Elderly living in residential and n

Elderly living in residential and nursing homes have specific psychosocial and spiritual needs which are in most cases not recognized and can thus not be addressed. As advised by Borg et al. [37] adequate health care for elderly should not only consider decreasing functional capacities of elderly, but also the individual's perception of health and self-esteem. The focus on personal factors seems to be of outstanding importance, and the findings of this study support this recommendation. However, it remains an open issue how these factors can be adequately supported.

Shea [4] advised that pastoral care specialists might be beneficial because they could help finding “inner power that produces hope and character”. However, most of the enrolled elderly had no specific interest in priests or chaplains. Other professions such as nurses, psychologists and social workers might be in charge to care, to listen and to help elderly to review their life which was a strong need among the residents enrolled in this study. Of course they might not be the most appropriate partners (the family seems to be of stronger importance), but they are often those who are more easily available, and they may be able to identify disrupted relationships. It is obvious that there is a need to “develop creative, long-range strategies for providing care” [4] which meet the needs of elderly living in secular societies. One interesting approach could be life reviews or reminiscing interventions. A randomized study by Gonçalves et al. [38] found that a life review decreased depressive symptoms and contributed to improve older womens' life satisfaction. A further randomized controlled study reported significantly lower depressive symptoms in elderly participating an autobiographical writing workshop [39]. In contrast, a randomized controlled study by de Medeiros et al. [40] found that an autobiographical writing workshop may improve the ratings of self-concept among older adults, but not their mood when compared to the outcomes of a reminiscence group (which was an active control intervention) or to a no-treatment control group. At least such life reviews may contribute to connect elderly with their own past, and can function as a “legacy” of life experiences to connect with future generations. This will meet the specific needs to reflect previous life and to pass own life experiences to others, and thus to connect with those who will remember them.

We hope that the current data and reflections encourage a discussion which integrative approaches might be appropriate to support elderly living in residential and nursing homes. Although one may assume that particularly interventions of the wide field of mind-body medicine might be beneficial, this remains to be verified.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยและสถานพยาบาลมี psychosocial และจิตวิญญาณความต้องการเฉพาะซึ่งในกรณีส่วนใหญ่ไม่รู้จัก และสามารถจึงไม่ได้รับ ตามคำแนะนำโดย Borg et al. [37] เพียงพอดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุไม่เพียงควรลดกำลังงานของผู้สูงอายุ แต่ยังรับรู้ของบุคคลสุขภาพและนับถือตนเอง เน้นปัจจัยส่วนบุคคลที่ดูเหมือนจะโดดเด่นสำคัญ และผลการวิจัยของการศึกษานี้สนับสนุนคำแนะนำนี้ อย่างไรก็ตาม มันยังคงอยู่ปัญหาเปิดอย่างไรปัจจัยเหล่านี้แต่เพียงพอไม่แพ็ค [4] แนะนำว่า pastoral ดูแลผู้เชี่ยวชาญอาจจะเป็นประโยชน์เนื่องจากจะช่วยให้การค้นหา "ภายในพลังงานที่ก่อให้เกิดความหวังและอักขระ" อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ของผู้สูงอายุเข้าเรียนก็ไม่สนใจเฉพาะพระสงฆ์หรือ chaplains อาชีพอื่น ๆ เช่นพยาบาล นักจิตวิทยา และสังคมอาจเป็นค่าดูแล ฟัง และเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุเพื่อทบทวนชีวิตที่แข็งแกร่งจำเป็นระหว่างผู้อยู่อาศัยที่ลงทะเบียนในการศึกษานี้ แน่นอนได้คู่ค้าที่เหมาะสมสุด (ครอบครัวน่าจะ เป็นของแข็ง), แต่มักที่จะพร้อมใช้งานได้ง่ายขึ้น และพวกเขาอาจจะสามารถระบุความสัมพันธ์ระหว่างสองวัน เป็นที่ชัดเจนว่า มีความจำเป็นในการ "พัฒนากลยุทธ์ความคิดสร้างสรรค์ พิสัยให้ดูแล" [4] ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในสังคมทางโลก วิธีหนึ่งที่น่าสนใจอาจจะรีวิวจากชีวิตหรือแทรกแซง reminiscing ศึกษาแบบ randomized โดย Gonçalves et al. [38] พบว่า ลดอาการ depressive ทบทวนชีวิต และส่วนการปรับปรุงความพึงพอใจชีวิตเก่าสตรี เพิ่มเติม randomized ควบคุมศึกษารายงานอาการ depressive ต่ำอย่างมีนัยสำคัญในผู้สูงอายุที่เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเขียนอัตชีวประวัติ [39] ในทางตรงกันข้าม การศึกษาควบคุม randomized โดย de Medeiros et al. [40] พบว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการเขียนอัตชีวประวัติอาจช่วยปรับปรุงการจัดอันดับของ self-concept ระหว่างผู้ใหญ่เก่า แต่ไม่อารมณ์ของพวกเขาเมื่อเปรียบเทียบ กับผลลัพธ์ของตัวอะไร (ที่ถูกขัดจังหวะโดยการควบคุมการทำงาน) หรือกลุ่มควบคุมไม่มีการรักษา รีวิวจากชีวิตน้อยดังกล่าวอาจนำไปสู่การเชื่อมต่อผู้สูงอายุ ด้วยตนเองที่ผ่านมา และสามารถฟังก์ชันเป็นแบบ "ดั้งเดิม" ของประสบการณ์ชีวิตที่เชื่อมต่อกับอนุชนรุ่นหลัง นี้จะสนองความต้องการเฉพาะ เพื่อสะท้อนชีวิตก่อนหน้า และ การผ่านประสบการณ์ชีวิตของตนเอง ให้ผู้อื่น และการเชื่อมต่อกับคนที่จะจำเราหวังว่า ข้อมูลปัจจุบันและสะท้อนกระตุ้นให้การสนทนาที่แนวทางแบบบูรณาการซึ่งอาจจะเป็นการสนับสนุนผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่พักอาศัยและสถานพยาบาล ถึงแม้ว่าหนึ่งอาจสมมติว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานของกว้างด้านร่างกายจิตใจยาอาจมีประโยชน์ นี้ยังคงที่จะตรวจสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้สูงอายุในบ้านที่อยู่อาศัยและการพยาบาลมีความต้องการด้านจิตสังคมและจิตวิญญาณที่มีความเฉพาะเจาะจงในกรณีส่วนใหญ่ไม่ได้รับการยอมรับและสามารถจึงไม่ได้รับการแก้ไข ตามคำแนะนำของแอนเดอและคณะ [37] การดูแลสุขภาพที่เพียงพอสำหรับผู้สูงอายุไม่ควรพิจารณาการลดขีดความสามารถในการทำงานของผู้สูงอายุ แต่ยังรับรู้ของแต่ละบุคคลของสุขภาพและความภาคภูมิใจในตนเอง มุ่งเน้นไปที่ปัจจัยส่วนบุคคลที่ดูเหมือนว่าจะมีความสำคัญโดดเด่นและผลการศึกษานี้สนับสนุนคำแนะนำนี้ แต่ก็ยังคงเปิดประเด็นว่าปัจจัยเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอ. เชีย [4] แนะนำว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลพระอาจจะมีประโยชน์เพราะพวกเขาสามารถช่วยให้การหา "พลังภายในที่ก่อให้เกิดความหวังและตัวอักษร" แต่ส่วนใหญ่ของผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนเรียนไม่ได้มีความสนใจเฉพาะในพระสงฆ์หรือภาคทัณฑ์ อาชีพอื่น ๆ เช่นพยาบาลนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลเพื่อรับฟังและจะช่วยให้ผู้สูงอายุที่จะทบทวนชีวิตของพวกเขาซึ่งเป็นความต้องการที่แข็งแกร่งในหมู่ประชาชนที่ลงทะเบียนเรียนในการศึกษานี้ แน่นอนว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้คู่ค้าที่เหมาะสมที่สุด (ครอบครัวที่ดูเหมือนว่าจะมีความสำคัญที่แข็งแกร่ง) แต่พวกเขามักจะมีผู้ที่มีความพร้อมใช้งานได้ง่ายขึ้นและพวกเขาอาจจะไม่สามารถที่จะระบุความสัมพันธ์ที่กระจัดกระจาย จะเห็นได้ชัดว่ามีความจำเป็นที่จะต้อง "พัฒนาความคิดสร้างสรรค์กลยุทธ์ระยะยาวสำหรับการให้การดูแล" [4] ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุในสังคมโลก วิธีการหนึ่งที่น่าสนใจอาจจะมีความคิดเห็นชีวิตหรือ reminiscing แทรกแซง การศึกษาแบบสุ่มโดยGonçalvesและคณะ [38] พบว่าการทบทวนชีวิตลดลงอาการซึมเศร้าและมีส่วนในการปรับปรุงความพึงพอใจในชีวิตของผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า ' การศึกษาแบบสุ่มเพิ่มเติมรายงานอย่างมีนัยสำคัญลดลงอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุที่เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการการเขียนอัตชีวประวัติ [39] ในทางตรงกันข้ามการศึกษาแบบสุ่มโดยเดอ Medeiros และคณะ [40] พบว่าการประชุมเชิงปฏิบัติการการเขียนอัตชีวประวัติอาจปรับปรุงการจัดอันดับของตัวเองแนวความคิดของผู้สูงอายุ แต่ไม่ได้อารมณ์ของพวกเขาเมื่อเทียบกับผลที่ได้จากกลุ่มความจำ (ซึ่งเป็นแทรกแซงการควบคุมการใช้งาน) หรือกลุ่มควบคุมไม่มีการรักษา . อย่างน้อยความคิดเห็นชีวิตดังกล่าวอาจนำไปสู่การเชื่อมต่อผู้สูงอายุกับอดีตของตัวเองและสามารถทำงานเป็น "มรดก" ของประสบการณ์ชีวิตการเชื่อมต่อกับคนรุ่นอนาคต นี้จะตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงที่จะสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตก่อนหน้านี้และที่จะผ่านประสบการณ์ชีวิตของตัวเองกับคนอื่น ๆ และทำให้การเชื่อมต่อกับผู้ที่จะจำได้. เราหวังว่าข้อมูลในปัจจุบันและสะท้อนกระตุ้นให้เกิดการอภิปรายซึ่งวิธีการแบบบูรณาการอาจจะเหมาะสมที่จะสนับสนุนผู้สูงอายุ ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่อยู่อาศัยและการพยาบาล แม้ว่าบางคนอาจคิดว่าการแทรกแซงโดยเฉพาะอย่างยิ่งของทุ่งกว้างของยาจิตใจร่างกายอาจจะมีประโยชน์นี้ยังคงที่จะตรวจสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยและพยาบาลมีความต้องการทางจิตสังคมและจิตวิญญาณที่เฉพาะเจาะจงซึ่งในกรณีส่วนใหญ่ไม่ได้รับการยอมรับ และสามารถจึงไม่ addressed ตามที่แนะนำโดย Borg et al . [ 37 ] ที่เพียงพอ การดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุไม่ควรพิจารณาลดการทำงานความจุของผู้สูงอายุ แต่ยังมีการรับรู้ของแต่ละบุคคลสุขภาพและคุณค่าในตัวเองมุ่งเน้นปัจจัยส่วนบุคคลที่ดูเหมือนว่าจะสำคัญที่โดดเด่น และผลการศึกษาครั้งนี้สนับสนุนข้อเสนอแนะนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาเปิดแล้วปัจจัยเหล่านี้จะเพียงพอรองรับ

เชียร์ [ 4 ] ทราบว่าพระดูแลผู้เชี่ยวชาญจะเป็นประโยชน์เพราะพวกเขาสามารถช่วยค้นหา " พลังงานภายในที่สร้างความหวังและตัวละคร " อย่างไรก็ตามที่สุดของการลงทะเบียนผู้สูงอายุมีความสนใจเฉพาะในพระหรือบาทหลวง . อาชีพอื่น เช่น พยาบาล นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลในการรับฟังและช่วยให้ผู้สูงอายุเพื่อทบทวนชีวิตของตนเองที่แข็งแรงต้องในหมู่ประชาชนลงทะเบียนเรียนในการศึกษานี้แน่นอน พวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นหุ้นส่วนที่เหมาะสมที่สุด ( ครอบครัวดูเหมือนว่าจะมีความสำคัญมากขึ้น แต่พวกเขามักจะเป็นผู้ที่มีอย่างง่ายดายสามารถใช้ได้ และพวกเขาอาจจะสามารถที่จะระบุทำลายความสัมพันธ์ มันเป็นที่ชัดเจนว่ามีความต้องการที่จะ " พัฒนา สร้างสรรค์ ระยะยาว กลยุทธ์สำหรับการให้การดูแล " [ 4 ] ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในโลกสังคมวิธีการหนึ่งที่น่าสนใจสามารถวิจารณ์ชีวิตหรือระลึกถึงคล้อย โดยการศึกษาโดย Gon Alves ทา et al . [ 38 ] พบว่า ทบทวนชีวิตลดลง อาการของโรคซึมเศร้า และส่วนปรับปรุงความพึงพอใจในชีวิตของผู้สูงอายุสตรี . การศึกษาควบคุมแบบเพิ่มเติมรายงานลดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุที่เข้าร่วมเป็นอัตชีวประวัติการเขียนเชิงปฏิบัติการ [ 39 ]ในทางตรงกันข้าม , สุ่มศึกษาโดยเดอ Medeiros et al . [ 40 ] พบว่ามีการประชุมเชิงปฏิบัติการการเขียนอัตชีวประวัติอาจปรับปรุงการจัดอันดับของอัตมโนทัศน์ของผู้สูงอายุ แต่ไม่ได้อารมณ์ เมื่อเทียบกับผลของกลุ่มความจํา ( ซึ่งเป็นการควบคุมงานแทรกแซง ) หรือไม่ การรักษากลุ่มอย่างน้อยในชีวิตรีวิว อาจมีส่วนช่วยให้เชื่อมต่อผู้สูงอายุกับอดีตของตนเอง และสามารถทำงานเป็น " มรดก " ของประสบการณ์ชีวิต เพื่อเชื่อมต่อกับคนรุ่นอนาคต นี้จะตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตก่อนหน้านี้และผ่านประสบการณ์ชีวิตของตัวเองกับคนอื่น ดังนั้น การ เชื่อม ต่อ กับ ผู้ ที่ จะ จำ ไว้ นะ

เราหวังว่าข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และสะท้อนกระตุ้นการอภิปรายซึ่งแนวทางบูรณาการอาจจะเหมาะสมเพื่อรองรับผู้สูงอายุที่อาศัยในที่อยู่อาศัยและพยาบาลบ้าน แม้ว่าหนึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่า โดยเฉพาะการแทรกแซงของทุ่งกว้างของจิตใจร่างกายยา อาจเป็นประโยชน์ นี้ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์