คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับคนรุ่นก่อนๆ และอัตราเพิ่มของประชากรมีแนวโน้ม
ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการคุมกำเนิดที่ได้ผลดี ประกอบกับการ
ที่ประชากรในวัยทำงานแต่งงานช้าลงและเป็นโสดมากขึ้น การคาดประมาณของสำนักงานคณะ
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชี้ว่า หากอัตราเจริญพันธุ์รวมลดลงจาก 1.62 ในปี พ.ศ. 2553 เป็น 1.30 ในปี พ.ศ. 2583 ในช่วงเวลา
50 ปีนี้ ประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 75,000 คน หรือร้อยละ 0.12 แต่หากอัตรา
เจริญพันธุ์รวมลดลงเป็น 1.10 ในปี พ.ศ. 2583 ประชากรไทยจะมีจำนวนลดลงประมาณร้อยละ
2.3 ทำให้สัดส่วน
ของผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพิงผู้อื่นจะเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเด็กและวัยรุ่นซึ่งจะกลายเป็นวัยแรงงาน และ
จะเป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนาประเทศในอนาคต จึงได้รับความสำคัญอย่างมากจากหน่วยงาน
ภาครัฐและสังคม นโยบายสาธารณะที่พัฒนาขึ้นในระยะนี้จึงมีเป้าประสงค์ที่จะดูแลและสนับสนุน
ให้คนกลุ่มนี้เติบโตขึ้นเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ มีสุขภาพดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้ง
มีศักยภาพ สามารถเป็นที่พึ่งพิงแก่ประชากรกลุ่มอื่นๆ สำหรับนโยบายการวางแผนครอบครัวก็
เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เน้นการคุมกำเนิดมาเป็นการสร้างเสริมคุณภาพของประชากร โดยมีการ
ประกาศนโยบายด้านอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติที่มุ่งให้ทุกการเกิดเป็นที่พึงประสงค์ ปลอดภัย
และได้รับบริการที่มีคุณภาพ
บริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ รวมทั้งการวางแผนครอบครัวในประเทศไทยมีความ
ครอบคลุมบริการที่จำเป็นอย่างกว้างขวาง และประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียมกัน
กล่าวคือ มีความเหลื่อมลํ้าอันเนื่องมาจากสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งสภาพทาง
ภูมิศาสตร์น้อยมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องของรัฐและการดำเนินโครงการ
หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอย่างไรก็ตาม การจัดบริการด้านอนามัย
การเจริญพันธุ์สำหรับวัยรุ่นควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากข้อมูลสถิติและรายงานวิจัย
ชี้ว่า วัยรุ่นไทยทั้งชายและหญิงเริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น จากการสำรวจพฤติกรรม
ที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวีในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในปี พ.ศ. 2555 พบว่า นักเรียน
ชายร้อยละ 5.3 และนักเรียนหญิงร้อยละ 5.1 เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว โดยอายุเฉลี่ยของการ
มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในนักเรียนชายและหญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว เท่ากับ 13.2 และ
13.3 ปี ตามลำดับ หากพิจารณาข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมาจะพบว่า
อายุเฉลี่ยของการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในคนกลุ่มนี้มีค่าอยู่ระหว่าง 12-13.5 ปี โดยมีแนวโน้ม
ลดลงจนถึงปี พ.ศ. 2554 และกลับเพิ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2555