The term subsurface cavityis used t

The term subsurface cavity
is used to denote all subsurface features cavities, caves, caverns,
voids, karst, and sinkhole. The most abundant natural
cavities are formed by dissolution processes in carbonates (e.g.,
limestone and dolomite) and evaporates (e.g., salt, gypsum, and
anhydrite). Karst refers to a characteristic topographic feature that
is developed by dissolution made by downward percolating
meteoric water

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ช่อง subsurface ระยะใช้เพื่อแสดงพัฒนาการคุณลักษณะ subsurface ถ้ำ ถ้ำ ทั้งหมดvoids เทือกเขา และหลุมยุบ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากที่สุดพัฒนาการเกิดขึ้นจากกระบวนการยุบใน carbonates (เช่นหินปูนและโดโลไมต์) และระเหย (เช่น เกลือ ยิปซัม และแอนไฮไดรต์) เทือกเขาหมายถึงลักษณะที่ topographic คุณลักษณะที่พัฒนา โดยยุบทำ percolating ลงน้ำพุ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระยะโพรงดินถูกนำมาใช้เพื่อแสดงถึงดินทั้งหมดมีโพรงถ้ำถ้ำ, ช่องว่าง, หินปูนและมี้ ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดฟันผุจะเกิดขึ้นโดยกระบวนการสลายตัวในคาร์บอเนต(เช่นหินปูนและdolomite) และระเหย (เช่น, เกลือ, ยิปซั่มและแอนไฮโดร) Karst หมายถึงคุณลักษณะลักษณะภูมิประเทศที่มีการพัฒนาโดยการสลายตัวที่ทำโดยลงแทรกซึมน้ำอุตุนิยมวิทยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระยะการใช้โพรง
เพื่อแสดงคุณสมบัติทั้งหมดดินโพรงถ้ำ , ถ้ำ ,
เกิดช่องว่างคาสต์ และหลุมยุบ โพรงธรรมชาติ
ชุกชุมมากที่สุดจะเกิดขึ้นโดยกระบวนการการสลายตัวในซาร์ดิเนีย ( เช่น
หินปูนและโดโลไมต์ ) และระเหย ( เช่นเกลือยิปซั่มและ
แอนไฮไดรต์ ) อารมณ์ หมายถึง ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะที่
ถูกพัฒนาขึ้นโดยการละลายด้วยน้ำ ลง percolating
อุกกาบาต