Import substitution industrializati

Import substitution industrialization (ISI) led to significant structural changes in the Latin American economies in the post-World War II era, with the manufacturing sector expanding its share of GDP between 1950 (when it was 19.6%) and 1967 (24.1%). Structural change was particularly significant in the case of Brazil, where industry increased its share in the economy from 19.8% in 1947 to 28% by 1968. In the second half of the 1950s, the Brazilian government enacted a series of policies intended to industrialize the economy. The government gave special attention to industries considered basic for economic growth, specifically the automobile, cement, steel, aluminum, cellulose, heavy machinery, and chemical industries. As a result of ISI, the Brazilian economy experienced rapid growth and diversification. Between 1950 and 1961, the average annual rate of growth in the GDP exceeded 7%, with industry having an average annual growth rate of 9% between 1950 and 1961, compared to 4.5% for agriculture (Hudson 1997). In addition, the structure of the manufacturing sector experienced considerable change. Traditional industries, such as textiles, food products, and clothing, declined, while the transport equipment, machinery, electric equipment and appliances, and chemical industries expanded.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุตสาหกรรมทดแทนการนำเข้า (ISI) นำไปสู่​​การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างมีนัยสำคัญในประเทศละตินอเมริกาในการโพสต์โลกยุคสงครามโลกครั้งที่สองกับภาคการผลิตขยายส่วนแบ่งของจีดีพีระหว่าง 1950 (ตอนที่มันเป็น 19.6%) และ 1,967 (24.1%) การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของบราซิลที่อุตสาหกรรมการเพิ่มส่วนแบ่งในเศรษฐกิจจาก 198% ในปี 1947 28% 1968 ในช่วงครึ่งหลังของปี 1950 ที่รัฐบาลบราซิลประกาศใช้ชุดของนโยบายที่ตั้งใจจะเป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ รัฐบาลให้ความสนใจเป็นพิเศษกับอุตสาหกรรมถือว่าเป็นพื้นฐานสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะรถยนต์, ซีเมนต์, เหล็ก, อลูมิเนียมเซลลูโลสเครื่องจักรหนักและอุตสาหกรรมเคมี เป็นผลมาจากเอส,เศรษฐกิจบราซิลประสบการณ์การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและความหลากหลาย ระหว่างปี 1950 และปี 1961 อัตราเฉลี่ยของการเจริญเติบโตของจีดีพีเกิน 7% กับอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 9% ระหว่างปี 1950 และปี 1961 เทียบกับ 4.5% เพื่อการเกษตร (ฮัดสัน 1997) นอกจากนี้โครงสร้างของภาคการผลิตที่มีประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงมาก อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมเช่นสิ่งทอผลิตภัณฑ์อาหารและเสื้อผ้าปรับตัวลดลงในขณะที่อุปกรณ์การขนส่งเครื่องจักรอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเคมีขยายตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นำทวีความรุนแรงแทนมาก (ISI) นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่สำคัญในประเทศละตินอในยุคสงครามโลกหลัง กับภาคการผลิตที่ขยายส่วนแบ่งของ GDP ระหว่าง 1950 (เมื่อมันเป็น 19.6%) และ 1967 (24.1%) เปลี่ยนแปลงโครงสร้างสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของบราซิล ที่อุตสาหกรรมเพิ่มส่วนแบ่งในเศรษฐกิจจาก 198% ใน 28% โดย 1968 ในครึ่งหลังของทศวรรษ 1950 รัฐบาลบราซิลปีชุดนโยบายที่ตั้งใจ industrialize เศรษฐกิจ รัฐบาลให้ความสนใจพิเศษเพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมโดยเฉพาะในรถยนต์ ปูนซีเมนต์ เหล็ก อลูมิเนียม เซลลูโลส เครื่องจักรหนัก และอุตสาหกรรมเคมี จาก ISI เศรษฐกิจบราซิลมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและวิสาหกิจ ระหว่างปี 1950 และ 1961 อัตราเจริญเติบโตของจีดีพีปีเฉลี่ยเกิน 7% มีอุตสาหกรรมที่มีการเฉลี่ยรายปีอัตราการเติบโต 9% ระหว่างปี 1950 และ 1961 เมื่อเทียบกับ 4.5% สำหรับการเกษตร (ฮัดสันปี 1997) นอกจากนี้ โครงสร้างของภาคการผลิตมีประสบการณ์เปลี่ยนแปลงมาก อุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่นสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์อาหาร เสื้อผ้า ปฏิเสธ ในขณะอุปกรณ์ขนส่ง เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมเคมีขยาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำให้เป็นอุตสาหกรรมผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า( isi )นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างมีนัยสำคัญในระบบเศรษฐกิจละตินอเมริกาในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองพร้อมด้วยการผลิต ภาค อุตสาหกรรมขยายตัวร่วมกันของประเทศ( GDP )ระหว่างปี 1950 (เมื่อมี 19.6% )และปี 1967 (จะเพิ่มขึ้น 24.1% ) การเปลี่ยนโครงสร้างเป็นสำคัญโดยเฉพาะในกรณีของบราซิลที่อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในระบบเศรษฐกิจได้จาก 198% ในปี 1947 ถึง 28% ในปี 1968 . ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 1950 ที่รัฐบาลบราซิลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯชุดของนโยบายเพื่อทำให้เป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษได้รับการพิจารณาให้เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะรถยนต์ปูนซีเมนต์เหล็กอะลูมิเนียมเซลลูโลสเครื่องจักรหนักและอุตสาหกรรมเคมี เป็นผลมาจาก isiเศรษฐกิจบราซิลที่มีประสบการณ์และการเติบโตอย่างรวดเร็ว ระหว่างปี 1950 และปี 1961 อัตราเฉลี่ยต่อปีของการเติบโตในประเทศ( GDP )ที่เพิ่มขึ้นเกินกว่า 7% โดยอุตสาหกรรมมีอัตราการเติบโตต่อปีโดยเฉลี่ยที่ 9% ระหว่างปี 1950 และปี 1961 เมื่อเทียบกับ 4.5% สำหรับการทำเกษตรกรรม( Hudson 1997 ) นอกจากนี้ยังอยู่ในโครงสร้างของการผลิต ภาค อุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์เปลี่ยนมาก อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมเช่นสิ่งทอเสื้อผ้าและ ผลิตภัณฑ์ อาหารลดลงในขณะที่การขนส่งอุปกรณ์เครื่องจักรอุปกรณ์และอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเคมีขยายตัว