The activity of Cinnamomum zeylanic

The activity of Cinnamomum zeylanicum Nees essential oil (cinnamon oil) against Paenibacillus larvae (Withe) was evaluated in
the laboratory and in a field experiment in order to improve the biological control of the Apis mellifera L. disease American foulbrood
(AFB). The MICs (Minimal Inhibitory Concentration) against P. larvae were determined by the tube dilution method. Bee
lethality was estimated using cages with approximately 374 bees, fed with the essential oil at different concentrations diluted in
ethanolic syrup. The security index was calculated as LD50 of A. mellifera/MIC of P. larvae strain at 24, 48 and 72 h in both
tests. The apiary trial, using three groups of five hives each, was carried out in April-May 2006 in an experimental apiary of J. J.
Nágera coastal station (Mar del Plata, Argentine). The first group was treated with cinnamon oil (two doses of 1000 μg/ml per
hive), the second with oxytracycline-HCl (three doses of 0.4 g per hive) and the third was left untreated as a control. All of the
treatments were performed at 7-day intervals. The evaluation of treatment efficacy was made by counting the number of infected
brood cells in both sides of a central comb, using a brood surface of 360 cm2 (18 x 20 cm). For the Mar del Plata AFB strain the
C. zeylanicum essential oil and antibiotic MICs were 50 μg/ml and 3.125 μg/ml, respectively. Regarding the systemic administration
method, bees LD50 at 24 h was 456.07 μg of essential oil of cinnamon/bee. LD50 estimated at 48 h showed a slight decrease
with respect to that recorded at 24 h. Security index was 9.1214 (ml/bee) for 24 h. In relation with field trials, after 24 and 31 days
from the beginning of treatments the cinnamon oil-treated hives showed a lesser incidence of infected larvae (7.89% and 52.42%)
than the control group highlighting a clear efficient control. No significant differences between the two treated groups were recorded.
These results represent a further proof of the potential of cinnamon oil to control American Foulbrood with only minor
toxicological risks to bees. Furthermore, the use of cinnamon oil avoids problems with antibiotic residues in honey. This is important
in marketing honey in the EU where antibiotics in honey are generally forbidden by law.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีประเมินกิจกรรมของ Cinnamomum zeylanicum Nees น้ำมัน (น้ำมันอบเชย) กับตัวอ่อน Paenibacillus (วิธ) ในห้องปฏิบัติการ และทดลองฟิลด์เพื่อปรับปรุงการควบคุมทางชีวภาพการ Apis mellifera L. โรคอเมริกัน foulbrood(AFB) MICs (ลิปกลอสไขเข้มข้นน้อย) กับตัวอ่อน P. ถูกกำหนด โดยวิธีเจือจางหลอด ผึ้งlethality ถูกประเมินโดยใช้กรงกับผึ้งประมาณ 374 เลี้ยง ด้วยน้ำมันที่ผสมในความเข้มข้นแตกต่างกันน้ำ ethanolic มีคำนวณดัชนีความปลอดภัยเป็น LD50 A. mellifera/MIC ของต้องใช้ตัวอ่อน P. ที่ 24, 48 และ 72 h ทั้งทดสอบ Apiary ทดลองใช้ ใช้กลุ่ม 5 กลุ่มแต่ละ ถูกดำเนินการในเดือนเมษายน 2006 พฤษภาคมใน apiary การทดลองของเจ.เจNágera ชายฝั่งสถานี (ดอส อาร์เจนตินา) กลุ่มแรกได้รับน้ำมันอบเชย (สองปริมาณของ μg 1000/ml ต่อกลุ่ม), สอง (สามปริมาณของ 0.4 ต่อกลุ่ม) ของ HCl ใน oxytracycline และที่สามเป็นซ้ายไม่ถูกรักษาเป็นตัวควบคุม ทั้งหมดนี้รักษาได้ดำเนินการในช่วงเวลา 7 วัน การประเมินประสิทธิภาพการรักษาทำ โดยการนับจำนวนการติดเชื้อเซลล์ในทั้งสองด้านของหวีกลาง ใช้พื้นผิวของ 360 cm2 brood brood (18 x 20 ซม.) สำหรับสายพันธุ์มาร์เดลพลา AFBC. zeylanicum น้ำมันและยาปฏิชีวนะ MICs ได้ 3.125 μg/ml และ μg 50 ml ตามลำดับ เกี่ยวกับการจัดการระบบวิธี ผึ้ง LD50 ที่ 24 ชม μg 456.07 ของน้ำมันหอมระเหยอบเชย/ผึ้ง LD50 ประมาณที่ h 48 พบว่าลดลงเล็กน้อยกับที่บันทึกไว้ที่ 24 h. ปลอดภัย ดัชนีถูก 9.1214 (ml/บี) ใน 24 ชม ในความสัมพันธ์กับฟิลด์ทดลอง หลังจากวันที่ 24 และ 31จากจุดเริ่มต้นของการรักษา ลมพิษถือว่าน้ำมันอบเชยพบอุบัติการณ์น้อยกว่าของตัวอ่อนที่ติดไวรัส (7.89% และ 52.42%)กว่ากลุ่มควบคุมที่เน้นการควบคุมมีประสิทธิภาพชัดเจน ไม่แตกต่างกันระหว่างสองกลุ่มบำบัดถูกบันทึกผลเหล่านี้แสดงหลักฐานเพิ่มเติมศักยภาพของน้ำมันอบเชยเพื่อควบคุม Foulbrood อเมริกันวิชารองเท่านั้นความเสี่ยงที่ toxicological กับผึ้ง นอกจากนี้ การใช้อบเชยหลีกเลี่ยงปัญหายาปฏิชีวนะตกค้างในน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในน้ำผึ้งที่ตลาดในสหภาพยุโรปที่ยาปฏิชีวนะในน้ำผึ้งได้โดยทั่วไปห้ามตามกฎหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กิจกรรมของ Cinnamomum zeylanicum โจรน้ำมันหอมระเหย (น้ำมันอบเชย) กับ Paenibacillus ตัวอ่อน (วิ ธ ) ได้รับการประเมินใน
ห้องปฏิบัติการและในการทดลองภาคสนามเพื่อที่จะปรับปรุงการควบคุมทางชีวภาพของ Apis mellifera L. โรค foulbrood อเมริกัน
(AFB) MICs (ความเข้มข้นน้อยที่สุด) กับ P. ตัวอ่อนได้รับการพิจารณาโดยวิธีเจือจางหลอด ผึ้ง
ตายเป็นที่คาดกันโดยใช้กรงประมาณ 374 ผึ้งที่เลี้ยงด้วยน้ำมันหอมระเหยที่ความเข้มข้นที่แตกต่างกันเจือจางใน
น้ำเชื่อมเอทานอล ดัชนีการรักษาความปลอดภัยได้รับการคำนวณเป็น LD50 ของ A. mellifera / MIC ของสายพันธุ์ตัวอ่อน P. ที่ 24, 48 และ 72 ชั่วโมงทั้งใน
การทดสอบ ทดลองเลี้ยงผึ้งโดยใช้กลุ่มที่สามในห้าของลมพิษแต่ละได้รับการดำเนินการในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมปี 2006 ในการทดลองเลี้ยงผึ้ง JJ
สถานีชายฝั่ง NAGERA (Mar del Plata, อาร์เจนตินา) กลุ่มแรกได้รับการรักษาด้วยน้ำมันอบเชย (สองขนาด 1000 ไมโครกรัม / มิลลิลิตรต่อ
รัง) ที่สองกับ oxytracycline-HCl (สามขนาด 0.4 กรัมต่อกลุ่ม) และคนที่สามที่เหลือได้รับการรักษาเป็นตัวควบคุม ทั้งหมดของ
การรักษาที่ได้ดำเนินการในช่วงเวลา 7 วัน การประเมินประสิทธิภาพในการรักษาที่ถูกสร้างขึ้นโดยการนับจำนวนของที่ติดเชื้อ
เซลล์ลูกในทั้งสองด้านของหวีกลางโดยใช้พื้นผิวลูก 360 cm2 (18 x 20 ซม) สำหรับสายพันธุ์ Mar del Plata AFB
C. zeylanicum น้ำมันหอมระเหยและ MICs ยาปฏิชีวนะได้ 50 ไมโครกรัม / มิลลิลิตรและ 3.125 ไมโครกรัม / มิลลิลิตรตามลำดับ เกี่ยวกับการบริหารระบบ
วิธีผึ้ง LD50 เวลา 24 ชั่วโมงเป็น 456.07 ไมโครกรัมต่อน้ำมันหอมระเหยของอบเชย / ผึ้ง LD50 ประมาณ 48 ชั่วโมงพบว่าลดลงเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับที่บันทึกไว้ในเวลา 24 ชั่วโมง ดัชนีการรักษาความปลอดภัยเป็น 9.1214 (มิลลิลิตร / ผึ้ง) เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ในส่วนที่เกี่ยวกับการทดลองสนามหลังจากที่ 24 และ 31 วัน
จากจุดเริ่มต้นของการรักษาลมพิษอบเชยน้ำมันที่ได้รับแสดงให้เห็นว่าอัตราการเกิดน้อยกว่าตัวอ่อนที่ติดเชื้อ (7.89% และ 52.42%)
กว่ากลุ่มควบคุมที่เน้นการควบคุมที่มีประสิทธิภาพชัดเจน ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างทั้งสองกลุ่มได้รับการรักษาที่ถูกบันทึก
ผลการทดลองนี้แสดงหลักฐานเพิ่มเติมถึงศักยภาพของน้ำมันอบเชยในการควบคุมอเมริกัน Foulbrood มีเพียงเล็กน้อย
ความเสี่ยงทางพิษวิทยาผึ้ง นอกจากนี้การใช้น้ำมันอบเชยหลีกเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับยาปฏิชีวนะตกค้างในน้ำผึ้ง นี้เป็นสิ่งสำคัญ
ในน้ำผึ้งตลาดในสหภาพยุโรปที่ยาปฏิชีวนะในน้ำผึ้งเป็นสิ่งต้องห้ามโดยทั่วไปกฎหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กิจกรรมของประตูหมุนของน้ำมัน ( น้ำมันอบเชย ) กับ paenibacillus ตัวอ่อน ( วิธ ) ทดลองในห้องปฏิบัติการ
และในแปลงทดลองเพื่อปรับปรุงการควบคุมทางชีววิทยาของผึ้งพันธุ์ โรคอเมริกันฟาวล์บรูด
( AFB ) ไมค์ ( น้อยเจริญสมาธิ ) กับหน้าหนอนถูกกำหนดโดยหลอด ( วิธี ผึ้ง
ไรสีน้ำตาลประมาณใช้กรงที่มีประมาณ 374 ผึ้งเลี้ยงด้วยน้ำมันหอมระเหยที่ความเข้มข้นต่างๆ
( เจือจางในน้ำเชื่อม ดัชนีหลักทรัพย์คำนวณเป็น ld50 ของ A . mellifera / MIC หน้าหนอนสายพันธุ์ที่ 24 , 48 และ 72 ชั่วโมงในการทดสอบทั้งสอง

การ ที่ทดลองใช้สามกลุ่มห้า ลมพิษแต่ละ ได้ดําเนินการในเดือนเมษายนพฤษภาคม 2006 ใน ที่ทดลองของ เจ. เจ.
n . kgm เกราชายฝั่งสถานี ( Mar del Plata อาร์เจนตินา , ) กลุ่มแรกที่ได้รับการรักษาด้วยน้ำมันอบเชย ( สอง doses ของ 1000 μกรัม / มล. ต่อ
รัง ) , 2 ( 3 , oxytracycline HCL 0.4 กรัมต่อรัง ) และสาม เป็นซ้ายไม่ถูกรักษาเป็นตัวควบคุม ทั้งหมดของการรักษาที่ 7
ได้เป็นระยะ ๆ การประเมินประสิทธิภาพการรักษาทำโดยการนับจำนวนที่ติดเชื้อ
กกเซลล์ในทั้งสองด้านของหวีกลางใช้ฟักพื้นผิวของ 360 ตร. ซม. ( 18 x 20 ซม. ) สำหรับ Mar del Plata AFB เครียด
C . ศรีลังกาน้ำมันหอมระเหย ใช้ไมค์ได้ 50 μ g / ml และμ 31.25 กรัม / มิลลิลิตร ตามลำดับ เกี่ยวกับวิธีการระบบการบริหาร
ผึ้ง ld50 24 H คือ 456.07 μกรัมของน้ำมันหอมระเหยจากอบเชย / ผึ้ง ld50 ประมาณ 48 ชั่วโมงโชว์
ลดลงเล็กน้อยด้วยความเคารพ การรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ที่บันทึกไว้ที่ดัชนีอยู่ 9.1214 ( ml / ผึ้ง ) เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทดลองด้านหลัง 24 และ 31 วัน
จากจุดเริ่มต้นของการรักษาอบเชยน้ำมันรักษาลมพิษพบอุบัติการณ์น้อยกว่าตัวอ่อนติดเชื้อ ( 7.89 % และ 52.42
% ) มากกว่ากลุ่มควบคุม เน้นการควบคุม ที่มีประสิทธิภาพที่ชัดเจน ไม่มีความแตกต่างระหว่างสองกลุ่มที่ถูกบันทึกไว้ .
ผลลัพธ์เหล่านี้แสดงหลักฐานเพิ่มเติมศักยภาพของน้ำมันอบเชยเพื่อควบคุมอเมริกันฟาวล์บรูดเพียงเล็กน้อย
พิษวิทยาต่อผึ้ง นอกจากนี้ การใช้น้ำมันอบเชยเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหายาปฏิชีวนะตกค้างในน้ำผึ้ง นี้เป็นสิ่งสำคัญ
ในน้ำผึ้งการตลาดในสหภาพยุโรปที่ยาปฏิชีวนะในน้ำผึ้งโดยทั่วไปจะต้องห้ามตามกฎหมาย