The author aims at showing differen

The author aims at showing different types or levels of communication problems. One can distinguish between the communication problems existing between the girl and her fiancé and those between her and the listening narrator. The first problem is based on the girl being too self-concerned to manage a productive conversation. There is a communication problem between these two. The other problem is the one between the narrator and the girl. He listens and is willing to give her sound advice and help, which the girl might be happy to get. The narrator can theoretically fulfill this important function (helping the girl with those matters she is totally concerned with) but is not able to do so in reality, as he doesn’t dare speaking with her. Her fianc´e can communicate with her in the sense of speaking with her, but he lacks the skill of really understanding her. By placing these two elements of communication, (speaking/understanding) in separate persons the author creates a paradox. This underlines the main thesis: the modern society is so self-concerned that influences from others are hardly noticed (also shown in the end: the girl, being "an observer", doesn't even notice the Japanese).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้เขียนมีจุดมุ่งหมายที่แสดงแตกต่างกันหรือระดับของปัญหาการสื่อสาร หนึ่งสามารถแยกแยะปัญหาการสื่อสารที่มีอยู่ระหว่างหญิงสาว และเธอ fiancé และที่ระหว่างเธอและผู้ฟัง ปัญหาแรกอยู่กับหญิงสาวถูกเกินไปเกี่ยวข้องด้วยตนเองในการจัดการการสนทนาต่าง ๆ ยังมีปัญหาในการสื่อสารระหว่างสอง ปัญหาอื่น ๆ ได้ระหว่างที่'ผู้บรรยาย'และเธอได้ เขาฟัง และยินดีให้คำแนะนำเสียงและวิธีใช้ ซึ่งเธออาจยินดีรับเธอ เล่าตามหลักวิชาสามารถตอบสนองฟังก์ชันนี้สำคัญ (ช่วยเธอเรื่องที่เธอเป็นทั้งหมดที่เกี่ยวข้องด้วย) แต่ไม่สามารถทำเช่นนั้นในความเป็นจริง ตามเขาไม่กล้าพูดกับเธอได้ Fianc´e ของเธอสามารถสื่อสารกับเธอได้ในแง่ของการพูดกับเธอ แต่เขาขาดทักษะความเข้าใจเธอจริง ๆ ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ที่สองของการสื่อสาร, (พูด/ทำความเข้าใจ) ในคนแยกผู้เขียนสร้างเป็น paradox นี้ขีดเส้นใต้วิทยานิพนธ์หลัก: สังคมสมัยใหม่ดังนั้นตนเองเกี่ยวข้องว่า อิทธิพลจากผู้อื่นจะไม่มีใครเห็น (แสดงในส่วนท้าย: ผู้หญิง ถูก "เป็นแหล่ง" แม้ไม่สังเกตญี่ปุ่น)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้เขียนมีจุดมุ่งหมายที่การแสดงที่แตกต่างกันหรือระดับของปัญหาการสื่อสาร หนึ่งสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างปัญหาการสื่อสารที่มีอยู่ในระหว่างหญิงสาวและคู่หมั้นของเธอและระหว่างเธอและฟังบรรยาย ปัญหาแรกที่จะขึ้นอยู่กับหญิงสาวที่ถูกเกินไปด้วยตนเองที่เกี่ยวข้องในการจัดการการสนทนาที่มีประสิทธิผล มีปัญหาในการสื่อสารระหว่างสองคนนี้คือ ปัญหาอื่น ๆ เป็นหนึ่งในระหว่างบรรยายและหญิงสาว เขาฟังและยินดีที่จะให้คำแนะนำเสียงของเธอและช่วยซึ่งผู้หญิงคนนั้นอาจจะมีความสุขที่จะได้รับ ผู้บรรยายในทางทฤษฎีสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ที่สำคัญนี้ (ช่วยให้หญิงสาวกับเรื่องเหล่านั้นเธอเป็นทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ) แต่ไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นในความเป็นจริงในขณะที่เขาไม่กล้าพูดกับเธอ fianc'e เธอสามารถสื่อสารกับเธอในแง่ของการพูดกับเธอ แต่เขาขาดทักษะในการทำความเข้าใจจริงๆของเธอ โดยการวางทั้งสององค์ประกอบของการสื่อสาร (พูด / เข้าใจ) ในผู้เขียนที่แยกจากกันจะสร้างความขัดแย้ง นี้เน้นวิทยานิพนธ์หลัก: สังคมสมัยใหม่เพื่อให้ตัวเองกังวลว่าอิทธิพลจากคนอื่น ๆ แทบจะไม่สังเกตเห็น (ยังแสดงให้เห็นว่าในท้ายที่สุด: หญิงสาวที่เป็น "ผู้สังเกตการณ์" ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าญี่ปุ่น)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงประเภทที่แตกต่างกันหรือระดับของปัญหาการสื่อสาร หนึ่งสามารถแยกแยะระหว่างปัญหาการสื่อสารที่มีอยู่ระหว่างหญิงสาวและคู่หมั้นของเธอ . . . และผู้ที่ระหว่างเธอและฟังบรรยาย . ปัญหาแรกคือตามสาวถูกด้วยตนเองที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการการสนทนาที่มีประสิทธิภาพ มีปัญหาการสื่อสารระหว่างสองเหล่านี้ปัญหาอื่น ๆ คือ หนึ่ง ระหว่างผู้บรรยายและสาวน้อย เขารับฟังและยินดีที่จะให้คำแนะนำเสียงและช่วย ซึ่งผู้หญิงอาจจะมีความสุขที่จะได้รับ เล่าเรื่องทฤษฎีตอบสนองฟังก์ชั่นที่สำคัญนี้ ( ช่วยผู้หญิงกับเรื่องที่เธอมีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ ) แต่ไม่สามารถทำได้ในความเป็นจริง เขาไม่กล้าพูดกับเธอคู่หมั้นใหม่ของเธอ และสามารถสื่อสารกับเธอในแง่ของการพูดกับเธอ แต่เขายังขาดทักษะการเข้าใจจริง ๆ เธอ โดยการวางสององค์ประกอบของการสื่อสาร ( ความเข้าใจการพูด ) แยกบุคคลผู้เขียนสร้างขัดแย้ง นี้ขีดเส้นใต้วิทยานิพนธ์หลัก : สังคมสมัยใหม่เพื่อให้ตนเองกังวลว่าอิทธิพลจากคนอื่นแทบจะไม่สังเกตเห็น ( ยังแสดงในสิ้นสุด :ผู้หญิงที่เป็น " ผู้สังเกตการณ์ " ไม่แม้แต่จะสังเกตคนญี่ปุ่น )