A pot experiment was conducted in t

A pot experiment was conducted in the open net house of the Department of Agricultural Chemistry, Bangladesh Agricultural University, Mymensingh from January to June, 2007, to study the effect of organic and inorganic fertilizers on the growth, leaf yield, chlorophyll and protein contents of Stevia rebaudiana (Bert.). The experiment was laid out in completely randomized design with three replications having 16 treatment combinations. Four types of soil viz., saline, acidic, calcareous and non-calcareous soils were collected from Khulna, Tangail, Natore and Mymensingh districts of Bangladesh, respectively. Two organic (poultry manure and cow dung) and one inorganic fertilizers @ the recommended dose along with a control were used as treatment factor. The experimental results indicated that different soil types significantly influenced all parameters studied. The highest values of all parameters were obtained from the plant grown in noncalcareous soil which was identical with acidic soil for some parameters. Different types of organic and inorganic fertilizer had also significant influence on all plant parameters. In all cases, the highest values were recorded from the plant fertilized with chemical fertilizers. Poultry manure and cow dung also showed identical results with chemical fertilizer in most cases. Interaction effect of different types of soil and fertilizer showed significant variation for most of the parameters studied except chlorophyll and protein contents. Plants grown in noncalcareous soil fertilized with chemical fertilizers exhibited the best performance in most of the cases. The overall results suggested that stevia can be cultivated in noncalcareous and acidic soils fertilized with chemical fertilizers along with poultry manure favoring the productivity of stevia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดำเนินการทดลองหม้อในบ้านสุทธิเปิดภาค เคมีเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรบังกลาเทศ Mymensingh จากมกราคม-มิถุนายน 2550 การศึกษาผลของปุ๋ยอนินทรีย์ และอินทรีย์เติบโต ผลผลิตใบ คลอโรฟิลล์และโปรตีนเนื้อหาของ Stevia rebaudiana (เบิร์ต) การทดลองถูกวางการออกแบบสุ่มอย่างสมบูรณ์กับระยะที่สามมีชุดรักษา 16 ชนิดของดิน viz. เค็ม เปรี้ยว เนื้อปูน และดินไม่ใช่เนื้อปูนถูกรวบรวมจากย่านในบังกลาเทศ Khulna, Tangail, Natore และ Mymensingh ตามลำดับ สองอินทรีย์ (สัตว์ปีกมูลและวัวขี้) และปุ๋ยอนินทรีย์แอทปริมาณแนะนำพร้อมกับตัวควบคุมถูกใช้เป็นปัจจัยการรักษา ผลการทดลองระบุว่า ดินที่แตกต่างกันชนิดผลพารามิเตอร์ทั้งหมดที่ศึกษา ค่าสูงสุดของพารามิเตอร์ทั้งหมดที่ได้จากพืชที่ปลูกในดิน noncalcareous ซึ่งเหมือนกับดินกรดสำหรับพารามิเตอร์บางตัว ชนิดของปุ๋ยอนินทรีย์ และอินทรีย์นี้มีอิทธิพลสำคัญในพารามิเตอร์ทั้งหมดของโรงงาน ในทุกกรณี มีบันทึกค่าสูงสุดจากโรงงานที่ปฏิสนธิ ด้วยปุ๋ยเคมี มูลวัวและมูลไก่ยังแสดงผลเหมือนกับปุ๋ยเคมีส่วนใหญ่ ผลปฏิสัมพันธ์ของดินและปุ๋ยชนิดต่าง ๆ พบว่าเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของพารามิเตอร์ที่ศึกษายกเว้นเนื้อหาคลอโรฟิลล์และโปรตีนส่วนใหญ่ พืชที่ปลูกในดิน noncalcareous ที่ปฏิสนธิ ด้วยปุ๋ยเคมีจัดแสดงประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดในนั้นส่วนใหญ่ ผลลัพธ์โดยรวมแนะนำว่า หญ้าหวานสามารถปลูกได้ในดินเปรี้ยว และ noncalcareous ที่ปฏิสนธิ ด้วยปุ๋ยเคมีพร้อมกับมูลไก่ที่นิยมผลผลิตของหญ้าหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทดลองหม้อได้ดำเนินการในบ้านสุทธิเปิดภาควิชาเคมีการเกษตร, ประเทศบังกลาเทศเกษตรมหาวิทยาลัย Mymensingh ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนปี 2007 เพื่อศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และอนินทรีต่อการเจริญเติบโตผลผลิตใบคลอโรฟิลและโปรตีนของ Stevia rebaudiana (เบิร์ต.) การทดลองออกมาวางในการออกแบบแบบสุ่มสมบูรณ์ด้วยซ้ำสามมีทรีทเมนท์ 16 รวมกัน สี่ประเภท ได้แก่ ดิน. น้ำเกลือเป็นกรดด่างและไม่ใช่เนื้อปูนดินที่ถูกเก็บรวบรวมจาก Khulna, Tangail, Natore และ Mymensingh อำเภอของบังคลาเทศตามลำดับ สองอินทรีย์ (มูลไก่และมูลวัว) และปุ๋ยอนินทรี @ ปริมาณที่แนะนำพร้อมด้วยเครื่องควบคุมถูกนำมาใช้เป็นปัจจัยการรักษา ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าดินประเภทที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญอิทธิพลพารามิเตอร์ทั้งหมดศึกษา ค่าสูงสุดของพารามิเตอร์ทั้งหมดที่ได้รับจากพืชที่ปลูกในดิน noncalcareous ซึ่งเป็นเหมือนกันกับดินที่เป็นกรดสำหรับพารามิเตอร์บางอย่าง ชนิดที่แตกต่างกันของปุ๋ยอินทรีย์และอนินทรียังมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญในพารามิเตอร์พืชทั้งหมด ในทุกกรณีค่าสูงสุดที่ถูกบันทึกไว้จากโรงงานปุ๋ยปุ๋ยเคมี มูลไก่และมูลวัวยังแสดงให้เห็นผลเหมือนกันกับปุ๋ยเคมีในกรณีส่วนใหญ่ ผลการทำงานร่วมกันของชนิดของดินและปุ๋ยที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญมากที่สุดของพารามิเตอร์ศึกษายกเว้นคลอโรฟิลและโปรตีน พืชที่ปลูกในดิน noncalcareous ปฏิสนธิกับปุ๋ยเคมีแสดงประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดในส่วนของกรณีที่ ผลลัพธ์โดยรวมบอกว่าหญ้าหวานสามารถปลูกในดินที่เป็นกรดและ noncalcareous ปฏิสนธิกับปุ๋ยเคมีพร้อมกับมูลไก่นิยมผลผลิตของหญ้าหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หม้อทดลองในโรงเรือนตาข่ายเปิดกรมเกษตรเคมีเกษตรมหาวิทยาลัยบังคลาเทศ Mymensingh ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 เพื่อศึกษาผลของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีต่อการเจริญเติบโต ผลผลิตใบ คลอโรฟิลล์ และปริมาณโปรตีนของหญ้าหวานมากขึ้น ( เบิร์ต ) การทดลองที่แสดง in Completely Randomized Design มี 3 ซ้ำมี 16 ชุดรักษา 4 ประเภท ได้แก่ ดิน เกลือ เปรี้ยว เนื้อดินเนื้อปูนและไม่เก็บจาก Khulna , T ā ng ā il , และ natore Mymensingh เขตของบังคลาเทศ ตามลำดับ 2 ปุ๋ยอินทรีย์ ( มูลไก่และมูลวัวและปุ๋ยอนินทรีย์ @ อัตราแนะนำพร้อมกับควบคุม พบว่า ปัจจัยการรักษา ผลการทดลองพบว่าดินประเภทต่าง ๆที่มีอิทธิพลต่อทุกพารามิเตอร์ที่ศึกษา คุณค่าสูงสุดของพารามิเตอร์ทั้งหมดที่ได้มาจากพืชที่ปลูกในดิน noncalcareous ซึ่งเหมือนกันกับที่ดินที่เป็นกรดสำหรับพารามิเตอร์ ประเภทที่แตกต่างกันของสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ ปุ๋ยก็มีผลต่อค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ของพืช ในทุกกรณี คุณค่าสูงสุดที่ถูกบันทึกไว้จากพืชผสมกับปุ๋ยเคมี มูลไก่และมูลวัว พบผลลัพธ์ที่เหมือนกันกับปุ๋ยเคมีในกรณีส่วนใหญ่ ปฏิสัมพันธ์ของชนิดของดินและปุ๋ย พบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของตัวแปรที่ศึกษา ยกเว้นปริมาณคลอโรฟิลล์ และโปรตีน พืชที่ปลูกในดินผสมกับปุ๋ยเคมี noncalcareous แสดงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในส่วนใหญ่ของกรณี ผลโดยรวมพบว่า หญ้าหวานสามารถปลูกได้ในดิน noncalcareous และกรดผสมกับปุ๋ยเคมี พร้อมกับการใช้มูลไก่สนับสนุนผลผลิตของหญ้าหวาน