In 1843, a young student named Will

In 1843, a young student named William Ebb Ellis at Rugby school in England, seemingly tired of the restrictions placed on him during a traditional game of association football, picked up the ball and ran with it down the field. While Ellis had violated the golden rule of football, that it is illegal to touch the ball with one’s hands, the students and staff at Rugby were intrigued by the prospect of a game which involved carrying, rather than dribbling with, the ball. The result was the game we now call Rugby. By 1845, a set of rules had been developed. Large goal posts were erected on the school’s playing field, and it was decided that players who touched the ball down over the goal line would be permitted a try at goal, and would receive points for successfully kicking the ball over the cross-bar which lay between the posts.

The game of Rugby quickly increased in popularity. More schools, and later private clubs, were intrigued by the sport and leagues began to develop. The school’s invention was even exported to Canada. There are records of the sport being played at Trinity College in Montreal by the 1860s. A number of other Canadian universities followed suit and a league, played according to Rugby school rules, developed during the 1860s.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 1843 นักเรียนสาวที่ชื่อ William เอลลิสลดลงโรงเรียนรักบี้ประเทศอังกฤษ ดูเหมือนว่าเบื่อข้อจำกัดที่วางอยู่บนเขาระหว่างเกมแบบดั้งเดิมของฟุตบอล รับลูก และวิ่งลงด้วย ในขณะที่เอลลิสได้ละเมิดกฎทองของฟุตบอล ที่ไม่ถูกสัมผัสบอลของมือ นักเรียนและพนักงานรักบี้ได้ประหลาดใจ โดยโอกาสของเกมที่เกี่ยวข้องกับการถือครอง มากกว่าหยดกับ ลูก ผลคือ เกมที่เราตอนนี้โทรรักบี้ โดย 1845 ชุดของกฎที่มีการพัฒนา เสาประตูใหญ่ก็เกร็งบนฟิลด์ของเล่น และมันเป็นการตัดสินใจว่า ผู้เล่นที่สัมผัสลูกบอลลงสายเป้าหมายจะได้รับอนุญาตพยายามที่เป้าหมาย และจะได้รับคะแนนเรียบร้อยแล้วเตะลูกบอลผ่านข้ามบาร์ที่วางระหว่างโพสต์เกมรักบี้เพิ่มขึ้นในความนิยมอย่างรวดเร็ว เพิ่มเติมโรงเรียน และคลับส่วนตัวในภายหลัง ได้ประหลาดใจ โดยการเล่นกีฬา และลีเริ่มพัฒนา สิ่งประดิษฐ์ของโรงเรียนยังได้ถูกส่งออกไปแคนาดา มีระเบียนของการเล่นกีฬาที่กำลังเล่นในวิทยาลัยทรินิตี้ในมอนทรีออล โดย 1860s จำนวนมหาวิทยาลัยแคนาดาตามชุดและลีก เล่นตามกฎโรงเรียนรักบี้ พัฒนาระหว่าง 1860s

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใน 1843 นักศึกษาสาวคนหนึ่งชื่อวิลเลียม Ebb เอลลิสที่โรงเรียนรักบี้ในอังกฤษเหนื่อยดูเหมือนของข้อ จำกัด ที่วางอยู่บนเขาในเกมแบบดั้งเดิมของสมาคมฟุตบอลหยิบลูกบอลและวิ่งไปกับมันลงสนาม ในขณะที่เอลลิสได้ละเมิดกฎทองของฟุตบอลว่ามันผิดกฎหมายที่จะสัมผัสลูกบอลด้วยมือของคนนักเรียนและพนักงานที่รักบี้ถูก intrigued โดยโอกาสของเกมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการมากกว่าการเลี้ยงลูกฟุตบอลที่มีลูก ผลที่ได้คือเกมที่เราตอนนี้เรียกรักบี้ โดย 1845 ชุดของกฎได้รับการพัฒนา เสาประตูขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นที่สนามเด็กเล่นของโรงเรียนและมันก็ตัดสินใจว่าผู้เล่นที่สัมผัสลูกบอลลงไปเส้นประตูจะได้รับอนุญาตลองที่เป้าหมายและจะได้รับคะแนนสำหรับการประสบความสำเร็จในการเตะบอลข้ามแถบข้ามซึ่งวางอยู่ ระหว่างการโพสต์. เกมรักบี้ได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นในความนิยม โรงเรียนมากขึ้นและคลับส่วนตัวต่อมาได้รับความสนใจจากการเล่นกีฬาและลีกเริ่มที่จะพัฒนา การประดิษฐ์ของโรงเรียนที่ถูกส่งออกไปยังประเทศแคนาดาแม้กระทั่ง มีบันทึกของการเล่นกีฬาการเล่นที่ Trinity College ในมอนทรีออยุค 1860 โดยมี จำนวนของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในแคนาดาตามเหมาะสมและลีกเล่นตามกฎของโรงเรียนรักบี้พัฒนาขึ้นในช่วงยุค 1860

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน 1843 , นักศึกษาสาวที่ชื่อ วิลเลี่ยม ลดลงเอลลิสที่โรงเรียนรักบี้ในอังกฤษดูเหมือนจะเหนื่อยของข้อ จำกัด ที่วางอยู่บนเขาระหว่างเกมแบบดั้งเดิมของสมาคมฟุตบอล รับบอล และวิ่งลงไปสนาม ในขณะที่เอลลิสได้ละเมิดกฎทองของฟุตบอล นั่นมันผิดกฎหมายที่จะแตะบอลกับหนึ่งของมือนักเรียนและบุคลากรในรักบี้ถูก intrigued โดยโอกาสของเกมที่เกี่ยวข้องกับอุ้ม มากกว่าการเลี้ยงลูกด้วย ลูก ผลที่ได้คือเกมที่เราตอนนี้เรียกรักบี้ โดย 1845 , ชุดของกฎที่ได้รับการพัฒนา โพสต์เป้าหมายขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นบนสนามเล่นของโรงเรียน และก็ตัดสินใจว่าผู้เล่นที่ได้บอลก่อนข้ามเส้นประตูจะอนุญาตให้ลองที่เป้าหมายและจะได้รับคะแนนสำหรับการประสบความสำเร็จในการเตะบอลข้ามคานที่วางระหว่างโพสต์

แข่งรักบี้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นในความนิยม โรงเรียนมากขึ้น และสโมสรเอกชน ต่อมาถูก intrigued โดยกีฬาลีกเริ่มที่จะพัฒนา ของโรงเรียนประดิษฐ์ถูกส่งออกไปยังแคนาดา มีประวัติของการเล่นกีฬาที่มีการเล่นที่วิทยาลัยทรินิตี้ในมอนทรีออล โดย 1860s .หมายเลขของแคนาดามหาวิทยาลัยอื่น ๆตามเหมาะสมและลีกที่เล่นตามกฎโรงเรียนรักบี้ที่พัฒนาขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1840 .