“We are really serious about its ne

“We are really serious about its need to contribute to our safety and future security.”Australian foreign minister Julie Bishop said Australia’s post-2020 target would be “strong, credible, responsible and consistent with continued economic growth, jobs growth and development.”“We expect all nations to set responsible and achievable targets,” she said.
In releasing its targets the Marshall Islands’ government said it was the first small island state to set out post-2020 emissions goals, and the first developing country to pledge an economy-wide cut to emissions.
It also said it wanted countries to set target for 2025, not 2030, to avoid locking in long-term “insufficient ambition”. The Marshall Islands government also says it will go on to aim for a 45% cut to emissions by 2030 as part its long-term vision to be emissions-free by 2050.
Bishop said Australia was currently considering its target year along with its overall target. She said: “The majority of nations are aiming for a 2030 target.”
The Marshalls’ target is not much more than symbolic in the context of global emissions.
Data on Marshall Island’s emissions is patchy, but the World Bank has reported that in 2010 the nation released 103,000 tonnes of of carbon dioxide, which is the most prevalent, but only one, greenhouse gas.
On the same data, and by comparison, China released 8.2bn tonnes of CO2, while Australia released 368m tonnes.
Research from the University of New England this monthfound 98% of Marshall Island’s built infrastructure is within 500 metres of the coast line, making it highly vulnerable to existing and future climate threats.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"เราเป็นจริงจังกับความต้องการที่จะนำไปสู่ความปลอดภัยและความปลอดภัยในอนาคตของเรา" รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียจูลี่บาทหลวงกล่าวว่า เป้าหมายของออสเตรเลียประกาศ-2020 จะ "แข็งแกร่ง ความน่าเชื่อถือ ความรับผิดชอบ และสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง งานเจริญเติบโต และการพัฒนา" " เราคาดว่าทุกประเทศจะกำหนดเป้าหมายผู้รับผิดชอบ และทำได้ เธอกล่าวในการนำเป้าหมายของ รัฐบาลเกาะมาร์แชลกล่าวว่า รัฐแก่งแรกตั้งเป้าหมายปล่อยลง-2020 และประเทศแรกที่พัฒนาเพื่อตัดทั้งเศรษฐกิจการให้คำแนะนำการปล่อยมันยังว่า มันต้องการประเทศในการตั้งเป้าหมายสำหรับ 2025 ไม่ปี 2030 เพื่อหลีกเลี่ยงการล็อคในระยะยาว "ไม่เพียงพอความใฝ่ฝัน" รัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชลล์ยังกล่าวว่า มันจะไปปอง 45% ตัดปล่อยปี 2030 เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ระยะยาวจะปล่อยฟรีภายในปี 2050 บาทหลวงกล่าวว่า ออสเตรเลียถูกพิจารณาเป็นปีเป้าหมายกับเป้าหมายโดยรวมของ เธอกล่าวว่า: "ส่วนใหญ่ของประเทศมุ่งเป้าหมายปี 2030 การ"เป้าหมายการนำสัญลักษณ์มากกว่าในบริบทของสากลปล่อยไม่ได้ข้อมูลการปล่อยเกาะมาร์แชลล์เป็นรำลึก แต่ธนาคารโลกได้รายงานว่า ในปี 2553 ประเทศออก 103,000 ตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นที่แพร่หลายมากที่สุด แต่เพียงหนึ่ง ก๊าซเรือนกระจกในข้อมูลเดียวกัน และ โดยการเปรียบเทียบ จีนออก 8.2bn ตันของ CO2 ในขณะที่ออสเตรเลียออก 368 ตัน mวิจัยจากมหาวิทยาลัยของนิวอิงแลนด์ monthfound นี้ 98% ของเกาะมาร์แชลล์สร้างโครงสร้างพื้นฐานอยู่ฝั่ง 500 เมตรทำให้มีความเสี่ยงสูงการคุกคามด้านสภาพภูมิอากาศที่มีอยู่ และในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"เราจริงๆร้ายแรงเกี่ยวกับความจำเป็นในการมีส่วนร่วมเพื่อความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยของเราในอนาคต." รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียจูลี่บิชอปกล่าวว่าออสเตรเลียเป็นเป้าหมายการโพสต์ 2020 จะเป็น "ที่แข็งแกร่งน่าเชื่อถือมีความรับผิดชอบและมีความสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของการเจริญเติบโตของการจ้างงานและการพัฒนา." "เราคาดว่าทุกประเทศที่จะกำหนดเป้าหมายที่รับผิดชอบและทำได้" เธอกล่าว.
ในการปล่อยเป้าหมายของรัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชลล์กล่าวว่ามันเป็นรัฐแรกที่เกาะเล็ก ๆ ที่จะตั้งค่าการปล่อยมลพิษออกมาโพสต์-2020 เป้าหมายและประเทศที่กำลังพัฒนาเป็นครั้งแรกไปจำนำ ตัดเศรษฐกิจทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจก.
นอกจากนี้ยังกล่าวว่าอยากให้ประเทศที่จะตั้งค่าเป้าหมายสำหรับปี 2025 ไม่ได้ในปี 2030 ที่จะหลีกเลี่ยงการล็อคในระยะยาว "ความทะเยอทะยานไม่เพียงพอ" รัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชลล์ยังกล่าวว่าจะไปในที่ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อลด 45% ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2030 เป็นส่วนหนึ่งวิสัยทัศน์ระยะยาวที่จะเป็นการปล่อยฟรีภายในปี 2050
บิชอปกล่าวว่าออสเตรเลียขณะพิจารณาปีเป้าหมายของตนพร้อมกับเป้าหมายโดยรวม . เธอกล่าวว่า ". ส่วนใหญ่ของประเทศที่กำลังเล็งสำหรับ 2030 เป้าหมาย"
. เป้าหมายมาร์แชล 'ไม่ได้มากขึ้นกว่าที่เป็นสัญลักษณ์ในบริบทของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก
ข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยมาร์แชลล์เกาะเป็นหย่อม แต่ธนาคารโลกได้รายงานว่าในปี 2010 ประเทศที่ออก 103,000 ตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นที่แพร่หลายมากที่สุด แต่เพียงหนึ่งก๊าซเรือนกระจก.
เกี่ยวกับข้อมูลเดียวกันและโดยเปรียบเทียบจีนออก 8.2bn ตัน CO2 ในขณะที่ออสเตรเลียได้รับการปล่อยตัว 368m ตัน.
การวิจัยจากมหาวิทยาลัย นิวอิงแลนด์ monthfound นี้ 98% ของโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นเกาะมาร์แชลล์คือภายใน 500 เมตรจากแนวชายฝั่งทำให้มันสูงเสี่ยงต่อภัยคุกคามของสภาพภูมิอากาศที่มีอยู่และในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" เราจริงจังกับมันต้องมีส่วนร่วมเพื่อความปลอดภัยและความปลอดภัยของเราในอนาคต " รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า เป้าหมาย post-2020 จูลี่บิชอปของออสเตรเลียจะเป็น " แข็งแรง น่าเชื่อถือ มีความรับผิดชอบและสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง งานพัฒนาการและการเจริญเติบโต . " " เราคาดหวังให้ทุกประเทศเพื่อกำหนดความรับผิดชอบและ achievable เป้าหมาย , " เธอกล่าว .
ในการปล่อยเป้าหมายของหมู่เกาะมาร์แชล ' รัฐบาลกล่าวว่ามันเป็นครั้งแรกบนเกาะเล็กๆ รัฐเตรียมออก post-2020 ปล่อยเป้าหมายและเป็นครั้งแรกในการพัฒนาประเทศของสัญญาเศรษฐกิจกว้างตัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก .
มันยังบอกว่ามันอยากให้ประเทศเพื่อกำหนดเป้าหมายสำหรับ 2025 , 2030 , เพื่อหลีกเลี่ยงการล็อคในระยะยาว " มีความทะเยอทะยาน "หมู่เกาะมาร์แชลล์ รัฐบาลยังกล่าวว่า มันจะไปถึงเป้าหมาย 45 % ตัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดย 2030 เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ในระยะยาวจะปล่อยฟรีโดย 2050 .
บิชอปกล่าวว่าออสเตรเลียเป็นปัจจุบันพิจารณาปีเป้าหมายตามเป้าหมายโดยรวมของ เธอกล่าวว่า : " คนส่วนใหญ่ของประเทศมีเป้าหมายสำหรับ 2030 เป้าหมาย "
โดยมาร์แชลล์ ' เป้าหมายไม่ได้เป็นมากกว่าสัญลักษณ์ในบริบทของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก .
ข้อมูลบนเกาะมาร์แชลก็กระท่อนกระแท่น แต่ธนาคารโลกได้รายงานว่าในปี 2010 ประเทศออก 103 , 000 ตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นที่แพร่หลายมากที่สุด แต่เพียงหนึ่ง , ก๊าซเรือนกระจก .
บนข้อมูลเดียวกัน และโดยการเปรียบเทียบ , จีนเปิดตัว 8.2bn ตันของคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะที่ออสเตรเลียออก 368m ตัน .
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังกฤษ monthfound นี้ 98% ของมาร์แชล ไอซ์แลนด์สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ภายใน 500 เมตร จากแนวชายฝั่ง ทำให้มีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามที่มีอยู่และสภาพภูมิอากาศในอนาคต