Relativistic heavy-ion collisions p

Relativistic heavy-ion collisions produce very large numbers of subatomic particles in all directions. In such collisions, flow refers to how energy, momentum, and number of these particles varies with direction,[1] and elliptic flow is a measure of how the flow is not uniform in all directions when viewed along the beam-line. Elliptic flow is strong evidence for the existence of quark–gluon plasma, and has been described as one of the most important observations measured at the Relativistic Heavy Ion Collider (RHIC).[2][3]

Elliptic flow describes the azimuthal momentum space anisotropy of particle emission from non-central heavy-ion collisions in the plane transverse to the beam direction, and is defined as the second harmonic coefficient of the azimuthal Fourier decomposition of the momentum distribution.[4] Elliptic flow is a fundamental observable since it directly reflects the initial spatial anisotropy, of the nuclear overlap region in the transverse plane, directly translated into to the observed momentum distribution of identified particles. Since the spatial anisotropy is largest at the beginning of the evolution, elliptic flow is especially sensitive to the early stages of system evolution.[5] A measurement of elliptic flow thus provides access to the fundamental thermalization time scale and many more things in the early stages of a relativistic heavy-ion collision.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชนไอออนหนักที่ relativistic ผลิตจำนวนมากของอนุภาค subatomic ในทุกทิศทาง ในซ้ำเช่น ไหลหมายถึงวิธีพลังงาน โมเมนตัม และจำนวนของอนุภาคเหล่านี้แตกต่างกันกับทิศทาง, [1] และไหลไข่คือ การวัดวิธีการไหลไม่สม่ำเสมอในทุกทิศทางเมื่อดูตามแนวลำแสง ไข่ไหลเป็นหลักฐานการมีอยู่ของควาร์กกลูออนพลาสม่า และเป็นหนึ่งในวัดที่ Relativistic หนักไอออนตั้ง (RHIC) ข้อสังเกตสำคัญที่สุด [2] [3]ไข่ไหลอธิบายดาวเทียมสำรวจคลื่นพื้นที่เพิ่ม[แก้โมเมนตัมของอนุภาคมลพิษจากการชนของไอออนหนัก-กลางในระนาบขวางกับทิศทางของลำแสง และถูกกำหนดเป็นค่าฮาร์มอนิสองสัมประสิทธิ์ของการสลายตัวฟูริเยร์เพิ่ม[แก้การกระจายโมเมนตัม [4] ไข่ไหลเป็นสังเกตได้พื้นฐานเนื่องจากมันสะท้อนให้เห็นถึงการเริ่มต้นเชิงพื้นที่ดาวเทียมสำรวจคลื่น ภูมิภาคนิวเคลียร์ซ้อนในระนาบขวาง แปลโดยตรงเป็นการแจกสังเกตโมเมนตัมของอนุภาคที่ระบุโดยตรง ตั้งแต่ดาวเทียมสำรวจคลื่น spatial ใหญ่ที่สุดที่จุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการ ไข่ไหลเป็นสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงแรกของวิวัฒนาการของระบบ [5] การวัดของไหลไข่จึงให้ thermalization พื้นฐานมาตราส่วนเวลาและสิ่งเพิ่มเติมในช่วงแรกของการชนของไอออนหนักที่ relativistic

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แสงการชนของไอออนหนักผลิตขนาดใหญ่มากจำนวนของอนุภาคในทุกทิศทาง ในการชนดังกล่าวไหลหมายถึงวิธีการ พลังงาน โมเมนตัม และจำนวนของอนุภาคเหล่านี้จะแตกต่างกันกับทิศทางการไหลของรูป [ 1 ] และเป็นตัวชี้วัดว่าไหลไม่สม่ำเสมอในทุกทิศทางเมื่อมองไปตามแสงสาย การไหลของรูปคือหลักฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการดำรงอยู่ของมหาวิหารบาเยอ และได้รับการอธิบายเป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญที่สุดก็คือ การสังเกตแสงไอออนหนัก ( การ ) [ 2 ] [ 2 ]การไหลของรูปอธิบาย azimuthal โมเมนตัมของอนุภาคมลพิษพื้นที่แอนไอโซโทรปีจากโนนกลาง ไอออนหนักการชนในระนาบขวางกับคาน ทิศทาง และกำหนดเป็นค่าฮาร์มอนิกที่สองของ azimuthal ฟูเรียร์การสลายตัวของโมเมนตัมการกระจาย [ 4 ] ปิดการไหลพื้นฐานที่สังเกตตั้งแต่โดยตรงสะท้อนให้เห็นถึงการเริ่มต้นของแอนไอโซทรอปี , นิวเคลียร์ทับซ้อนเขตในระนาบตัดขวางแปลโดยตรงในการตรวจสอบการระบุโมเมนตัมของอนุภาค ตั้งแต่แอนไอโซทรอปีพื้นที่เป็นที่ใหญ่ที่สุดที่จุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการ , การไหลเชิงวงรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งไวช่วงแรกของวิวัฒนาการของระบบ [ 5 ] การวัดการไหลเชิงวงรี จึงให้การเข้าถึงพื้นฐาน thermalization มาตราส่วนเวลาและสิ่งต่างๆอีกมากมายในช่วงแรกของการชนของไอออนหนักที่ความเร็วเหนือแสง .