Why do exploratory research designs

Why do exploratory research designs rely so much on qualitative research techniques


Exploratory research is research conducted for a problem that has not been clearly defined. It often occurs before we know enough to make conceptual distinctions or posit an explanatory relationship.[1] Exploratory research helps determine the best research design, data collection method and selection of subjects. It should draw definitive conclusions only with extreme caution. Given its fundamental nature, exploratory research often concludes that a perceived problem does not actually exist.

Exploratory research often relies on secondary research such as reviewing available literature and/or data, or qualitative approaches such as informal discussions with consumers, employees, management or competitors, and more formal approaches through in-depth interviews, focus groups, projective methods, case studies or pilot studies. The Internet allows for research methods that are more interactive in nature. For example, RSS feeds efficiently supply researchers with up-to-date information; major search engine search results may be sent by email to researchers by services such as Google Alerts; comprehensive search results are tracked over lengthy periods of time by services such as Google Trends; and websites may be created to attract worldwide feedback on any subject.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทำไมไม่ออกแบบการวิจัยเชิงบุกเบิกใช้มากในเทคนิคการวิจัยเชิงคุณภาพหรือไม่การวิจัยเชิงบุกเบิกวิจัยที่ดำเนินการสำหรับปัญหาที่ไม่ชัดเจนกำหนดไว้ได้ มันมักจะเกิดขึ้นก่อนที่เรารู้เพียงพอที่จะทำให้แนวคิดความ หรือ posit ความสัมพันธ์อธิบาย [1] เชิงบุกเบิกวิจัยช่วยกำหนดออกแบบวิจัยที่ดีที่สุด วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และตัวเลือกเรื่อง มันควรวาดบทสรุปทั่วไประวังมาก กำหนดลักษณะพื้นฐาน การวิจัยเชิงบุกเบิกมักจะสรุปว่า ปัญหาในการรับรู้ไม่มีอยู่จริงการวิจัยเชิงบุกเบิกมักจะอาศัยการวิจัยรองเช่นทบทวนวรรณกรรมว่าง และ/หรือข้อมูล หรือวิธีเชิงคุณภาพเช่นการสนทนากับผู้บริโภค พนักงาน การจัดการ หรือคู่แข่งเป็น และเป็นทางการเพิ่มเติมยื่นผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มโฟกัส วิธีการ projective กรณีศึกษา หรือการศึกษานำร่อง อินเทอร์เน็ตช่วยให้วิธีการวิจัยที่มากขึ้นโต้ตอบในธรรมชาติ ตัวอย่าง RSS ตัวดึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพจัดหานักวิจัย มีข้อมูลที่ทันสมัย ผลการค้นหาเครื่องมือค้นหาสำคัญที่อาจถูกส่ง โดยอีเมลเพื่อนักวิจัย โดยบริการเช่น Google แจ้งเตือน ผลการค้นหาครอบคลุมถูกติดตามผ่านระยะยาวเวลา โดยบริการเช่น Google แนวโน้ม และเว็บไซต์อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดความคิดเห็นทั่วโลกในเรื่องใด ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทำไมการออกแบบการวิจัยสำรวจพึ่งพามากเกี่ยวกับเทคนิคการวิจัยเชิงคุณภาพการวิจัยเชิงสำรวจมีการวิจัยที่ดำเนินการสำหรับปัญหาที่ไม่ได้รับการกำหนดไว้อย่างชัดเจน มันมักจะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะรู้ว่าพอที่จะทำให้ความแตกต่างทางความคิดหรือความสัมพันธ์ที่วางตัวอธิบาย. [1] การวิจัยเชิงสำรวจจะช่วยตรวจสอบการออกแบบการวิจัยที่ดีที่สุดวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลและการเลือกของอาสาสมัคร มันควรจะวาดข้อสรุปที่ชัดเจนเท่านั้นที่มีความระมัดระวังมาก กำหนดลักษณะพื้นฐานของการวิจัยสำรวจมักจะสรุปว่าปัญหาการรับรู้ไม่ได้มีอยู่จริง. การวิจัยเชิงสำรวจมักจะอาศัยการวิจัยรองเช่นการทบทวนวรรณกรรมที่มีอยู่และ / หรือข้อมูลหรือวิธีการเชิงคุณภาพเช่นการอภิปรายไม่เป็นทางการกับผู้บริโภคพนักงานการจัดการหรือคู่แข่ง และอื่น ๆ วิธีการอย่างเป็นทางการผ่านการสัมภาษณ์ในเชิงลึกกลุ่มวิธีการ projective กรณีศึกษาหรือการศึกษานำร่อง อินเทอร์เน็ตช่วยให้วิธีการวิจัยที่มีการโต้ตอบมากขึ้นในธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น RSS ฟีดได้อย่างมีประสิทธิภาพจัดหานักวิจัยที่มี up-to-date ข้อมูล; ผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาที่สำคัญอาจถูกส่งไปทางอีเมลที่นักวิจัยโดยการให้บริการเช่น Google Alerts; ผลการค้นหาที่ครอบคลุมมีการติดตามในช่วงเวลาที่มีความยาวของเวลาโดยการให้บริการเช่น Google แนวโน้ม; และเว็บไซต์ที่อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดความคิดเห็นทั่วโลกในเรื่องใด ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำไมเครื่องมือการออกแบบการวิจัยอาศัยมากในการวิจัยเชิงคุณภาพเทคนิค


สำรวจวิจัยวิจัยสำหรับปัญหาที่ไม่ได้มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน . มันมักจะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะรู้พอที่จะทำให้มีความแตกต่างหรือมีความสัมพันธ์การวางตัว [ 1 ] การวิจัยเชิงบุกเบิกช่วยตรวจสอบการออกแบบการวิจัยที่ดีที่สุดวิธีเก็บข้อมูลและการเลือกวิชา มันควรจะวาดข้อสรุปที่ชัดเจนเพียงระมัดระวัง ให้ธรรมชาติพื้นฐานของการวิจัยเชิงบุกเบิกมักพบว่า การรับรู้ปัญหา ไม่ได้มีอยู่จริง สำรวจ วิจัยบ่อยๆ

ต้องอาศัยการวิจัย เช่น การทบทวนวรรณกรรมมัธยมศึกษาที่มีอยู่และ / หรือข้อมูลหรือวิธีการเชิงคุณภาพ เช่น การสนทนาอย่างไม่เป็นทางการกับผู้บริโภค พนักงาน การจัดการ หรือคู่แข่ง และเป็นทางการมากกว่าวิธีการสัมภาษณ์เจาะลึก การสนทนากลุ่ม วิธีการ ประสบการณ์ กรณีศึกษาหรือการศึกษานำร่อง อินเทอร์เน็ตช่วยให้การวิจัยวิธีการที่จะโต้ตอบมากขึ้นในธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น , RSS ฟีดได้อย่างมีประสิทธิภาพผลิตนักวิจัยที่มีข้อมูลที่ทันสมัย ;ที่สำคัญเครื่องมือค้นหาผลการค้นหาอาจจะส่งทางอีเมล์ให้นักวิจัยโดยบริการเช่น Google การแจ้งเตือน ; ผลลัพธ์การค้นหาที่ครอบคลุมมีการติดตามมากกว่าช่วงเวลาที่ยาวมาก โดยบริการเช่น Google แนวโน้ม และเว็บไซต์ที่อาจจะสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดความคิดเห็นทั่วโลกในเรื่องใด ๆ