The company also began branching ou

The company also began branching out into color televisions, and later into a variety of consumer electronics and appliances. By the 1980s, Samsung was manufacturing, shipping, and selling a wide range of appliances and electronic products throughout the world.


Sales at Samsung Group grew more than 2.5 times between 1987 and 1992. More important, Samsung drew from potential profit gains to more than double research and development investments as part of Kun-Hee Lee's aggressive bid to make Samsung a technological leader in the electronics, semiconductor, and communications industries. Besides partnering with U.S. and Japanese electronics companies, Samsung Electronics acquired firms that possessed important technology, including Harris Microwave Semiconductors and Integrated Telecom Technologies. In 1993, Kun-Hee Lee sold off ten of Samsung Group's subsidiaries, downsized the company, and merged other operations to concentrate on three industries: electronics, engineering, and chemicals.

Under the leadership of chief executive Kim Kwang-Ho, Samsung Electronics took the microchip world by storm when it introduced its 4-megabit DRAM chip in 1994. Sales of that chip helped to push Samsung's sales from $10.77 billion in 1993 to $14.94 billion in 1994. Profits, moreover, spiraled from $173,000 to nearly $1.3 billion. In addition, Samsung had staged a bold grab for domestic market share in 1995 by slashing prices for consumer electronics and home appliances by as much as 16 percent and had wowed industry insiders when it unveiled an advanced thin-film-transistor liquid-crystal display (TFT-LCD) screen--used for laptop computers--at a world trade show in Japan.

Samsung Electronics' rapid rise and technical achievements put the company in the spotlight in the semiconductor industry. Its 4-megabit chip, in fact, had made it the leading global producer of DRAM chips by early 1995. Furthermore, Samsung Electronics was increasing its investment in development still further, as evidenced by a $2.5 billion outlay to develop a 64-megabit DRAM chip by 1998. In December of 1995, development on the world's first 1-gigabit synchronous DRAM chip was also in the works. Exports for the year increased to more than $10 billion.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริษัทเริ่มสาขาออก เป็นโทรทัศน์สี และต่อเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยไฟต์ ซัมซุงผลิต จัดส่ง และขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกที่หลากหลายขายที่ กลุ่มซัมซุงเติบโตมากกว่า 2.5 ครั้งระหว่างปีค.ศ. 1987 และ 1992 สำคัญ ซัมซุงวาดจากกำไรกำไรอาจจะมากกว่าสองทุนวิจัยและพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของ Lee Kun สังประมูลก้าวร้าวให้ซัมซุงผู้นำเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สารกึ่งตัวนำ และการสื่อสาร นอกจากร่วมมือกับสหรัฐและญี่ปุ่นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์มาบริษัทที่ต้องมีเทคโนโลยีสำคัญ เทคโนโลยีโทรคมนาคมและอิเล็กทรอนิกส์ไมโครเวฟห้อง ในปี 1993, Lee Kun-สังขายปิดสิบบริษัทในเครือของ กลุ่มซัมซุง downsized บริษัท และผสานการดำเนินงานอื่น ๆ ที่เน้นอุตสาหกรรมที่สาม: อิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรม และสารเคมีภายใต้การนำของผู้บริหารระดับสูงที่คิมกวางโฮจิมินห์ ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ไมโครชิพเอา โลก โดยพายุเมื่อจะนำ DRAM เป็นหน่วยเมกะบิต 4 ชิในปี 1994 ขายชิพที่ช่วยผลักดันขายของซัมซุงจาก 10.77 พันล้านเหรียญในปี 1993 กับ 14.94 พันล้านเหรียญในปี 1994 กำไร นอกจาก spiraled จาก $173,000 ไปเกือบ 1.3 พันล้านเหรียญ นอกจากนี้ ซัมซุงได้แบ่งระยะการคว้าตัวหนาสำหรับส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศในปี 1995 โดยอย่างเจ็บแสบราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในบ้านลดสูงสุดถึง 16 เปอร์เซ็นต์ และมี wowed อุตสาหกรรมบุคคลภายในเมื่อมันเปิดตัวขั้นสูงบางฟิล์มทรานซิสเตอร์ของเหลว–คริสตัล (TFT-LCD) จอ - ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป - ในการแสดงสินค้าโลกในประเทศญี่ปุ่นของซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและความสำเร็จทางเทคนิคนำบริษัทความโดดเด่นในอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำ ของหน่วยเมกะบิต 4 ชิป ในความเป็นจริง มีทำนำโปรดิวเซอร์ระดับโลกของ DRAM ชิป โดย 1995 ก่อน นอกจากนี้ ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ได้เพิ่มการลงทุนพัฒนายังเพิ่มเติม เห็นได้โดยใช้ outlay $2.5 พันล้านเพื่อพัฒนาชิป DRAM เป็นหน่วยเมกะบิต 64 ปี 1998 ในเดือน 1995 ธันวาคม พัฒนาโลกแรก 1 กิกะบิตแบบซิงโครนัส DRAM ชิได้นอกจากนี้ในงาน ปีที่ส่งออกเพิ่มขึ้นถึงกว่า $10 พันล้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้ บริษัท ยังเริ่มแตกแขนงออกไปในโทรทัศน์สีและต่อมาเป็นความหลากหลายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยปี 1980 ซัมซุงเป็นผู้ผลิตจัดส่งและการขายที่หลากหลายของเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก. ขายที่ซัมซุงกลุ่มขยายตัวกว่า 2.5 เท่าระหว่างปี 1987 และปี 1992 และที่สำคัญซัมซุงเข้ามาจากกำไรจากการขายทำกำไรที่มีศักยภาพมากกว่า การวิจัยและการพัฒนาคู่การลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของคุนฮีลีเสนอราคาเชิงรุกที่จะทำให้ซัมซุงผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมการสื่อสาร นอกจากนี้การเป็นพันธมิตรกับสหรัฐและ บริษัท อิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่น, ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ได้มา บริษัท ที่มีเทคโนโลยีที่สำคัญรวมทั้งแฮร์ริสเซมิคอนดักเตอร์และไมโครเวฟแบบบูรณาการเทคโนโลยีโทรคมนาคม ในปี 1993 คุนฮีลีขายออกสิบของ บริษัท ย่อยของซัมซุงกลุ่มของห่ะ บริษัท และรวมการดำเนินงานอื่น ๆ ที่จะมีสมาธิในสามอุตสาหกรรม:. อิเล็กทรอนิกส์, วิศวกรรม, และสารเคมีภายใต้การนำของผู้บริหารระดับสูงของคิมกวางโฮ, ซัมซุงอิเล็กทรอนิคส์เข้ามา โลกไมโครชิปโดยพายุเมื่อจะนำชิป DRAM 4 เมกะบิตในปี 1994 ยอดขายของชิปที่ช่วยในการผลักดันยอดขายของซัมซุงจาก 10770000000 $ ในปี 1993 เพื่อ 14940000000 $ ในปี 1994 กำไรยิ่งลุกลามจาก $ 173,000 ถึงเกือบ $ 1300000000 นอกจากนี้ซัมซุงมีฉากคว้าหนาสำหรับส่วนแบ่งการตลาดในประเทศในปี 1995 โดยราคาอย่างเจ็บแสบสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ภายในบ้านได้มากถึงร้อยละ 16 และได้สร้างความประทับใจให้คนในวงการเมื่อมันเปิดตัวขั้นสูงฟิล์มบางทรานซิสเตอร์จอแสดงผลคริสตัลเหลว ( TFT-LCD) หน้าจอ - ใช้สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป -. ที่แสดงการค้าโลกในญี่ปุ่นซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและความสำเร็จทางเทคนิคทำให้ บริษัท อยู่ในความสนใจในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ชิป 4 เมกะบิตของมันในความเป็นจริงได้ทำให้มันผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกของชิป DRAM ต้นปี 1995 นอกจากนี้ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการเพิ่มการลงทุนในการพัฒนายังคงต่อไปเป็นหลักฐานโดย 2.5 พันล้านดอลลาร์ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา DRAM 64 เมกะบิต ชิปโดยปี 1998 ในเดือนธันวาคมของปี 1995 การพัฒนาในครั้งแรกของโลก 1 กิกะบิตชิป DRAM ซิงโครก็ยังอยู่ในงาน การส่งออกสำหรับปีเพิ่มขึ้นให้มากขึ้นกว่า $ 10000000000

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริษัทยังเริ่มแตกแขนงออกไปเป็นโทรทัศน์สีและต่อมาเป็นความหลากหลายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ โดยปี 1980 , ซัมซุงมีการผลิต ขนส่ง และขายที่หลากหลายของเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก


ขายที่ซัมซุง กรุ๊ป เติบโตมากกว่า 2.5 ครั้งระหว่างปี 1987 และปี 1992 ที่สำคัญซัมซุง ดึงจากกำไรกำไรศักยภาพการวิจัยมากกว่าสองเท่าและการพัฒนาการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของ คุน ฮี ลี ก้าวร้าว การเสนอราคาเพื่อให้ซัมซุงเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ และอุตสาหกรรมการสื่อสาร นอกจากการร่วมมือกับสหรัฐ และบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่น ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ บริษัทเทคโนโลยีที่ได้มาครอบครองสำคัญรวมทั้ง แฮร์ริส ไมโครเวฟ เซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีโทรคมนาคมครบวงจร ในปี 1993 , คุน ฮี ลี ขายสิบของซัมซุง กรุ๊ป บริษัท ลดขนาดบริษัท และผสานการดำเนินงานอื่น ๆที่จะมีสมาธิใน 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมและเคมีภัณฑ์

ภายใต้ภาวะผู้นำของหัวหน้าคิมควาง โฮซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เอาโลกโดยพายุเมื่อมันเปิดตัวชิปของ 4-megabit ชิป DRAM ใน 1994 ขายชิปช่วยดันยอดขายของซัมซุงจาก $ 10.77 พันล้านปี $ 14.94 ล้านบาทในปี 1994 กำไร นอกจากนี้ spiraled จาก $ 173000 ไปเกือบ $ 1.3 พันล้าน นอกจากนี้ซัมซุงได้ออกมาคว้าตัวหนาสำหรับตลาดในประเทศ ส่วนในปี 1995 โดย slashing ราคาสำหรับผู้บริโภคอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ภายในบ้านโดยมากที่สุดเท่าที่ร้อยละ 16 และมี wowed อุตสาหกรรมภายในเมื่อมันเปิดตัวขั้นสูงทรานซิสเตอร์ฟิล์มบาง ๆ liquid-crystal แสดง ( TFT LCD ) หน้าจอ -- ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป -- ในการค้าโลก

แสดงในญี่ปุ่นซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์อย่างรวดเร็วขึ้นและเทคนิคความสำเร็จให้บริษัทในปอตไลท์ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ชิ 4-megabit ของมันในความเป็นจริงทำให้ชั้นนําระดับโลกผู้ผลิต DRAM ชิปโดยช่วงต้นปี 1995 นอกจากนี้ ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ได้เพิ่มการลงทุนในการพัฒนายังคงเพิ่มเติม เป็น evidenced โดยค่าใช้จ่าย $ 2.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนา 64 กิโลบิต ชิป DRAM โดย 1998ในเดือนธันวาคมของปี 1995 พัฒนาแรกของโลก 1-gigabit Synchronous DRAM ชิปอยู่ในงาน สำหรับการส่งออกทั้งปีเพิ่มขึ้นมากกว่า $ 10 พันล้าน