Determining boundaries of cultural

Determining boundaries of cultural landscapes is necessary for analysis, assessment and management
purposes. The concentration, continuity and integrity of cultural landscape characteristics that show
significant historical themes should be used as a guide to defining boundaries (McClelland et al 1990).
Historic research and ground surveys of the landscape will help determine appropriate edges, such as old
survey or property documents defining the extent of land ownership, diaries or oral history detailing where
activities took place, and physical evidence of borders, fences or hedges still discernible on the ground.
It is important to bear in mind the role that cultural landscapes and their management may play in
broader landscape management. For instance, a cultural landscape may itself be an important
component of a view from a point outside the landscape.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กำหนดขอบเขตของภูมิทัศน์วัฒนธรรมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ ประเมิน และการจัดการวัตถุประสงค์ ความเข้มข้น ความต่อเนื่อง และความสมบูรณ์ของลักษณะภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่แสดงควรใช้รูปแบบทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเป็นคู่มือการกำหนดขอบเขต (McClelland et al 1990)ประวัติศาสตร์สำรวจวิจัยและพื้นภูมิทัศน์จะช่วยกำหนดขอบที่เหมาะสม เช่นเดิมเอกสารแบบสำรวจหรือคุณสมบัติที่กำหนดขอบเขตของความเป็นเจ้าของที่ดิน ไดอารีส์ หรือประวัติศาสตร์บอกเล่ารายละเอียดกิจกรรมเอาสถานที่ และหลักฐานทางกายภาพของเส้นขอบ รั้ว หรือประเมินค่าเฮดจ์ที่ยังคง discernible บนพื้นดินสิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจบทบาทที่ภูมิทัศน์วัฒนธรรม และการบริหารจัดการอาจเล่นในการจัดการภูมิทัศน์กว้างขึ้น ตัวอย่าง ภูมิทัศน์วัฒนธรรมตัวเองอาจมีความสำคัญส่วนประกอบของมุมมองจากจุดภายนอกภูมิทัศน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกำหนดขอบเขตของภูมิทัศน์วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์การประเมินและการจัดการวัตถุประสงค์
ความเข้มข้นของความต่อเนื่องและความสมบูรณ์ของลักษณะภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นรูปแบบที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญควรที่จะใช้เป็นแนวทางในการกำหนดเขตแดน (คลี et al, 1990). การวิจัยประวัติศาสตร์และการสำรวจพื้นดินของภูมิทัศน์จะช่วยกำหนดขอบที่เหมาะสมเช่นเก่าสำรวจหรือเอกสารของสถานที่การกำหนดขอบเขตของเจ้าของที่ดินไดอารี่หรือประวัติศาสตร์บอกเล่ารายละเอียดที่กิจกรรมที่เกิดขึ้นและหลักฐานทางกายภาพของเส้นขอบรั้วหรือป้องกันความเสี่ยงยังคงมองเห็นได้บนพื้นดิน. มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะแบกในใจบทบาทที่ภูมิทัศน์วัฒนธรรมและการจัดการของพวกเขาอาจจะ เล่นในการจัดการภูมิทัศน์ที่กว้างขึ้น ยกตัวอย่างเช่นภูมิทัศน์วัฒนธรรมของตัวเองอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญส่วนหนึ่งของมุมมองจากจุดนอกภูมิทัศน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กำหนดขอบเขตของภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ การประเมิน และวัตถุประสงค์การจัดการ

ความเข้มข้น ความต่อเนื่อง และความสมบูรณ์ของภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมลักษณะที่แสดง
ธีมสำคัญของประวัติศาสตร์ ควรใช้เป็นแนวทางในการกำหนดขอบเขต ( McClelland et al 1990 ) .
วิจัยประวัติศาสตร์และพื้นดินการสำรวจภูมิทัศน์จะช่วยกำหนดขอบที่เหมาะสมเช่นการสำรวจเก่า
หรือเอกสารคุณสมบัติการกำหนดขอบเขตของการถือครองที่ดิน ไดอารี่ หรือประวัติบุคคลรายละเอียดที่
กิจกรรมต่างๆเกิดขึ้นและหลักฐานทางกายภาพของเส้นขอบ รั้วหรือป้องกันความเสี่ยงยังคงมองเห็นได้บนพื้นดิน
มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าบทบาทของภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมและการจัดการของพวกเขาอาจจะเล่นใน
การจัดการภูมิทัศน์ที่กว้างขึ้น . สำหรับอินสแตนซ์ภูมิทัศน์วัฒนธรรมตัวเองอาจเป็นสำคัญ
ส่วนประกอบของมุมมองจากจุดนอกแนว