Callogenesis is a helping tool in t

Callogenesis is a helping tool in tissue culture for creating variation. The study was carried out to investigate the
response of different sugarcane varieties to callogenesis in order to analyze variation for sugarcane mosaic virus
resistance. Three sugarcane accessions viz HSF-242, S2003-US-623, and S2003-US-633 were used in this study.
The genotypes showed high value of callus score ranging from 2.59 to 3.25. Genotype HSF-242 was highest callus
producer with an average score of 3.25. Three different media were used for organogenesis. S2003-US-633 proved
to be the most responsive to organogenesis with an average of 43.33%. Material was exposed to shooting and
rooting media and somaclones were shifted to green house. The somaclones produced were screened for sugarcane
mosaic virus by ELISA (enzyme linked immunosorbent assay). Among 10 parent plants and 32 somaclones of
HSF-242, only four somaclones showed susceptibility to SCMV disease while seven (7) parents showed positive
reaction to the disease. Somaclones produced were also analyzed by microsattelite molecular markers to check the
variation between parents and somaclones produced at molecular level. Molecular markers are useful for
assessment of variation and phylogenetic relationships. Out of thirty (30) fragments amplified with fifteen (15)
primers used among the sugarcane somaclones and parents, eleven (11) bands were polymorphic while rest of the
nineteen (19) bands were monomorphic. Therefore, it may be concluded from the present results that SSRs can be
used for identification of somaclonal variation and the relationship between parents and Somaclones.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Callogenesis เป็นเครื่องมือช่วยในเนื้อเยื่อสำหรับการสร้างการเปลี่ยนแปลง การศึกษาดำเนินการตรวจสอบการเพื่อตอบสนองของพันธุ์อ้อยที่แตกต่างกันเพื่อวิเคราะห์ความผันแปรสำหรับไวรัสโมเสกอ้อย callogenesisความต้านทาน อ้อยสาม accessions ค่าว HSF-242, S2003-สหรัฐอเมริกา-623 และ S2003-สหรัฐอเมริกา-633 ถูกใช้ในการศึกษานี้การศึกษาจีโนไทป์แสดงให้เห็นว่าค่าสูงของแคลลัสที่คะแนนถึง 2.59 3.25 จีโนไทป์ HSF-242 คือ แคลลัสที่สูงที่สุดโปรดิวเซอร์ ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.25 สามสื่อถูกใช้สำหรับอวัยวะ S2003-สหรัฐอเมริกา-633 พิสูจน์จะ ตอบสนองมากที่สุดให้อวัยวะโดยเฉลี่ย 43.33% รับการสัมผัสวัสดุการถ่ายภาพ และสื่อทำลายและ somaclones ย้ายมาอยู่ที่บ้านสีเขียว คัด somaclones ที่ผลิตสำหรับอ้อยไวรัสโมเสก โดย ELISA (เอนไซม์เชื่อมโยง immunosorbent assay) หมู่ 10 แม่พืชและ 32 somaclones ของHSF-242, somaclones เพียงสี่แสดงความไวต่อการเกิดโรค SCMV ในขณะที่ 7 พ่อแม่แสดงให้เห็นในเชิงบวกปฏิกิริยากับโรค ผลิต Somaclones ยังถูกวิเคราะห์ โดย microsattelite เครื่องหมายโมเลกุลเพื่อตรวจสอบการผันแปรระหว่างพ่อแม่และ somaclones ผลิตในระดับโมเลกุล เครื่องหมายโมเลกุลที่มีประโยชน์สำหรับการประเมินผลของการเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ทาง จากสามสิบ (30) ส่วนขยายด้วยสิบห้า (15)ไพรเมอร์ที่ใช้ในหมู่ somaclones อ้อยและพ่อแม่ สิบเอ็ด (11) วงดนตรีมี polymorphic ขณะที่เหลือการเก้า (19) วงถูก monomorphic ดังนั้น มันอาจจะสรุปจากผลการนำเสนอว่า สามารถเป็น SSRsใช้สำหรับการระบุ somaclonal รูปและความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองและ Somaclones

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Callogenesis เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสำหรับการสร้างรูปแบบ การศึกษาได้ดำเนินการในการตรวจสอบ
การตอบสนองของพันธุ์อ้อยที่แตกต่างเพื่อ callogenesis ในการวิเคราะห์รูปแบบสำหรับอ้อยโมเสคไวรัส
ต้านทาน สามสาย ได้แก่ อ้อย HSF-242, S2003-US-623 และ S2003-US-633 ถูกนำมาใช้ในการศึกษานี้.
ยีนแสดงให้เห็นว่ามีมูลค่าสูงของแคลลัสคะแนนตั้งแต่ 2.59-3.25 genotype HSF-242 เป็นแคลลัสสูงสุด
ผลิตมีคะแนนเฉลี่ย 3.25 สามสื่อที่แตกต่างกันถูกนำมาใช้สำหรับอวัยวะ S2003-US-633 ได้รับการพิสูจน์
ให้เป็นที่สุดเพื่อตอบสนองอวัยวะมีค่าเฉลี่ย 43.33% วัสดุได้สัมผัสกับการถ่ายภาพและ
สื่อรากและ somaclones กำลังขยับไปที่บ้านสีเขียว somaclones ที่ผลิตได้รับการตรวจคัดกรองอ้อย
โมเสคไวรัสโดยวิธี ELISA (เอนไซม์ที่เชื่อมโยงการทดสอบอิมมูโน) ในบรรดาพืช 10 ผู้ปกครองและ 32 somaclones ของ
HSF-242 เพียงสี่ somaclones แสดงให้เห็นความอ่อนแอต่อโรค SCMV ขณะที่เจ็ด (7) แสดงให้เห็นว่าพ่อแม่บวก
ปฏิกิริยาต่อการเกิดโรค Somaclones ผลิตยังนำมาวิเคราะห์โดยโมเลกุล microsattelite เพื่อตรวจสอบ
การเปลี่ยนแปลงระหว่างผู้ปกครองและ somaclones ผลิตในระดับโมเลกุล โมเลกุลจะมีประโยชน์สำหรับ
การประเมินผลของการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการความสัมพันธ์ ออกจากสามสิบ (30) ชิ้นส่วนขยายกับสิบห้า (15)
ไพรเมอร์ที่ใช้ในหมู่ somaclones อ้อยและพ่อแม่ของเอ็ด (11) วงดนตรีที่เป็น polymorphic ในขณะที่ส่วนที่เหลือของ
เก้า (19) วงดนตรีที่เป็น monomorphic ดังนั้นจึงอาจสรุปจากผลการปัจจุบันที่ SSRs สามารถ
นำมาใช้เพื่อระบุตัวตนของแปรผันของเซลล์ร่างกายและความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และ Somaclones

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

callogenesis เป็นเครื่องมือช่วยในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง . การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการตอบสนองของพันธุ์อ้อยที่แตกต่างกันเพื่อ callogenesis เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงอ้อยฝังไวรัสความต้านทาน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ อ้อย hsf-242 s2003-us-623 , และ s2003-us-633 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้การเปรียบเทียบค่าสูงของแคลลัสมีคะแนนตั้งแต่ 2.59 3.25 . hsf-242 genotype เป็นแคลลัสสูงสุดผู้ผลิตที่มีคะแนนเฉลี่ย 3.25 . ามสื่อต่าง ๆที่ใช้คือแกโนเจเนซิส . s2003-us-633 พิสูจน์ให้มากที่สุดเพื่อตอบสนองแกโนเจเนซิสด้วยเฉลี่ย receptacle ) วัสดุที่ถูกยิงและรากสื่อ และกลุ่มที่ถูกย้ายไปที่บ้านสีเขียว กลุ่มที่ผลิตจากอ้อยทำด้วยโมเสคไวรัสด้วยวิธี ELISA ( เอนไซม์เชื่อมโยง immunosorbent assay ) ระหว่าง 10 และกลุ่มผู้ปกครองพืช 32 ของhsf-242 เพียง 4 กลุ่ม พบว่าเกิดโรค scmv ในขณะที่เจ็ด ( 7 ) ผู้ปกครองพบบวกปฏิกิริยาต่อโรค กลุ่มผลิตยังโดยใช้โมเลกุลเครื่องหมายไมโครแซทเทลไลท์เพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างผู้ปกครองและกลุ่มที่ผลิตในระดับโมเลกุล เครื่องหมายโมเลกุลที่มีประโยชน์สำหรับการประเมินการเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ phylogenetic . จากสามสิบ ( 30 ) การกระจายตัวของสิบห้า ( 15 )ไพรเมอร์ที่ใช้ในไร่อ้อย และกลุ่มผู้ปกครอง สิบเอ็ด ( 11 ) วงดนตรีที่สร้างความแตกต่างในขณะที่ส่วนที่เหลือ19 ( 19 ) รัด monomorphic . ดังนั้น จึงอาจจะสรุปได้จากผลที่ ssrs สามารถใช้รหัสของการแปรผันและความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองและกลุ่ม .