Lower cholesterol Carrots contain h

Lower cholesterol
Carrots contain high amounts of soluble fiber, largely from pectin, which could be the reason they’ve been shown to lower cholesterol. Participants who ate about a cup of carrots each day for three weeks lowered their blood cholesterol levels, a U.S. government study found.
Conclusion
Reduce risk of cancer
The alphacarotene and bioflavonoids in carrots have been associated with lower risks of cancer, particularly lung cancer. But stick to those carotenoids rather than beta-carotene supplements, which could be harmful to smokers.
Keep your vision sharp
If your parents told you to eat your carrots for better eyesight, they were on to something. Carrots won’t cure preexisting vision problems, but they can protect against sight issues caused by vitamin A deficiency. The body converts beta-carotene to vitamin A, says Hans Fisher, PhD, a professor emeritus of nutritional biochemistry from Rutgers University, and that's important for healthy eyes. Carrots can prevent cataracts and macular degeneration, as well as night blindness, which keeps eyes from adjusting to the dark.
Stop memory loss
Middle-aged people who ate the lowest amount of root vegetables showed more than three times as much cognitive decline as those who ate the most, according to a Netherlands study. Researchers concluded that the beta-carotene in the vegetables—especially from carrots—protected the central nervous system against aging. An 18-year Harvard study determined that when men consumed 50 mg supplements of beta-carotene every other day, cognitive decay was delayed for the equivalent of 1 to 1.5 years compared to those who took a placebo.
Prevent diabetes
Carrots contain beta-carotene, a powerful antioxidant associated with lower diabetes risk. In one study, those with the most beta-carotene in their blood had 32 percent lower insulin levels than those with lower levels of beta-carotene.
Bolster your bone health
Carrots also contain small amounts of other vital nutrients such as vitamin C (5 milligrams per 1 cup serving) and calcium (96 milligrams per 1 cup serving). Many people, especially post-menopausal women, don’t get enough calcium, so while carrots might not contain much, “every little bit helps,” Fisher says.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไขมันต่ำ แครอทประกอบด้วยยอดสูงของไฟเบอร์ที่ละลายน้ำ เป็นส่วนใหญ่จากเพกทิน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดไขมัน คนที่กินแต่ละวันในสัปดาห์ที่สามเกี่ยวกับถ้วยแครอท ลดลงระดับไขมันของเลือด การศึกษารัฐบาลสหรัฐพบบทสรุปลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง Alphacarotene และ bioflavonoids ในแครอทได้สัมพันธ์กับความเสี่ยงต่ำของโรคมะเร็ง โรคมะเร็งปอดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แต่ติดที่ carotenoids มากกว่าอาหารเสริม beta-carotene ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้สูบบุหรี่ทำให้วิสัยทัศน์ของคุณคมชัดถ้าพ่อแม่บอกให้กินแครอทของคุณสำหรับสายตาดี พวกเขามีบางสิ่งบางอย่าง แครอทจะไม่แก้ปัญหาวิสัยทัศน์อิง แต่พวกเขาสามารถป้องกันปัญหาสายตาที่เกิดจากการขาดวิตามินเอ ตัวแปลง beta-carotene วิตามิน A ว่า ฮานส์ฟิชเชอร์ ปริญญาเอก อาจารย์ emeritus ของชีวเคมีโภชนาการจากมหาวิทยาลัย Rutgers และที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพตา แครอทสามารถป้องกันต้อกระจก และการเสื่อม macular เป็นตาบ อดกลางคืน ซึ่งช่วยให้สายตาจากการปรับปรุงในมืดหยุดการสูญเสียหน่วยความจำคนวัยกลางคนที่กินยอดเงินต่ำสุดของรากผักพบว่าลดลงมากกว่า 3 ครั้งเท่ารับรู้เป็นคนที่กินมากสุด ตามการศึกษาของประเทศเนเธอร์แลนด์ นักวิจัยสรุปที่ beta-carotene ในผัก — โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแครอทซึ่งป้องกันระบบประสาทส่วนกลางต่อต้านริ้วรอย การศึกษาฮาร์วาร์ด 18 ปีกำหนดว่า เมื่อผู้ชายใช้ 50 mg อาหารเสริมของ beta-carotene ทุกวัน ผุรับรู้ล่าช้าสำหรับการเทียบเท่า 1-1.5 ปีเปรียบเทียบกับผู้ที่ใช้ยาหลอกป้องกันโรคเบาหวาน แครอทประกอบด้วย beta-carotene ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ในหนึ่งการศึกษา มี beta-carotene ส่วนใหญ่ในเลือดได้ร้อยละ 32 ลดระดับอินซูลิน beta-carotene มีระดับต่ำกว่าส่งเสริมสุขภาพของกระดูก นอกจากนี้แครอทยังประกอบด้วยเงินอื่น ๆ สารอาหารสำคัญเช่นวิตามินซี (ต่อ 1 ถ้วยเสิร์ฟ 5 milligrams) และแคลเซียม (96 milligrams ต่อ 1 ถ้วยเสิร์ฟ) หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวัยทองผู้หญิง ไม่ได้รับแคลเซียมเพียงพอ เพื่อขณะแครอทอาจประกอบด้วยมาก "ทุกเล็กน้อยช่วย ฟิชเชอร์กล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลดคอเลสเตอรอลแครอทมีปริมาณสูงของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ส่วนใหญ่มาจากเพคตินซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดคอเลสเตอรอล ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับการกินถ้วยแครอทในแต่ละวันเป็นเวลาสามสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของพวกเขาการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐพบ. สรุปลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งalphacarotene และ bioflavonoids ในแครอทได้รับการที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งปอด แต่ติด carotenoids เหล่านั้นมากกว่าอาหารเสริมเบต้าแคโรทีซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้สูบบุหรี่. ให้วิสัยทัศน์ของคุณคมชัดถ้าพ่อแม่ของคุณบอกคุณที่จะกินแครอทของคุณสำหรับสายตาที่ดีกว่าพวกเขาในบางสิ่งบางอย่าง แครอทจะไม่รักษาปัญหาการมองเห็นมาก่อน แต่พวกเขาสามารถป้องกันปัญหาสายตาที่เกิดจากการขาดวิตามินเอ ร่างกายแปลงเบต้าแคโรทีเป็นวิตามินเอกล่าวว่าฮันส์ฟิชเชอร์, PhD, ศาสตราจารย์กิตติคุณชีวเคมีทางโภชนาการจากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์สและนั่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพตา แครอทสามารถป้องกันต้อกระจกและการเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับอาการตาบอดกลางคืนซึ่งช่วยให้ดวงตาจากการปรับตัวเข้ากับความมืด. หยุดการสูญเสียความจำคนวัยกลางคนที่กินในปริมาณที่ต่ำสุดของผักรากแสดงให้เห็นมากกว่าสามครั้งลดลงทางปัญญามากที่สุดเท่าที่ผู้ที่กินมากที่สุดตามการศึกษาเนเธอร์แลนด์ นักวิจัยสรุปว่าเบต้าแคโรทีในผักโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแครอทที่มีการป้องกันระบบประสาทส่วนกลางกับริ้วรอย การศึกษาฮาร์วาร์ 18 ปีระบุว่าเมื่อคนบริโภค 50 อาหารเสริมมิลลิกรัมเบต้าแคโรทีนทุกวัน ๆ การสลายตัวทางปัญญาล่าช้าเป็นเวลาเทียบเท่า 1-1.5 ปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับผู้ที่เอายาหลอก. ป้องกันเบาหวานแครอทมีเบต้าแคโรทีนสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคเบาหวานลดลง ในการศึกษาผู้ที่มีเบต้าแคโรทีนมากที่สุดในเลือดของพวกเขามีร้อยละ 32 ต่ำกว่าระดับอินซูลินกว่าผู้ที่มีระดับต่ำของเบต้าแคโรที. หนุนการดูแลสุขภาพกระดูกของคุณแครอทยังมีจำนวนน้อยของสารอาหารที่สำคัญอื่น ๆ เช่นวิตามินซี (5 มิลลิกรัม ต่อ 1 ถ้วยให้บริการ) และแคลเซียม (96 มิลลิกรัมต่อ 1 ถ้วยให้บริการ) หลายคนโดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนไม่ได้รับแคลเซียมเพียงพอดังนั้นในขณะที่แครอทไม่อาจมีมาก "ทุกเล็กน้อยจะช่วยให้" ฟิชเชอร์กล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แครอท
ลดคอเลสเตอรอล ประกอบด้วยยอดสูงของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ลดลงจากเพคติน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดคอเลสเตอรอล ผู้กินกับถ้วยแครอทในแต่ละวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของพวกเขาการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐพบ


สรุปที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งแครอท
ลดคอเลสเตอรอล ประกอบด้วยยอดสูงของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ลดลงจากเพคติน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดคอเลสเตอรอล ผู้กินกับถ้วยแครอทในแต่ละวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของพวกเขาการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐพบ


สรุปที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งแครอท
ลดคอเลสเตอรอล ประกอบด้วยยอดสูงของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ลดลงจากเพคติน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดคอเลสเตอรอล ผู้กินกับถ้วยแครอทในแต่ละวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของพวกเขาการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐพบ


สรุปที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งแครอท
ลดคอเลสเตอรอล ประกอบด้วยยอดสูงของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ลดลงจากเพคติน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดคอเลสเตอรอล ผู้กินกับถ้วยแครอทในแต่ละวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของพวกเขาการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐพบ


สรุปที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งแครอท
ลดคอเลสเตอรอล ประกอบด้วยยอดสูงของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ลดลงจากเพคติน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดคอเลสเตอรอล ผู้กินกับถ้วยแครอทในแต่ละวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของพวกเขาการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐพบ


สรุปที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งแครอท
ลดคอเลสเตอรอล ประกอบด้วยยอดสูงของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ลดลงจากเพคติน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดคอเลสเตอรอล ผู้กินกับถ้วยแครอทในแต่ละวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของพวกเขาการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐพบ


สรุปที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งแครอท
ลดคอเลสเตอรอล ประกอบด้วยยอดสูงของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ลดลงจากเพคติน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับการแสดงเพื่อลดคอเลสเตอรอล ผู้กินกับถ้วยแครอทในแต่ละวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของพวกเขาการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐพบ


สรุปที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง