Uric acid, the final product of the

Uric acid, the final product of the purine metabolism, is mainly
excreted by the kidneys. Most of uric acid produced from the
catabolism is reabsorbed into the blood circulation system after
primary filtration and partial secretion by the kidney. Uric acid levels in physiological fluids serve as valuable indicators for certain
clinical conditions. Abnormal level of uric acid in blood serum leads
to several diseases such as gout, renal failure, hypertension, insulin
resistance, and metabolic syndrome [1–4]. So determination of uric
acid in serum plays an important role in laboratory medicine and
thus is routinely determined in the clinical laboratory.
Common methods for serum uric acid assay include phosphotungstate assay [5], HPLC-UV or MS [6–8] and enzymatic method
[9–12]. CL [13–18] and electrochemical [19–21] methods were used
to determine the concentration of uric acid. The phosphotungstate
assay is unreliable for accurate determination of the concentration
of uric acid due to turbidity or the presence of ascorbic acid, aspirin,
glutathione and various antibiotics [22]. Although enzymatic assays
are promising due to their high level of selectivity, but still suffer from drawbacks, including the effect of temperature, unstable
and expensive reagents, and large volumes of samples. HPCL methods have received considerable attention due to good efficiency of
separation, but they often suffer from a variety of disadvantages

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรดยูริก ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของการเผาผลาญ purine เป็นส่วนใหญ่excreted โดยไต กรดยูริกส่วนใหญ่ผลิตจากการแคแทบอลิซึมเป็น reabsorbed ในระบบไหลเวียนเลือดหลังจากกรองหลักและหลั่งบางส่วน โดยไต ระดับกรดยูริกในสรีรวิทยาของเหลวทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีสำหรับสภาวะทางคลินิก นำไปสู่ความผิดปกติระดับของกรดยูริกในเลือด serumไปหลายโรคเก็าท ไตวาย ความดันโลหิตสูง อินซูลินต้านทาน และเผาผลาญอาการ [1-4] ดังนั้นความมุ่งมั่นของ uricในซีรั่มมีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการแพทย์ และทำ เป็นประจำขึ้นอยู่ในห้องปฏิบัติการทางคลินิกวิธีวิเคราะห์กรดยูริกเซรั่มทั่วไปรวม ถึงวิเคราะห์ phosphotungstate [5], HPLC UV หรือ MS [6-8] วิธีเอนไซม์ในระบบ[9-12] ใช้ CL [13 – 18] และวิธีการทางเคมีไฟฟ้า [19-21]การกำหนดความเข้มข้นของกรดยูริก Phosphotungstateวิเคราะห์เป็นไม่น่าเชื่อถือสำหรับการกำหนดความถูกต้องของความเข้มข้นของกรดยูริกที่เกิดจากความขุ่นของน้ำหรือของกรดแอสคอร์บิค แอสไพรินกลูตาไธโอนและยาปฏิชีวนะต่าง ๆ [22] แม้ว่า assays เอนไซม์ในระบบมีสัญญาเนื่องจากระดับสูงของใว แต่ยังคง ต้องทนทุกข์ทรมานจากข้อเสีย รวมถึงผลของอุณหภูมิ เสถียรและ reagents ราคาแพง และจำนวนมากของตัวอย่าง วิธีการ HPCL ได้รับความสนใจมากเนื่องจากประสิทธิภาพที่ดีของแยก แต่พวกเขามักจะทรมานจากหลากหลายข้อเสีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรดยูริค, ผลิตภัณฑ์ในขั้นสุดท้ายของการเผาผลาญ purine
ที่เป็นส่วนใหญ่ขับออกโดยไต ส่วนใหญ่ของกรดยูริคผลิตจาก
catabolism
ถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนของเลือดหลังจากการกรองหลักและการหลั่งบางส่วนโดยไต
ระดับกรดยูริคในของเหลวในตัวชี้วัดทางสรีรวิทยาให้บริการที่มีคุณค่าสำหรับบางเงื่อนไขทางคลินิก ที่ผิดปกติของระดับกรดยูริคในเลือดที่นำไปสู่โรคต่างๆเช่นโรคเกาต์โรคไตวายความดันโลหิตสูงอินซูลินต้านทานและภาวะmetabolic syndrome [1-4] ความมุ่งมั่นดังนั้นยูริคกรดในซีรั่มที่มีบทบาทสำคัญในการแพทย์ในห้องปฏิบัติการและจึงถูกกำหนดเป็นประจำในห้องปฏิบัติการทางคลินิก. วิธีการทั่วไปสำหรับการทดสอบกรดยูริคในซีรั่มรวมถึงการทดสอบ phosphotungstate [5], HPLC-UV หรือ MS [6-8] และเอนไซม์ วิธี[9-12] CL [13-18] และไฟฟ้า [19-21] วิธีการถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบความเข้มข้นของกรดยูริค phosphotungstate ทดสอบจะไม่น่าเชื่อถือสำหรับการกำหนดความถูกต้องของความเข้มข้นของกรดยูริคอันเนื่องมาจากความขุ่นหรือการปรากฏตัวของวิตามินซี, แอสไพริน, กลูตาไธโอนและยาปฏิชีวนะต่างๆ [22] แม้ว่าการตรวจเอนไซม์มีแนวโน้มเนื่องจากระดับสูงของพวกเขาเลือกแต่ยังคงต้องทนทุกข์ทรมานจากข้อบกพร่องรวมทั้งผลกระทบของอุณหภูมิที่ไม่แน่นอนน้ำยาและมีราคาแพงและปริมาณมากของกลุ่มตัวอย่าง วิธีการ HPCL ได้รับความสนใจอย่างมากเนื่องจากประสิทธิภาพที่ดีของการแยกแต่พวกเขามักจะประสบจากความหลากหลายของข้อเสีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรดยูริก ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของโรคการเผาผลาญอาหารเป็นหลัก
ขับออกโดยไต ที่สุดของกรดยูริกผลิตจาก
แคแทบอลิซึมคือดูดซึมกลับเข้าไปในระบบหมุนเวียนโลหิตหลังการหลั่งโดยบางส่วน
การกรองที่ไต ระดับกรดยูริคในน้ำทางสรีรวิทยาเป็นตัวชี้วัดที่มีคุณค่าสำหรับเงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่าง

ระดับความผิดปกติของกรดยูริคในเลือดนัก
โรคต่าง ๆ เช่น โรคเกาต์ ไตวาย ความดันโลหิตสูง อินซูลิน
ต้านทาน และเมตาบอลิก ซินโดรม [ 1 - 1 ] ดังนั้น การหาปริมาณกรดยูริคในเลือด
มีบทบาทสำคัญในยา ห้องปฏิบัติการ และจึงถูกกำหนดใน

วิธีการทั่วไปสำหรับห้องปฏิบัติการทางคลินิก ได้แก่ การทดสอบ phosphotungstate กรดยูริกในซีรั่ม [ 5 ] , hplc-uv หรือ MS [ 6 – 8 ] และโดยวิธี
[ 9 – 12 ]CL [ 13 – 18 ] และ [ 19 ] – 21 ใช้วิธีการสัมภาษณ์
เพื่อตรวจสอบความเข้มข้นของกรดยูริก การ phosphotungstate
( ไม่น่าเชื่อถือสำหรับการกำหนดความถูกต้องของความเข้มข้นของกรดยูริค
เนื่องจากความขุ่นหรือการมีกรดแอสคอร์บิค ยาแก้ปวด และยาปฏิชีวนะต่างๆ กลูต้าไธโอน
[ 22 ] แม้ว่าเอนไซม์ )
เป็นสัญญาเนื่องจากระดับของโอกาสในการเลือกแต่ยังประสบจากข้อบกพร่อง รวมทั้งผลของอุณหภูมิเสถียร
และ สารเคมีราคาแพงและขนาดใหญ่ปริมาณของตัวอย่าง วิธีการ hpcl ได้รับความสนใจ เนื่องจากประสิทธิภาพที่ดีของ
แยกมาก แต่พวกเขามักจะประสบจากความหลากหลายของข้อเสีย