการประเมินการเรียนรู้ต่าง ๆและประเมินหลายส่วนของการปฏิบัติ นั่นคือการประเมินได้คะแนนมากมายเพื่อให้เหมาะกับจุดประสงค์ของการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน หรือสำหรับแต่ละส่วนของงาน โรงแรมในรูปแบบของตัวเลข นี้มักจะเป็น 0-3 หรือ 1-4 ในระดับคะแนนในแต่ละระดับจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของงานหมายเลข 4 จะแสดงระดับคุณภาพสูงสุด อันดับ 3 เป็น รอง คุณภาพของแต่ละระดับจะต้องมีคำอธิบาย ( อุเบกขา ) ดังนั้น แต่ละระดับจะต้องอธิบายในภาษาที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของงานที่ระดับ .
คะแนน ( คะแนนรูบริค ) เป็นสำคัญ ประเมินศักยภาพของผู้เรียน
โดยการให้ลงมือปฏิบัติไม่ตอบหรือตอบได้ว่าต้องเลือกคำถามคำตอบ การประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนแต่ละคน จะต้องมีการประเมินคุณภาพของครู มันเป็นเรื่องยากที่จะทำ และได้ค้นพบการสร้างรูบริกเพื่อกำหนดแนวทางหรือเกณฑ์การให้คะแนนตัดสินอย่างยุติธรรม เป็นกลาง
รูบริคจะต้องชัดเจนในการให้คะแนน เพียง ขนาดคนสองคนสามารถใช้รูบริกการประเมินชิ้นงานของผู้เรียน แล้วให้คะแนนการแข่งขัน ระดับของความสอดคล้องในการให้คะแนนของผู้ประเมิน 2 คน ประเมินเป็นอิสระของแต่ละอื่น ๆ เรียกว่า ความน่าเชื่อถือ ( ความน่าเชื่อถือ ) การประเมิน
องค์ประกอบของคะแนน ( คะแนนรูบริค ) .
มีหลายองค์ประกอบแต่ละองค์ประกอบคะแนนรูบริคมีประโยชน์เป็นองค์ประกอบสําคัญ .
1ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งในคุณลักษณะ หรือเป็นพื้นฐานสำหรับการตัดสิน 1 .
2 นิยามและตัวอย่างจะต้องชัดเจนในแต่ละคุณลักษณะ หรือมิติ .
มาตรา 3 คะแนนส่วนสำหรับแต่ละคุณลักษณะ หรือมิติ .
4 ต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจน ระดับของคะแนนแต่ละ .
แต่ละอันดับควรมีความชัดเจนในความนิยมและกว้างขนาดไม่ควรเกินหกถึงเจ็ดระดับ ถ้าระดับความกว้างเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะตรวจสอบความแตกต่างในแต่ละระดับ เช่น ความกว้างของการจัดอันดับ 100 ทำให้มันยากที่จะอธิบายถึง 81 คุณภาพแตกต่างจาก 80 หรือ 82 และสร้างความสอดคล้องของการวัดที่มีหลายระดับลดลง กำหนดความกว้างของเกณฑ์การให้คะแนนคือ .มันต้องสมเหตุสมผล และความชัดเจนของช่วงจากที่เลวร้ายที่สุด ( ยากจน ) ไปถึง ( ยอดเยี่ยม )
แบบนี้คะแนน ( คะแนนรูบริค ) .
คะแนนรูบริคมีอยู่สามชนิด .
1 รูบริคแบบองค์รวมเป็นคะแนนที่กระบวนการทำงาน หรือ ไม่แตกหรือแยกให้คะแนน เพื่อประเมินประสิทธิภาพโดยรวมหรือกระบวนการเอง .
2วิเคราะห์คะแนนรูบริคเป็น modular องค์ประกอบหรือคุณลักษณะของผลงานหรือกระบวนการ จากนั้นแต่ละส่วนหรือองค์ประกอบ คุณสมบัติ รวมกันเป็นคะแนนรวม .
3 บันทึกย่อแบบองค์รวมเมื่อผู้ประเมินจะประเมินแบบรูบริคแล้ว ประเมินอื่น ๆโมดูลที่โดดเด่นสะท้อนบางส่วนของนักเรียน .
เกณฑ์การให้คะแนนแบบรูบริคจะง่ายและใช้เพียงไม่กี่ครั้ง นักเรียนจะได้รับการประเมินในลักษณะภาพรวมของทั้งหมดในการดำเนินงาน รูปแบบการให้คะแนนโดยผู้ที่ใช้บ่อยเมื่อประเมินแยกแต่ละคุณลักษณะ การประเมินนี้จะเป็นประโยชน์เมื่อสนใจที่จะวินิจฉัย หรือช่วยให้นักเรียนเข้าใจในแต่ละส่วน หรือแต่ละลักษณะของการดำเนินงาน หรือ ไม่ซึ่งสนับสนุนให้ครูพัฒนาหรือปรับปรุงการเรียนรู้ และนักเรียนยิ่งขึ้น
เต็มแบบอเมื่อรวมข้อ จำกัด ขององค์รวม และวิเคราะห์กัน เริ่มจากการประเมินประสิทธิภาพโดยรวม กับแบบองค์รวม และประเมินการประเมินเพียงคุณลักษณะบางอย่างของการวิเคราะห์ที่ประเมินเพียงคุณลักษณะบางอย่างจะไม่การเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการประเมินแบบองค์รวมจะเป็นประโยชน์ที่จะมีการประเมินผลที่รวดเร็วและประเมิน เพื่อประเมินคัดสรรบางคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเพียงไม่กี่องค์ประกอบสะท้อน ( ความคิดเห็น ) ให้กับนักเรียน แต่ไม่มีประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องในกลุ่มที่ไม่ได้คุณลักษณะเพราะคุณสมบัติหลายจะถูกประเมิน .
( nitko . 1996 )