The role of vitamin A in the visual

The role of vitamin A in the visual cycle is specifically related to the retinal form. Within the eye, 11-cis-retinal is bound to the protein "opsin" to form rhodopsin in rods[3] and iodopsin (cones) at conserved lysine residues. As light enters the eye, the 11-cis-retinal is isomerized to the all-"trans" form. The all-"trans" retinal dissociates from the opsin in a series of steps called photo-bleaching. This isomerization induces a nervous signal along the optic nerve to the visual center of the brain. After separating from opsin, the all-"trans"-retinal is recycled and converted back to the 11-"cis"-retinal form by a series of enzymatic reactions. In addition, some of the all-"trans" retinal may be converted to all-"trans" retinol form and then transported with an interphotoreceptor retinol-binding protein (IRBP) to the pigment epithelial cells. Further esterification into all-"trans" retinyl esters allow for storage of all-trans-retinol within the pigment epithelial cells to be reused when needed.[22] The final stage is conversion of 11-cis-retinal will rebind to opsin to reform rhodopsin (visual purple) in the retina. Rhodopsin is needed to see in low light (contrast) as well as for night vision. Kühne showed that rhodopsin in the retina is only regenerated when the retina is attached to retinal pigmented epithelium,[3] which provides retinal. It is for this reason that a deficiency in vitamin A will inhibit the reformation of rhodopsin and lead to one of the first symptoms, night blindness.[23]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทบาทของวิตามินเอในรอบการแสดงโดยเฉพาะกับแบบฟอร์มจอประสาทตา ภายในตา 11-cis-จอประสาทตาถูกผูกไว้กับโปรตีน "opsin" แบบเซลล์รับแสงในแท่ง [3] และ iodopsin (กรวย) ที่ตกค้างไลซีนภัต เป็นแสงเข้าสู่ตา การ 11-cis-จอประสาทตาเป็น isomerized ให้กับฟอร์ม "ทรานส์" ทั้งหมด- ทั้งหมด- "ทรานส์" จอประสาทตา dissociates จาก opsin ในชุดของขั้นตอนที่เรียกว่าฟอกสีภาพ บ่ำนี้ก่อให้เกิดสัญญาณประสาททางประสาทไปยังศูนย์กลางภาพของสมอง หลังจากแยกจาก opsin ทั้งหมด- "ทรานส์"-จอประสาทตาเป็นรีไซเคิล และแปลงกลับไปยัง 11-" cis"-รูปจอประสาทตา โดยชุดของปฏิกิริยาของเอนไซม์ นอกจากนี้ บางทั้งหมด- "ทรานส์" จอประสาทตาอาจถูกแปลงเป็นแบบฟอร์ม retinol "ทรานส์" ทั้งหมด - และส่งแล้ว มี retinol ผูก interphotoreceptor เป็นโปรตีน (IRBP) ไปยังเซลล์เยื่อบุผิวเม็ดสี Esterification ต่อเข้าทั้งหมด- "ทรานส์" retinyl esters อนุญาตให้สำหรับการจัดเก็บทั้งหมดทรานส์-retinol ภายในเซลล์เยื่อบุผิวเม็ดสีจะถูกนำมาใช้เมื่อจำเป็น [22] ขั้นตอนสุดท้ายคือ การแปลงของ cis 11-จอประสาทตาจะ rebind กับ opsin การปฏิรูปเซลล์รับแสง (visual ม่วง) ในเรตินา จำเป็นต้องมีเซลล์รับแสงในสภาพแสงน้อย (ความเปรียบต่าง) เช่นสำหรับคืนวิสัยทัศน์ Kühne แสดงให้เห็นว่าเซลล์รับแสงในเรตินาเป็นเพียงสร้างใหม่เมื่อจอประสาทตากับจอประสาทตาสีเยื่อบุผิว, [3] ซึ่งทำให้จอประสาทตา ด้วยเหตุนี้ว่า การขาดแคลนวิตามินเอจะยับยั้งการปฏิรูปของเซลล์รับแสง และนำไปสู่อาการแรก ตาบอดกลางคืนอย่างใดอย่างหนึ่งได้ [23]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทบาทของวิตามินเอในรอบภาพเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบที่จอประสาทตา ภายในตา 11 CIS-จอประสาทตาถูกผูกไว้กับโปรตีน "opsin" ในรูปแบบแท่ง rhodopsin ใน [3] และ iodopsin (กรวย) ที่ตกค้างไลซีนอนุรักษ์ เป็นแสงเข้าตา, 11-CIS-จอประสาทตาจะ isomerized เพื่อ all-ว่า "ทรานส์ฟอร์ม" all-"ทรานส์" dissociates จอประสาทตาจาก opsin ในชุดของขั้นตอนที่เรียกว่าภาพการฟอกสี isomerization นี้ก่อให้เกิดสัญญาณประสาทไปตามเส้นประสาทไปยังศูนย์ภาพของสมอง หลังจากที่แยกจาก opsin, all-ว่า "ทรานส์" -retinal รีไซเคิลและเปลี่ยนกลับไปที่ 11- "CIS" รูปแบบ -retinal โดยชุดของปฏิกิริยาของเอนไซม์ นอกจากนี้บางส่วนของ all-"ทรานส์" จอประสาทตาอาจถูกแปลงเป็น ALL- "ทรานส์ฟอร์ม" เรตินแล้วส่งกับ interphotoreceptor retinol-binding protein (IRBP) เพื่อเซลล์เยื่อบุผิวเม็ดสี esterification ต่อไปเป็น all-retinyl "ทรานส์" เอสเทออนุญาตให้มีการจัดเก็บข้อมูลของทุกทรานส์เรตินภายในเซลล์สร้างเม็ดสีเยื่อบุผิวที่จะนำกลับมาใช้เมื่อมีความจำเป็น. [22] ขั้นตอนสุดท้ายคือการแปลง 11 CIS-จอประสาทตาจะ rebind เพื่อ opsin เพื่อการปฏิรูป rhodopsin (ภาพสีม่วง) ในเรตินา rhodopsin เป็นสิ่งจำเป็นที่จะเห็นในที่มีแสงน้อย (ตรงกันข้าม) เช่นเดียวกับคืนวิสัยทัศน์ Kühneแสดงให้เห็นว่า rhodopsin ในเรตินาจะสร้างใหม่เฉพาะเมื่อจอประสาทตาที่แนบมากับเยื่อบุผิวสีม่านตา [3] ซึ่งมีจอประสาทตา มันเป็นเพราะเหตุนี้ที่ขาดวิตามินเอจะยับยั้งการปฏิรูป rhodopsin และนำไปหนึ่งในอาการแรกตาบอดกลางคืน. [23]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทบาทของวิตามินในรอบภาพที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับรูปแบบจอประสาทตา . ภายในตา จอประสาทตา 11 CIS เป็นผูกติดกับโปรตีน " พซิน " ในรูปแบบโรดอพซินแท่ง [ 3 ] และ iodopsin ( กรวย ) ที่ป่าสงวน lysine ตกค้าง เป็นแสงเข้าสู่ตา จอประสาทตาเป็น isomerized 11 CIS เพื่อทุกคน - " ข้าม " แบบฟอร์ม ทั้งหมด - ทรานส์เรติ dissociates " จากพซินในชุดของขั้นตอนการเรียกรูปภาพฟอกขาว ไอโซเมอไรเซชันนี้ก่อให้เกิดสัญญาณประสาทด้วยประสาทตาไปยังศูนย์ที่มองเห็นจากสมอง หลังจากแยกจากพซิน ต่างๆ - ทรานส์เรติ " - รีไซเคิล และแปลงกลับไป 11 - " CIS " - รูปแบบม่านตาโดยชุดของเอนไซม์ปฏิกิริยา นอกจากนี้บางส่วนของทั้งหมด - " ข้าม " จอประสาทตาอาจถูกแปลงเป็น " ทั้งหมด - ทรานส์เรตินอล " และรูปแบบการขนส่งแล้ว กับ interphotoreceptor เรตินโปรตีน ( irbp ) สีเยื่อบุเซลล์ ต่อปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชันใน " ทรานส์เอสเทอร์ " As ให้กระเป๋าของทรานส์เรตินอลภายในเม็ดเซลล์เยื่อจะใช้เมื่อต้องการ [ 22 ] ขั้นตอนสุดท้ายคือการเปลี่ยนแปลงของจอประสาทตาจะ rebind 11 CIS เพื่อพซินที่จะปฏิรูปโรดอพซิน ( ภาพสีม่วง ) ในเรตินา โรดอพซินเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อดูในที่แสงน้อย ( ความคมชัด ) เช่นเดียวกับการมองเห็นในตอนกลางคืน K ü hne พบว่าโรดอพซินในจอตาเท่านั้นที่ได้เมื่อจอประสาทตาติดสีม่านตาเยื่อบุผิว , [ 3 ] ซึ่งมีจอประสาทตา . มันเป็นเพราะเหตุนี้ที่ขาดวิตามินเอจะขัดขวางการปฏิรูปโรดอพซินและนำไปสู่หนึ่งในอาการแรก , ตาบอดกลางคืน [ 23 ]