Several types of organophosphate an

Several types of organophosphate and carbamate pesticides have been used extensively by the farmers in Thailand during the last few decades. This study examines the use of organophosphate and carbamate pesticides and cholinesterase levels in the blood (AChE) of farmers by using reactive paper on samples which were taken from 236 farmers in Sam Chuk district, Suphan Buri province. Moreover, information on the application, code of practices, duration, and frequency of the use of organophosphate and carbamate pesticides was obtained from questionnaires and analyzed by using descriptive statistics and correlation coefficients. The results showed that 37.3% had AChE levels lower than standard (< 87.5 units/ml) indicating a risk to health (28.8%) and an unsafe condition (8.5%). The use of chemical pesticides was related to the AChE levels of farmers as follows: methods of uses (r = 0.452, p < 0.001), practice (r = 0.396, p < 0.001), duration (r = 0.206, p < 0.004), chemical content (r = - 0.243, p < 0.001), frequency (r = - 0.210, p < 0.001) and chemical type (r = 0.171, p < 0.001). While 80.9% of farmers used the pesticides in both groups, most farmers (76.7%) used the labeled instruction incorrectly by overusing the chemical pesticides, followed by wrong practices (53%), application (51.3%), duration (39.4%), and frequency (39.4%). The results of the AChE levels of farmers were 62.7% within standard (≥ 87.5 units/ml) which were considered safe levels.However, in order to be safe, farmers should strictly follow the instructions on the label/packaging of chemicals for application procedures and use personal protective equipment regularly. Especially, the farmers who had AChE levels lower than standard.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายชนิดของสารกำจัดศัตรูพืชและคาร์บาเม organophosphate ได้รับการใช้อย่างกว้างขวางโดยเกษตรกรในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา การศึกษาครั้งนี้จะตรวจสอบการใช้งานของ organophosphate และยาฆ่าแมลงคาร์บาเมและระดับที่แท้จริงของเอนไซม์ในเลือด (เจ็บ) ของเกษตรกรโดยใช้กระดาษปฏิกิริยากับตัวอย่างที่ถูกนำมาจาก 236 เกษตรกรในอำเภอสามชุกจังหวัดสุพรรณบุรี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้รหัสของการปฏิบัติระยะเวลาและความถี่ของการใช้สารกำจัดศัตรูพืช organophosphate และคาร์บาเมที่ได้รับจากแบบสอบถามและวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า 37.3% มีระดับเจ็บต่ำกว่ามาตรฐาน (<87.5 ยูนิต / มล.) แสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพ (28.8%) และสภาพที่ไม่ปลอดภัย (8.5%) การใช้สารเคมีที่เกี่ยวข้องกับระดับที่เจ็บของเกษตรกรดังต่อไปนี้: วิธีการของการใช้งาน (r = 0.452, p <0.001) การปฏิบัติ (r = 0.396, p <0.001) ระยะเวลา (r = 0.206, p <0.004) เนื้อหาสารเคมี (r = - 0.243, p <0.001) ความถี่ (r = - 0.210, p <0.001) และประเภทสารเคมี (r = 0.171, p <0.001) ในขณะที่ 80.9% ของเกษตรกรที่ใช้สารกำจัดศัตรูพืชในทั้งสองกลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่ (76.7%) ที่ใช้ในการเรียนการสอนที่มีข้อความไม่ถูกต้องโดย overusing สารเคมีตามด้วยการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง (53%) แอพลิเคชัน (51.3%) ระยะเวลา (39.4%) และความถี่ (39.4%) ผลของระดับเจ็บของเกษตรกรเป็น 62.7% อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (≥ 87.5 ยูนิต / มล.) ซึ่งได้รับการพิจารณา levels.However ปลอดภัยในการสั่งซื้อเพื่อความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดเกษตรกรควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก / บรรจุภัณฑ์ของสารเคมีสำหรับขั้นตอนการสมัคร และใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรที่มีระดับต่ำกว่าเจ็บมาตรฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายประเภทของคาร์บอนและเมตยาฆ่าแมลงถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยเกษตรกรในประเทศไทยในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงการใช้คาร์บอนและสารกำจัดศัตรูพืชเมตและระดับโคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกร ( ปวด ) โดยใช้กระดาษ Reactive ในตัวอย่างที่นำมาจาก 236 ราย อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี นอกจากนี้ข้อมูลในใบสมัคร รหัสของการปฏิบัติ ระยะเวลา และความถี่ของการใช้คาร์บอนและเมตยาฆ่าแมลงที่ได้รับจากแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า ร้อยละ 37.3 ปวดระดับต่ำกว่ามาตรฐาน ( < 87.5 หน่วย / มล. ) บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพ ( 28.8 % ) และสภาพที่ไม่ปลอดภัย ( 8.5% )การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช มีความสัมพันธ์กับระดับการปวดของเกษตรกร ดังนี้ วิธีใช้ ( r = 0.452 , p < 0.001 ) การปฏิบัติ ( r = 0.396 , p < 0.001 ) , ระยะเวลา ( r = 0.206 , P < 0.004 ) เนื้อหาเคมี ( r = 0.243 , p < 0.001 ) ความถี่ ( r = - 0.210 , P < 0.001 ) และชนิดเคมี ( r = 0.171 , p < 0.001 ) ในขณะที่ 80.9% ของเกษตรกรที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในกลุ่ม เกษตรกรส่วนใหญ่ ( 767% ) ใช้ป้ายคำสั่งไม่ถูกต้องโดย overusing สารเคมียาฆ่าแมลง ตามด้วยการปฏิบัติผิด ( 53% ) , โปรแกรม ( 51.3 % ) , ระยะเวลา ( ประมาณ 15% ) และความถี่ ( 39.4 เปอร์เซ็นต์ ) ผลของระดับอาการปวดของเกษตรกร 62.7 % ภายในมาตรฐาน ( ≥ 87.5 หน่วย / มล. ) ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยเกษตรกรควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำบนฉลาก / บรรจุภัณฑ์ของสารเคมีในขั้นตอนการสมัครและการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรที่มีอาการปวดระดับต่ำกว่ามาตรฐาน