Smoking is the main risk factor for

Smoking is the main risk factor for lung cancer and is responsible for more than 80% of lung cancers. The longer you have smoked and the more you smoke, the more likely you are to get lung cancer. If you stop smoking before cancer cells develop, lung tissue that has been damaged by smoking will start to repair. An ex-smoker's risk will not be as low as that of a person who never smoked, but over time, their risk will go down. Cigar smoking and pipe smoking are almost as likely to cause lung cancer as cigarette smoking.

Even secondhand smoke, the kind inhaled from nearby smokers, can cause lung cancer. Nonsmokers who are married to smokers have a 30% greater risk of developing lung cancer than spouses of nonsmokers.

Living in an environment with high air pollution or working with radioactive minerals or asbestos can also increase the risk of cancer. Research has helped us to understand how these risk factors produce certain changes in the DNA of lung cells. These changes cause the cells to grow abnormally and form cancers.

DNA is the genetic material that carries the instructions for nearly everything our cells do. Some genes (parts of our DNA) contain instructions for controlling when cells grow and divide. The risk factors discussed earlier can trigger changes, also called mutations, in these genes that result in cancer. A risk for some types of cancer (e.g., breast, ovarian, colorectal, and several others) can be inherited from parents. However, inherited gene mutations are not thought to be a cause of very many lung cancers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักสำหรับโรคมะเร็งปอด และรับผิดชอบมากกว่า 80% ของโรคมะเร็งปอด อีกต่อไปคุณมีรมควัน และการสูบบุหรี่ ยิ่งคุณจะได้รับมะเร็งปอด ถ้าคุณหยุดสูบบุหรี่ก่อนพัฒนาเซลล์มะเร็ง เนื้อเยื่อปอดที่ได้รับความเสียหาย โดยการสูบบุหรี่จะเริ่มซ่อมแซม เป็นอดีตสูบบุหรี่เป็นความเสี่ยงจะต่ำสุดที่คนไม่เคยรมควัน แต่ช่วงเวลา ความเสี่ยงจะไปลง บุหรี่ซิการ์และบุหรี่ท่อจะเกือบเป็นแนวโน้มที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดเป็นบุหรี่สูบได้

ไดร์ secondhand ชนิดที่ช่วยในจากผู้สูบบุหรี่ในบริเวณใกล้เคียง สามารถทำให้เกิดมะเร็งปอดได้ สูบบุหรี่ที่แต่งงานกับผู้สูบบุหรี่มี 30% มากกว่าความเสี่ยงพัฒนาโรคมะเร็งปอดมากกว่าคู่สมรสของสูบบุหรี่

อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือทำงานกับแร่กัมมันตรังสีหรือใยหินสามารถยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง วิจัยได้ช่วยให้เราเข้าใจว่าปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ผลิตบางอย่างเปลี่ยนแปลงในดีเอ็นเอของเซลล์ปอด เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้เซลล์เจริญเติบโตอย่างผิดปกติ และเป็นมะเร็ง

ดีเอ็นเอเป็นวัสดุทางพันธุกรรมที่คำแนะนำในเกือบทุกเซลล์ของเราทำ บางยีน (ชิ้นส่วนของ DNA) ประกอบด้วยคำแนะนำสำหรับการควบคุมเมื่อเซลล์เจริญเติบโต และแบ่ง ปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้สามารถกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง เรียกว่ากลายพันธุ์ ในยีนเหล่านี้ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ความเสี่ยงสำหรับบางชนิด (เช่น เต้านม รังไข่ ลำ ไส้ มะเร็ง และหลายอื่น ๆ) สามารถสืบทอดมาจากพ่อแม่ได้ อย่างไรก็ตาม กลายพันธุ์ของยีนที่สืบทอดมาจะไม่คิดว่า เป็น สาเหตุของโรคมะเร็งปอดมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักสำหรับโรคมะเร็งปอดและเป็นผู้รับผิดชอบมากกว่า 80% ของมะเร็งปอด คุณอาจจะมีรมควันและยิ่งคุณสูบบุหรี่มีแนวโน้มที่คุณจะได้รับโรคมะเร็งปอด ถ้าคุณหยุดสูบบุหรี่ก่อนที่เซลล์มะเร็งพัฒนาเนื้อเยื่อปอดที่ได้รับความเสียหายจากการสูบบุหรี่จะเริ่มซ่อมแซม ความเสี่ยงอดีตสูบบุหรี่จะไม่จะต่ำเป็นที่ของคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเสี่ยงของพวกเขาจะลงไป การสูบบุหรี่และการสูบบุหรี่ซิการ์ท่อเกือบจะเป็นแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดเป็นการสูบบุหรี่แม้สูบบุหรี่มือสองชนิดสูดดมจากผู้สูบบุหรี่ที่อยู่ใกล้เคียงสามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด ไม่สูบบุหรี่ที่มีการแต่งงานกับผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงมากขึ้น 30% ของการเกิดมะเร็งปอดมากกว่าคู่สมรสที่ไม่สูบบุหรี่ของการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษทางอากาศสูงหรือการทำงานกับแร่ธาตุกัมมันตรังสีหรือใยหินยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง มีงานวิจัยที่ช่วยให้เราเข้าใจว่าปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในดีเอ็นเอของเซลล์ปอด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้เซลล์ที่จะเติบโตอย่างผิดปกติและโรคมะเร็งรูปแบบดีเอ็นเอเป็นสารพันธุกรรมที่ดำเนินคำแนะนำสำหรับการเกือบทุกเซลล์ของเราทำ บางยีน (ส่วนของดีเอ็นเอของเรา) มีคำแนะนำในการควบคุมเมื่อเซลล์เจริญเติบโตและแบ่ง ปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่าการกลายพันธุ์ในยีนเหล่านี้ที่ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็ง ความเสี่ยงสำหรับโรคมะเร็งบางชนิด (เช่นเต้านมรังไข่ลำไส้ใหญ่และอื่น ๆ หลาย ๆ คน) สามารถสืบทอดจากพ่อแม่ แต่ได้รับการถ่ายทอดการกลายพันธุ์ของยีนที่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอดมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักสำหรับโรคมะเร็งปอดและรับผิดชอบมากกว่า 80% ของโรคมะเร็งปอด . อีกต่อไปที่คุณมีรมควันและยิ่งสูบบุหรี่ มีโอกาสมากขึ้นคุณจะได้รับโรคมะเร็งปอด ถ้าคุณหยุดสูบบุหรี่ก่อนที่เซลล์มะเร็งพัฒนาเนื้อเยื่อของปอดที่ได้รับความเสียหาย โดยการสูบบุหรี่จะเริ่มซ่อมแซม ความเสี่ยงอดีตผู้สูบบุหรี่จะไม่่ว่าคนที่ไม่เคยรมควันแต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเสี่ยงจะลดลง สูบบุหรี่ซิการ์และท่อสูบบุหรี่เกือบแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดมะเร็งในปอด เช่น การสูบบุหรี่ ควันบุหรี่มือสอง

แม้ ชนิดสูดดมจากคนใกล้เคียง สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด คู่ที่แต่งงานกับผู้สูบบุหรี่มี 30% มากกว่าความเสี่ยงของการพัฒนาโรคมะเร็งปอดมากกว่าคู่สมรสของ nonsmokers .

อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษในอากาศสูง หรือทำงานกับน้ำแร่กัมมันตรังสีหรือใยหินยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง มีงานวิจัยที่ช่วยให้เราเข้าใจถึงปัจจัยความเสี่ยงเหล่านี้ผลิตการเปลี่ยนแปลงบางอย่างใน ดีเอ็นเอ ของปอด เซลล์ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสาเหตุให้เซลล์เติบโตผิดปกติและรูปแบบของโรคมะเร็ง .

ดีเอ็นเอเป็นสารพันธุกรรมที่พกคำแนะนำสำหรับเกือบทุกเซลล์ของเราทำ ยีนบางตัว ( ส่วนของดีเอ็นเอของเรา ) มีคำแนะนำสำหรับการควบคุม เมื่อเซลล์เจริญเติบโตและแบ่ง . ปัจจัยความเสี่ยงที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้สามารถกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง เรียกว่าการกลายพันธุ์ในยีนเหล่านี้ส่งผลในมะเร็ง ความเสี่ยงโรคมะเร็งบางชนิด ( เช่น เต้านม รังไข่ ลำไส้ใหญ่ ,และหลายอื่น ๆ ) สามารถสืบทอดจากพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม การสืบทอดยีนกลายพันธุ์ ไม่คิดว่าจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด มากมายเลย